ชัยชนะเหนือ ฝรั่งเศส ในเกมล่าสุดถือเป็นสัญญาณอันดีว่าทัพ 'กังหันสีส้ม' หรือ ทีมชาติฮอลแลนด์ อยู่ในจุดที่กำลังจะกลับมาผงาดอีกครั้ง
จากความผิดหวังที่อดตีตั๋วไปตะลุยในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ๆ อย่าง ฟุตบอล ยูโร 2016 ไล่มาจน ฟุตบอลโลก 2018 ทีมชาติฮอลแลนด์ ได้ถึงคราวประยุกต์และสร้างทีมขึ้นมาใหม่ โดยค่อยๆ ปั้นและให้โอกาสแข้งหน้าใหม่ๆ ได้ก้าวขึ้นสัมผัสกับประสบการณ์ต่างๆ นาๆ ผสมกับแท็คติกและการวางแผนของยอดกุนซืออย่าง โรนัลด์ คูมัน ทำให้พวกเขากลับกลายมาเป็นศัตรูที่น่าเกรงขามอีกครั้ง
ส่วนผสมสำคัญของ ฮอลแลนด์ ชุดนี้ที่เด่นๆ จนเป็นที่ต้องตาก็จะมี เวอร์จิล ฟาน ไดค์ หัวใจสำคัญในแนวรับ, จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม แกนหลักในแผงมิดฟิลด์ และแนวรุกที่กำลังฟอร์มฮอตสุดๆ อย่าง เมมฟิส เดปาย แต่จริงๆ เบื้องหลังของความแข็งแกร่งนี้ยังต้องยกความดีความชอบให้กับเหล่าบรรดาแข้งหน้าใหม่อีกหลายคนด้วย จะมีใครบ้างนั้นไปทำความรู้จักพวกเขาคร่าวๆ กัน
แมตธิส เดอ ลิกต์ - อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม
เพิ่งได้โอกาสรับใช้ทีมชาติ ฮอลแลนด์ ชุดใหญ่เพียงไม่กี่นัด แต่สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงไปเรียบร้อยแล้วสำหรับ แมตธิส เดอ ลิกต์ เซ็นเตอร์แบ็กดาวรุ่งวัย 19 ปีจากค่าย อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม เห็นเด็กแบบนี้แต่อย่ามองข้ามเป็นอันขาด เพราะนี่คือหนึ่งในกองหลังที่น่าจับตามองที่สุดในยุคนี้ ด้วยความครบเครื่องเรื่องสรีระอันสูงใหญ่, มีพละกำลังมหาศาล, มีทักษะการจ่ายบอลที่แม่นยำ และที่เป็นจุดเด่นที่สุดเลยก็คือการเล่นลูกกลางอากาศได้ดีทั้งในตอนรับและตอนรุก ถ้าเกิดได้ลูกเตะมุมหรือลูกเซ็ตพีซบอกเลยว่าทีมสามารถหวังผลได้กับเด็กคนนี้ และยิ่งได้เล่นเคียงข้างกับรุ่นพี่อย่าง เวอร์จิล ฟาน ไดค์ มันจะทำให้ไอ้หมอนี่ได้เรียนรู้อะไรได้อีกเยอะ และด้วยอายุเพียงแค่นี้มีอายุการใช้งานอีกเพียบ จึงไม่แปลกที่ทีมใหญ่ๆ กำลังจ้องตาเป็นมัน
เดนเซล ดุมไฟรส์ - พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น
เดนเซล ดุมไฟรส์ พูดชื่อนี้ไปเชื่อว่ากว่า 90 เปอร์เซนต์คงจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไอ้หมอนี่เป็นใคร ? แต่ก็ไม่แปลกอะไรเพราะนี่คือนักเตะที่ โรนัลด์ คูมัน เพิ่งจะให้โอกาสได้สัมผัสกับ ฮอลแลนด์ ชุดใหญ่เพียงแค่ 2 นัด ถึงแม้ชื่อชั้นจะโนเนมแต่ขอบอกเลยว่าของโคตรดี ด้วยทักษะเด่นๆ รอบด้านมากๆ ไม่ว่าจะเป็นความรวดเร็วคล่องตัว, ไปกับบอลได้ดี, การครอสส์บอลจากด้านข้างที่แม่นยำ, ตลอดจนการดักทางคู่แข่งราวกับอ่านใจได้ ซึ่งไม่แปลกใจเลยว่าทำไม คูมัน ถึงไว้ใจให้ไอ้หมอนี่ลงเล่นเป็นตัวจริงทั้งนัดเจอ เยอรมัน และ ฝรั่งเศส
นาธาน อาเก้ - บอร์นมัธ
จากนักเตะที่ดูไร้อนาคตกับ เชลซี แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นแข้งที่ถูกจับตามองมากๆ คนหนึ่งจากเหล่าทีมใหญ่สำหรับ นาธาน อาเก้ การย้ายไปอยู่กับ บอร์นมัธ ทำให้เราได้รู้ว่าไอ้เด็กคนนี้มันมีของและมีความสารพัดประโยชน์มากๆ เล่นได้หลายบทบาททั้งฟูลแบ็ก เซ็นเตอร์แบ็ก ไล่มาจนมิดฟิลด์ตัวรับ ในยุคของ โรนัลด์ คูมัน ทาง อาเก้ อาจยังไม่ใช่ตัวหลัก แต่ก็ได้ลงสนามเป็นหมากไปแก้เกมแทบทุกนัด และก็ได้ผลที่พึงพอใจด้วย แต่เชื่อว่าด้วยฟอร์มแบบนี้อีกไม่นานต้องได้ยึดตำแหน่งตัวจริงแน่นอน เพราะกุนซือระดับ คูมัน น่าจะรู้ดีว่าจะต้องใช้งานแบบไหน
