ดร.อมรเทพ จาวะลา โพสเฟสบุ๊กส่วนตัว “ดร.อมรเทพ จาวะลา “ ผู้อำนวยการอาวุโส สำนักวิจัย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ระบุข้อความกรณีที่ คลังเก็บภาษีดอกเบี้ยเงินฝาก – ในความวุ่นวายของข่าวนี้ ผมยังอยากชวนมองภาพกว้างๆ ถึงเจตนาของคลังกันดูครับ เพราะตามหลัก คนที่มีรายได้ก็มีหน้าที่เสียภาษี ดอกเบี้ยก็เป็นรายได้ประเภทหนึ่ง ยิ่งหลังๆ มีข่าวคนใช้ทางเลี่ยงกฏหมาย ด้วยการปิดบัญชีเมื่อดอกเบี้ยใกล้ครบสองหมื่นแล้วเปิดใหม่ ก็หลบภาษีได้สบายๆ
ผมมองเรื่องนี้อยู่สองประเด็นครับ ประเด็นแรก ผมเห็นด้วยที่คนมีรายได้ควรมีส่วนร่วมในการจ่ายภาษี เพียงแต่วิธีการอาจลองฝากปรับให้ยืดหยุ่น ไม่กระทบคนหมู่มากดู เช่น ต้องให้เจ้าของบัญชีติดต่อแบงก์เอง ซึ่งอาจยุ่งยากสำหรับคนสูงอายุหรือคนไม่มีเวลา น่าลองใช้อินเตอร์เน็ตหรือจดหมายหรือโทรศัพท์ได้ด้วย และน่าขยายเวลาจากพ.ค.ออกไปอีกหน่อยครับ
และประเด็นที่สอง ผมมองเรื่องการกระจายการลงทุน ลองคิดดูว่าหากเงินฝากออมทรัพย์เสียภาษี คนก็ไปฝากประจำ (ดอกเบี้ยสูงกว่าแต่จ่ายภาษี 15%) หรือไปลงทุนตราสารหนี้ หรืออื่นๆ ดูด้วยได้ แต่ต้องมีความเข้าใจว่าการลงทุนอื่นแม้มีความเสี่ยงต่ำ แต่ก็ไม่เหมือนเงินฝากนะครับ
สุดท้ายหากใครที่ต้องจ่ายภาษีจากดอกเบี้ย แม้เล็กๆ น้อยๆ อย่ากังวลครับ เพราะท่านสามารถขอเรียกคืนภาษีได้ จาก ภงด. 90 จริงๆ คนไทยเราไม่อยู่ในระบบภาษีเงินได้เยอะมากๆ ลองคิดในแง่บวกได้ครับว่า ในความยุ่งยากนี้ก็คงเป็นการเก็บข้อมูลเพื่อขยายฐานภาษีนั่นเอง อย่าเพิ่งรีบปิดบัญชีถอนเงินมาฝังตุ่มนะครับ
แต่ผมยังหวังลึกๆ ให้คลังหาวิธีใหม่เถอะครับ อย่าเผาป่าเพื่อล่าสิงโตไม่กี่ตัว โดยไม่สนว่ากระต่าย กระรอก สัตว์ตัวเล็กตัวน้อยจะตื่นตูมเลย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีดังกล่าวเกิดจากประกาศอธิบดีกรมสรรพากร (ฉบับที่ 344) ลงวันที่ 4 เมษายน 2562 ให้ผู้ฝากเงินแจ้งความประสงค์ต่อธนาคารที่ตนเองมีเงินฝากอยู่ว่า ยินยอมให้ธนาคารส่งข้อมูลดอกเบี้ยเงินฝากประเภทออมทรัพย์ของผู้ฝากเงิน ให้แก่กรมสรรพากรทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้กรมสรรพากรทราบจำนวนดอกเบี้ยเงินฝากประเภทออมทรัพย์ของผู้ฝากเงินในทุกบัญชีของทุกธนาคาร
โดยผู้ฝากเงินที่ได้ดอกเบี้ยไม่เกิน 20,000 บาทต่อปี หากยินยอมให้ธนาคารส่งข้อมูลให้กรมสรรพากร จะไม่ต้องเสียภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย 15% ซึ่ง เดิมผู้ฝากเงินที่มีดอกเบี้ยไม่เกิน 20,000 บาทต่อปี จะไม่ต้องเสียภาษีใดๆ ของใหม่หากผู้ฝากเงินไม่เซ็นยินยอมทางธนาคารก็จะหัก 15% ของดอกเบี้ยเงินฝากที่ได้รับส่งกรมสรรพากรทันที จนสร้างความตื่นตระหนกให้กับผู้ฝากเงินและสร้างความปั่นป่วนให้กับธนาคาร เนื่องจากกรมสรรพากรให้เวลาดำเนินการน้อยเกินไป
นงลักษณ์ ปิ๊ง
พูดถูกต้อที่สุดค่ะ
คนรวยมีอยู่กระจุกเดียว หามาตรการ
เก็บจากพวกคนรวยดีกว่า คุณหว่านเก็บ
แบบนี้ คนมีฐานะกลางๆที่เกษียนไม่มีรายได้
แล้ว มาเจอแบบนี้ก็ลำบากนะ
22 เม.ย. 2562 เวลา 05.59 น.
สมุทร ข้าถอนหมดธนาคารแน่ มีหลักหมื่น ไม่เซ็นต์ยินยอมด้วย ไม่ไว้ใจสรรพากรว่ะ.
21 เม.ย. 2562 เวลา 19.33 น.
Nat ไทยทุกข์น้อย แต่อดอยากมาก
21 เม.ย. 2562 เวลา 05.29 น.
Chulabhath คนรวย มีกำลัง เสียภาษีประเภทนี้อยู่แล้ว
คนจน ไม่กระทบอยู่แล้ว
คนชั้นกลาง เดือดร้อนแน่ ได้แก่ ข้าราชการเกษียณ, SME ,ธุรกิจครอบครัว, เงินมรดก เหล่านี้เดือดร้อน เงินไม่มากพอแค่เลี้ยงตัวโดยนำดอกผลมาใช้และเพื่อประกันชีวิตรที่มั่นคง หากกลุ่มเหล่านี้ล่มไปอยู่กลุ่มคนจน คนรวยยิ่งรวยมาขึ้นคนจนยิ่งเพิ่มจำนวนมากขึ้น
20 เม.ย. 2562 เวลา 22.42 น.
GreenPower Thailand เรื่องภาษีเป็นอะไรที่ยุ่งยากซับซ้อน ค่อยข้างเสียเวลาหากเกิดปัญหา และต้องจ้างผู้เชี่ยวชาญด้านบัญชี สำหรับผู้ประกอบการจดทะเบียน ถ้ามีการออกแบบให้ระบบมันง่ายๆ โปร่งใส จัดเก็บเป็นธรรมตรงไปตรงมา มีความรวดเร็วน่าจะเป็นการดี หวังว่าจะมีเทคโนโลยีอันชาญฉลาดมาแก้ไขเรื่องนี้ได้โดยเร็ว ประเด็นการจัดเก็บภาษีก็สำคัญประเด็นหนึ่ง และอีกประเด็นที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือการนำเงินภาษีไปใช้
20 เม.ย. 2562 เวลา 18.01 น.
ดูทั้งหมด