ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถ.นครไชยศรี เมื่อช่วงเย็น วันที่ 24 พ.ค.61 พนักงานสอบสวน บก.ป. ได้ควบคุมตัวพระชั้นผู้ใหญ่ 5 รูป ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับคดีร่วมกันฟอกเงินทุจริตเงินอุดหนุนการศึกษา โรงเรียนพระปริยัติธรรม ตั้งแต่ปี 2557 รวมกว่า 150 ล้านบาท ประกอบด้วย "พระศรีคุณาภรณ์" ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ , "พระครูสิริวิหารการสมจิตร จันทร์ศรี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ , "พระวิจิตรธรรมาภรณ์หรือเจ้าคุณเทอด" ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ , "พระพรหมดิลก (เอื้อน หาสธมฺโม)" เจ้าอาวาสวัดสามพระยา กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) และเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร และ "พระอรรถกิจโสภณ" เลขาเจ้าคณะกรุงเทพ วัดสระสามพระยา มายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรก ข้อหากระทำผิด พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 24 พ.ค. - 4 มิ.ย.นี้ เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น จะต้องสอบปากคำพยานเพิ่มเติมอีก ซึ่งท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการให้ประกันตัวผู้ต้องหาทั้งหมดด้วย
ซึ่งนอกจากพระชั้นผู้ใหญ่ทั้ง 5 รูปแล้ว พนักงานสอบสวนยังได้ควบคุมตัวฆราวาส อีก 4 คนที่ถูกกล่าวหาร่วมกระทำผิดด้วยคือ น.ส.ฑัมม์พร นิพนธ์พิทยา มารดาของ ร.ท.ฐิติทัศน์ , น.ส.นุชรา สิทธินอก แม่บ้านร่วมรับโอนเงิน 25 ล้านบาท , นายธีระพงษ์ พันธุ์ศรี และนายทวิช สังข์อยู่ ซึ่งเกี่ยวข้องกับ บริษัท ดีดีทวีคูณ ที่รับผลิตสื่อให้กับวัดสระเกศ มายื่นฝากขังครั้งแรกด้วยเช่นกัน
โดยศาลพิจารณาคำร้องแล้ว อนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหาทั้ง 9 รายได้
ต่อมา ทนายความ ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสด เพื่อขอปล่อยชั่วคราวผู้ต้องทั้ง 9 รายๆ ละ 250,000 บาท รวมเงินประกันทั้งสิ้น 2,250,000 บาท
กระทั่งเวลา 20.20 น. ศาลได้มีคำสั่งไม่ให้ประกันตัว ผู้ต้องหาทั้ง 9 ราย โดยศาลพิเคราะห์แล้ว คดีมีอัตราโทษสูง พฤติการณ์การกระทำความผิดมีผลกระทบต่อพุทธศาสนาและมีลักษณะเป็นขบวนการ โดยมีการแบ่งหน้าที่ยักย้ายเงินที่ได้มาผ่านทางธนาคาร จึงต้องมีเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดอยู่ในความครอบครองของผู้ต้องหากับพวก หากให้ปล่อยชั่วคราวแล้วเชื่อว่าผู้ต้องหาจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานเป็นอุปสรรคหรือก่อให้เกิดความเสียหายต่อการสอบสวนของเจ้าพนักงาน ประกอบกับพนักงานสอบสวนคัดค้าน จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว จึงให้ยกคำร้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังศาลมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวแล้ว ก็ได้มาทำการสึกพระชั้นผู้ใหญ่ทั้ง 5 รูปจากความเป็นพระ โดยถอดพระเหลือง แล้วให้สวมชุดขาว โดยทั้งพระชั้นผู้ใหญ่ 5 รูปและฆราวาสอีก 4 ราย ได้ถูกควบคุมตัวไปคุมขังยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และทัณฑสถานหญิงกลาง ระหว่างการฝากขังนี้ต่อไป
ซึ่งแม้ศาลยังไม่ให้ประกันตัว แต่หลังจากนี้ ก็ยังสามารถใช้สิทธิตามกฎหมายที่จะยื่นคำร้องขอประกันตัวใหม่ต่อศาลอาญา หรือยื่นอุทธรณ์การประกันตัวต่อศาลอุทธรณ์ต่อไป ซึ่งการยื่นสามารถดำเนินการได้ตลอดในช่วงระยะฝากขังในคดีดังกล่าว.
A-kitsanapak ไอ้หัวโล้นเอ้ยเต็มวัดทุกวันนี้ บวชทีอยู่ยังกะราชา ชาวบ้านนี้หาเช้ากินค่ำ เค้าอุตส่าไปทำบุญด้วยใจ บอกเลยเป็นทุกวัดที่ใหญ่ๆดัง ผมจึงเบือนหน้าหนีวัดพวกนี้ มีโอกาสหาทำบุญตามวัดห่างไกลครับ เค้าขอแค่หลอดไฟกับเสาไฟ ก็มีค่ามหาศาล กว่าไอ้พวกสร้างโบสถ์สร้างศาล 100-1,000 ล้านไม่รู้มันจะสร้างหาอะไร เป็นวัดแต่กลับทำยังกะราชวัง ชาวพุทธบางทีก็งมงายจนเกินไป ผมไม่ไปไหว้หรอกวัดดังๆใหญ่ๆ พระจะที่ไหนก็มีความสำคัญเท่ากัน อยู่ที่ใจเราต่างหาก คนส่วนใหญ่ไปทำไรไปมีแต่ขอๆที่ไหนดังที่ไหนดี เล่าโจทย์กันไป เลยแห่กันไปทีนี้
24 พ.ค. 2561 เวลา 23.29 น.
P CHANPHET28 กรณีนี้ยังไม่มีความผิดเเค่ข้อกล่าวหา เเละก็สามารถประกันสึกคดีได้ เเล้วถ้าพระท่าน บริสุทธิจาการตัดสินใครรับผิดชอบ จากการสึกพระท่าน คดีนี้ไม่เหมือนของ พระอิสระ หรือนายสุวิทย์ ที่เป็นคดี ปี 57 ที่มาจับเเล้วจะให้สังคมดูเป็นตัวอย่าง ว่าสึกอิสระ เชือกไกให้ลองดูหรือ แผนล้มกรรมการ มส.
25 พ.ค. 2561 เวลา 00.41 น.
ศุภวิชญ์.74.(NR.302) มีอีกเยอะ แบบนี้ลุกลามไปทั้ว กิเลสในตัวมนุษย์ล้างไม่หมดดอก
25 พ.ค. 2561 เวลา 03.41 น.
อภิรัตน์ ยึดทรัพย์ให้หมดเกลี้ยงเลย
24 พ.ค. 2561 เวลา 17.05 น.
ต้องใช้ไม้แข็งเปรตในร่างพระไม้นวมเอาไม่อยู่มันแถไปเรื่อยทำถูกแล้วเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ขออนุโมทนา
25 พ.ค. 2561 เวลา 02.31 น.
ดูทั้งหมด