กรมการขนส่งทางบก ยืนยัน!! ไม่ยึดคืนใบอนุญาตขับรถตลอดชีพและไม่เรียกผู้มีใบอนุญาตขับรถตลอดชีพทั้งหมดมาทดสอบสมรรถนะใหม่หรือทดสอบขับรถใหม่ตามข้อมูลที่มีการแชร์กันในขณะนี้อย่างแน่นอน แต่จะศึกษาถึงแนวทางการคัดกรองผู้ที่ขาดสมรรถนะหรือมีสภาวะโรคที่แพทย์วินิจฉัยแล้วเห็นว่ามีความเสี่ยงหรือมีผลต่อประสิทธิภาพการขับขี่อย่างปลอดภัย
นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบกยืนยันว่าจะไม่ยึดคืนใบอนุญาตขับรถตลอดชีพและไม่เรียกผู้มีใบอนุญาตขับรถตลอดชีพทั้งหมดมาทดสอบสมรรถภาพของร่างกายใหม่หรือทดสอบขับรถใหม่ตามข้อมูลที่มีการแชร์กันในขณะนี้อย่างแน่นอน แต่จะมีการศึกษาว่าจะทำอย่างไรที่คัดกรองผู้ที่ร่างกายเสื่อมสมรรถภาพหรือมีสภาวะโรคที่แพทย์วินิจฉัยแล้วเห็นว่ามีผลต่อประสิทธิภาพการขับขี่อย่างปลอดภัย เช่น โรคทางสมอง โรคปัญหาการมองเห็นที่รักษาไม่หาย เป็นต้น เพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่และผู้ใช้รถใช้ถนนร่วมกัน โดยการศึกษาดังกล่าวต้องหารือร่วมกับกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข และแพทยสภา และต้องพิจารณาข้อกฎหมายประกอบอย่างรอบคอบเพื่อไม่ให้กระทบสิทธิผู้ถือใบอนุญาตขับรถตลอดชีพ ดังนั้น ที่มีการแชร์ข้อมูลว่าจะมีการยึดคืนใบอนุญาตขับรถตลอดชีพที่ออกให้แล้วหรือการให้เข้ามาทดสอบสมรรถภาพของร่างกายใหม่หรือทดสอบขับใหม่จึงไม่เป็นความจริง การดำเนินการเกี่ยวกับใบอนุญาตขับรถยังคงเป็นไปตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องตามปกติ
อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมการขนส่งทางบกยังได้มีการนำสถิติการเกิดอุบัติเหตุและผลการศึกษาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุมาวิเคราะห์เพื่อหาแนวทางในการยกระดับมาตรฐานการออกใบอนุญาตขับรถ โดยแบ่งเป็น 7 มิติ ประกอบด้วย 1.การกำหนดสภาวะโรค 2.การทดสอบสมรรถภาพทางร่างกาย 3.การอบรมและทดสอบความรู้ของผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถ (ภาคทฤษฎี) โดยจะมีการทบทวนและปรับปรุงเนื้อหาหลักสูตรการอบรม ให้สอดคล้องกับการขอรับใบอนุญาต พร้อมทั้งจัดทำระบบอบรมภาคทฤษฎีออนไลน์แบบ e-Learning 4.การอบรมการขับรถและทดสอบความสามารถในการขับรถของผู้ขอรับใบอนุญาตภาคปฏิบัติ 5.การบริหารจัดการ 6.การปรับปรุงรูปแบบใบอนุญาตขับรถ โดยจะปรับปรุงให้สอดคล้องกับอนุสัญญาเวียนนาว่าด้วยการจราจรทางถนน ค.ศ. 1968 และ 7.การควบคุมพฤติกรรมการขับรถด้วยมาตรการตัดแต้ม (การติดตามประเมินผล) เพื่อพัฒนามาตรฐานใบอนุญาตขับรถของประเทศไทยให้ครอบคลุมทุกมิติ ยกระดับความปลอดภัยทางถนนของประเทศ
Cr.กรมการขนส่งทางบก PR.DLT.News
ธนกร (นพ) สุขเกษม อาการแบบที่ว่าไม่มีใครมาขับรถหรอก ลูกๆญาติๆคงไม่มีใครยอมให้ขับ เมาเหล้าก็ไม่ใช่ 70 ขึ้นไปแล้วไม่มีใครมาเสี่ยงหากไม่พร้อม เอาคยนหนุ่มๆมาควบคุมจะดีกว่ามั้ย เห็นหัวร้องแยะ
09 ส.ค. 2563 เวลา 04.43 น.
Mano คิดได้ไง เรื่องโง่ๆๆ ฉลาดนัก
09 ส.ค. 2563 เวลา 04.36 น.
กี้ (ข้าวยำ) แบบนี้ขอชื่นชมนะ ค่อยมีหลักการสากลหน่อย ผู้ใหญ่กากานี้ไม่น่าเอามาโชว์เลย
09 ส.ค. 2563 เวลา 04.35 น.
Redstar503 คงโดนด่าเยอะ กับแนวคิดนี้ แต่มันก้อดีนะถ้าทำจริง ร่างแบบแผนมาว่าจะให้ทดสอบแบบไหน ไปทำข้อมูลมา ไม่ใช่เรียกเขามาทำให้เสียเวลา เป็นวัน
09 ส.ค. 2563 เวลา 04.33 น.
อู๋ ทำให้มันเหมือนๆกัน มารตฐานเดียวกันถูกต้องแล้วครับ
09 ส.ค. 2563 เวลา 04.22 น.
ดูทั้งหมด