"บิ๊กแดง" ตอบแล้ว เป็นนายกฯไม่ได้ ตาม รธน.

วันนี้ (21 ต.ค. 2562)  พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ย้ำว่ามีความตั้งใจมาแลกเปลี่ยนความเห็นด้านความมั่นคงกับคณะกรรมาธิการความมั่นคงