7 แสนคน ยังไม่ยืนยันสิทธิ์ ‘ชิมช้อปใช้’ เสี่ยงถูกยึดเงินคืน คลังเผยสิ้นเดือนนี้รู้ผลเฟส 2
เมื่อวันที่ 10 ต.ค. นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง กล่าวถึงกรณีผู้ประกอบการรายใหญ่ ได้จัดทำโปรโมชั่นกระตุ้นให้ผู้รับสิทธิใช้เงินให้หมดเพียงครั้งเดียว หรือ โปรโมชั่นอื่นๆ ควบกับมาตรการนี้นั้น ถือเป็นการกระทำผิดเจตนารมณ์ของมาตรการนี้ จึงขอให้เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างเข้มงวด เพราะเป้าหมายของมาตรการนี้ คือการกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับฐานราก ซึ่งผู้ประกอบการรายใหญ่ก็สามารถเข้าร่วมได้ในระดับหนึ่ง เพราะถือว่าช่วยให้เกิดการซื้อขายสินค้าสนับสนุนภาคการผลิต และช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้รับสิทธิ์ แต่รายใหญ่ก็ไม่ควรนำมาตรการนี้มาจัดทำโปรโมชั่นมากเกินไป
“ยืนยันวัตถุประสงค์เดิมของมาตรการ ชิมช้อปใช้ คือการกระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยในระบบเศรษฐกิจฐานราก เกิดการท่องเที่ยวในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ทำให้ผู้ประกอบการรายย่อย ร้านค้าชุมชน วิสาหกิจชุมชน ได้รับประโยชน์สูงสุด ดังนั้นหากพบการกระทำที่ไม่เหมาะสม ในมาตรการ “ชิมช้อปใช้” พี่น้องประชาชน สามารถร้องเรียนได้ผ่าน กรมบัญชีกลาง โทร 0-2270-6400 กด 7 เพื่อให้มาตรการนี้เกิดประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องประชาชน”
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
นายอุตตม กล่าวต่อว่า ขณะนี้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) และธนาคารกรุงไทย กำลังเร่งพิจารณารายละเอียดโครงการชิมช้อปใช้ระยะสองอยู่ แต่จะเสร็จไม่ทันส่งให้ ครม. พิจารณาในวันที่ 15 ต.ค.นี้ คลังยืนยันว่าชิมช้อปใช้จะต้องได้ข้อสรุปภายในเดือนนี้แน่นอน เพื่อให้เริ่มใช้ได้ต่อเนื่องในเดือนพ.ย.ทันที
ด้านนายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า คลังได้ทยอยตัดสิทธิผู้ลงทะเบียนชิมช้อปใช้วันแรก ที่ยังไม่ได้ยืนยันตัวตนและเริ่มใช้จ่าย 1,000 บาทแล้ว โดยมีผลตั้งแต่เที่ยงคืน 1 นาทีของวันที่ 11 ต.ค.เป็นต้นไป เนื่องจากเกินกำหนดใช้จ่ายภายใน 14 วัน ซึ่งหลังจากนี้จะนำสิทธิที่ตัดกลับมาเปิดให้ลงทะเบียนใหม่
“การตัดสิทธิชิมช้อปใช้จะมีการตัดทุกวันหลังจากนี้ หากใครครบ 14 วันแล้วยังไม่ยอมใช้จ่ายครั้งแรกก็จะถูกตัดสิทธิทันที จึงขอแจ้งเตือนให้ผู้รับสิทธิชิมช้อปใช้ ให้รีบยืนยันตัวตนและใช้เงินครั้งแรกภายใน 14 วัน เพื่อรักษาสิทธิการใช้ไปจนถึงวันที่ 30 พ.ย.2562 ซึ่งปัจจุบันมีคนที่ลงทะเบียนได้รับสิทธิแล้วแต่ยังไม่ยอมยืนยันตัวตนและใช้จ่ายครั้งแรกอยู่ประมาณ 7 แสนคน จากผู้ได้รับสิทธิทั้งหมดเกือบ 10 ล้านคน ซึ่งกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงที่จะถูกตัดสิทธิและยึดเงินคืนก่อน” นายลวรณ เผย
一刀看血 หาร้านใช้สิทธิยาก มีแต่ชื่อ ขายอะไรไม่รู้ รายละเอียดไม่มี มีพิกัดต้องดูทีละอันๆ เสียเวลา มีgisไว้ทำไม โปรเจคตั้งใหญ่ ส่วนร้านเล็กๆไม่รู้จักติดป้ายชิมชอปใช้ไว้หน้าร้าน ใครจะไปหาเจอ แล้วมาบ่นว่าสู้ร้านใหญ่ไม่ได้ ทำตัวเองแบบกบในบ่อแล้วบ่นทำไม
11 ต.ค. 2562 เวลา 03.54 น.
คุณแม่🤣🤣 ุยืนยันตัวตนเปนวันไม่ได้เราแก่ขึ้นหน้าเปลียนต้องไปทำที่กรุงไทยค่ารถไปกลับร้อยกว่าบาหลายวันแล้วเขาไม่เหนส่งอะไรมาบอกเลยว่าได้รึไม่ได้ทำไงดี
11 ต.ค. 2562 เวลา 04.07 น.
Jȏһṅ Ṡṭȏċҡṭȏṅ มึงก็รู้ตั้งแต่แรกนี่ว่ามันจะเกิดปัญหาผู้ค้ารายใหญ่จะแย่งลูกค้าจากรายเล็ก ถ้าเป็นมึง มึงก็ต้องโกยไว้ก่อน ก็คนมันอยากขายของ ยิ่งในช่วงเศรษฐกิจแบบนี้ไง คือจะไปห้ามเขาไม่จัดโปรฯ ทั้งๆที่เขามีโปรประจำอยู่แล้วมันดูยากไปหน่อย
แล้วถามว่า ตาสีตาสา คนแก่ๆไม่มีสมาร์ทโฟนจะใช้สิทธิ์ยังไงวะ เหมือนบัตรคนจน ร้านค้าเล็กๆขายของยากขึ้นไปอีกไง
11 ต.ค. 2562 เวลา 03.48 น.
Fαяツ อยากให้มีเปลี่ยนจังหวัดได้ ใช้สิทธิไม่ทัน ปล่อยยึดไปแล้ว
11 ต.ค. 2562 เวลา 03.25 น.
จะแจกทั้งทีใส่่บัญชีคนจนๆๆเลย
11 ต.ค. 2562 เวลา 03.16 น.
ดูทั้งหมด