ดอนนี่ ฟาน เดอ บีค - อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม
ดอนนี่ ฟาน เดอ บีค ก็เป็นอีกหนึ่งนักเตะดาวรุ่งที่เพิ่งจะได้โอกาสกับทีมชาติ ฮอลแลนด์ ชุดใหญ่ และก็ยึดบทบาทตัวจริงได้โดยทันทีในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลาง ซึ่งเหล่าบรรดาคนดังๆ ในวงการลูกหนังแดนกังหันต่างยกให้ ฟาน เดอ บีค เป็นผู้เล่นเบอร์ 6 ที่ดีที่สุดในชั่วโมงนี้ เพราะมีจุดเด่นเรื่องวิสัยทัศน์, การอ่านจังหวะเกมได้ขาด, เก็บบอลดี, จ่ายบอลแม่นทั้งระยะสั้นและระยะไกล ตลอดจนการเปลี่ยนจากรับเป็นรุกที่ต้องคอยเชื่อมเกมกับแดนหน้าไอ้หมอนี่ก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยมได้ใครต่อใครต่างยกย่องว่าเป็น 'นิว ดาวี่ คลาสเซ่น'
เฟรงกี้ เดอ ยอง - อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม
เฟรงกี้ เดอ ยอง ได้รับการยกย่องว่าเป็นวันเดอร์คิดที่มีพรสวรรค์สูงที่สุดในยุคนี้กับบทบาทมิดฟิลด์ตัวกลาง โดยมีจุดเด่นเรื่องของการคุมจังหวะเกม, ครองบอลได้ดี, เล่นบอลเท้าสู่เท้าได้เนียนตา จนใครต่อใครต่างมองว่านี่คือ 'เซร์คิโอ บุสเก็ตส์' คนต่อไปของโลกลูกหนัง และก็ไม่แปลกเลยที่ตอนนี้ บาร์เซโลน่า จะกำลังตามจีบอยู่ แต่สิ่งที่ เฟรงกี้ มีแต่ บุสเก็ตส์ ไม่มีคือการไปกับบอลได้ดี, การขับเคลื่อนเกมลากบอลทะลุทวงได้ด้วยตัวเอง ซึ่งปีก่อนมีการเปิดเผยสถิติออกมาว่า เฟรงกี้ มีเปอร์เซนต์การเลี้ยงบอลผ่านคู่ต่อสู้สำเร็จถึง 93 เปอร์เซนต์เลยทีเดียว และเมื่อมันเป็นแข้งที่ครบเครืองแบบนี้มันก็ไม่แปลกหรอกที่ทีมใหญ่ๆ จะสนใจ และ โรนัลด์ คูมัน เองก็ให้โอกาสไอ้หมอนี่ได้เป็นตัวจริงยาวๆ
สตีเฟ่น เบิร์กไวจ์น - พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น
ถัดมาดูที่เกมรุกอีกหนึ่งแข้งดาวรุ่งที่สอบผ่านในทีมชาติ ฮอลแลนด์ ยุคนี้เลยก็คือ สตีเฟ่น เบิร์กไวจ์น ปีกดาวโรจน์จาก พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น นอกจากจะมีความรวดเร็วความคล่องตัวที่เป็นอาวุธหลักแล้ว อีกหนึ่งที่สิ่งที่มหัศจรรย์สำหรับตัวเขาคือเทคนิคการแต่งบอลในจังหวะต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการจับบอลและลุยไปต่อเองหรือป้อนบอลต่อให้เพื่อนพี่แกทำได้เยี่ยมโดยทีการเดินเกมนั้นไม่ได้เสียขบวนหรือเสียจังหวะเลยสักนิดซึ่งจุดนี้จะเป็นประโยชน์มากยามเล่นเกมสวนกลับ แต่จุดด้อยของ เบิร์กไวจ์น ก็คือการจบสกอร์ที่ยังไม่ค่อยแม่นยำเท่าไหร่ เอาง่ายคือใช้โอกาสเปลืองนั่น แต่ด้วยวัยแค่ 21 ปีเท่านั้นมันยังมีเวลาและพ้อยต์ในการอัพสกิลอีกเยอะ
กั๊บโจ๊ะโล๊ะ 3ทหารเสือไปไหนทำไมไม่ลง 55
18 พ.ย. 2561 เวลา 09.50 น.
ADS09LEKMAN รุด กุลลิบไม่ได้ลงไงว๊ะ555
18 พ.ย. 2561 เวลา 09.21 น.
Yanyong9933(张汉兴) ชื่ออ่านยากจำยากชิปเป๋ง
ถ้าฮอลแลนด์ได้แชมป์โลกอีก4ปีข้างหน้า ตรูจะจำชื่อนักเตะได้สักกี่คน ฮา
18 พ.ย. 2561 เวลา 08.53 น.
Ake อัศวินสีส้มคืนชีพ
18 พ.ย. 2561 เวลา 06.46 น.
TAHANPAMAR ไรอั้น ดัมเบล มรึงเอาไปไว้ไหน
17 พ.ย. 2561 เวลา 15.26 น.
ดูทั้งหมด