นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ในปี ค.ศ.2018 องค์การอนามัยโลก ได้ประกาศ "โรคติดเกม" (Gaming Disorder) เป็นหนึ่งในโรคทางจิตเวช มีผลกระทบเชิงลบต่อสุขภาพ ครอบครัว การศึกษา การงานอาชีพ และสังคม
ซึ่งโรคติดเกม คือ โรคที่เกิดจากพฤติกรรมเสพติด ในทางสมองมีลักษณะคล้ายกับติดสารเสพติด เป็นอุปสรรคสำคัญต่อการพัฒนาสมอง พัฒนาการ และพฤติกรรมของเด็ก ส่วนใหญ่จะติดจากการเล่นเกมผ่านอินเทอร์เน็ต โดยมีอาการสำคัญ ดังนี้
ใช้เวลาเล่นนานเกินไป
ขาดการควบคุมตนเองในการใช้ชีวิตปกติ เช่น การกิน การนอน
และ 3. เสียหน้าที่ การเรียน และการงาน
อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวต่อว่า ดังนั้นในการป้องกันและแก้ไขปัญหาเด็กติดเกม สามารถป้องกันได้ตั้งแต่ในระยะเริ่มต้น ซึ่งง่ายกว่าการแก้ไขภายหลัง โดยพ่อแม่ผู้ปกครองควรทำข้อตกลง 3 ประการก่อนให้ลูกเริ่มเล่นเกม ดังนี้
1. เวลา ควรแบ่งเวลาให้ลูกเล่นเกมอย่างเหมาะสม กำหนดระยะเวลาในการเล่นเกมวันละ 1- 2 ชั่วโมงต่อวัน และไม่ควรให้เล่นเกมในเวลาเรียน หรือเล่นในช่วงเวลากลางคืน
2. เนื้อหา ในส่วนของเนื้อหาต้องไม่มีความรุนแรง เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เด็กไปเสพข้อมูลความรุนแรงเพิ่มเติมจากทางอินเทอร์เน็ต
และ 3. พฤติกรรม การเล่นเกมต้องไม่นำไปสู่พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม อาทิ ไม่ยอมไปเรียน โดดเรียน ไม่กินข้าวตามเวลา ไม่ยอมนอน มีพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรงทางกายและวาจา เป็นต้น
ทั้งนี้ เรื่องติดเกมไม่ใช่เป็นปัญหาของแค่ตัวเด็ก แต่เป็นปัญหาของทั้งครอบครัวที่ต้องร่วมกันจัดการ หากไม่สามารถจัดการได้ ให้ปรึกษาจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่นในสังกัดกรมสุขภาพจิต หรือโรงพยาบาลใกล้บ้าน หรือโทรปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ตลอด 24 ชั่วโมง อธิบดีกรมสุขภาพจิตกล่าว
---------------------
(ที่มา thaihealth)
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
เด็กติดเกมก้มกราบเท้าแม่ หลังเกิดอาการคลั่ง
แม่เด็กหัวร้อนติดเกม เผย ลูกป่วยสมาธิสั้น ควบคุมตัวเองไม่ได้
เด็กติดเกมไลฟ์แจงบอกให้จบดราม่าได้แล้ว ต้องการอะไรอีก?
มาลี สวยมาก แจงดราม่าเด็กเล่นเกมอาละวาด
จริงๆแล้วเด็กไม่ได้ชอบเกมส์หรือติดเกมส์เหมือนกันไปหมดหรอก..เด็กที่ติดเกมส์มาก่อนพอเลิกเล่นเกมส์ได้ก็หันไปเอาด้านการพนันอย่างอื่นแทน..เกมส์มีส่วนมอมเมาเยาวชนหันมาเล่นพนันบอลมีให้เห็นเยอะแยะไปหมด(มันอยู่ที่คนชอบคนไม่ชอบเล่นเกมส์ตั้งแต่แรก)
22 ต.ค. 2562 เวลา 16.49 น.
ทุกสิ่งทุกอย่าง มันต้องมีข้อแม้และเหตุผล ถ้าไม่มีเวลาดูแลเลี้ยงลูก ปล่อยให้อยู่แต่กับคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟน ก็ต้องยอมรับความประพฤติ การปฏิบัติตน การกระทำที่แย่ๆอาจจะตามมา ถ้าเราไม่มีกฏระเบียบ ข้อบังคับ หรือข้อตกลง ที่เราตั้งไว้กับลูก ลำบากแน่ๆครับ เด็กๆมักจะคิดไม่เป็น แยกแยะไม่ออก เราเป็นผู้ใหญ่ต้องปฏิบัติตนให้เป็นแบบอย่างที่ดี ถึงจะสั่งสอน ว่ากล่าว ตักเตือนพวกเขาได้ ถ้าเราเป็นซะเอง ก็อย่าได้ไปโทษใครเลย ต้องพิจารณาตัวเองก่อน.....
22 ต.ค. 2562 เวลา 16.36 น.
Piyada เด็กกินอิ่มว่างไม่มีอะไรทำ จับไปทำงานหาเงินซะ จะได้รู้ว่าฌลกแห่งความจริงคืออะไร
22 ต.ค. 2562 เวลา 16.33 น.
kamen rider จับพ่อแม่ไปเข้าละลายพฤติกรรมก่อน ค่อยกลับมาสอนลูกหลาน เพราะพ่อแม่ปัจจุบันนี้กว่า50%ก็ไม่ได้ต่างไปจากเด็กเลย
22 ต.ค. 2562 เวลา 15.43 น.
ดูทั้งหมด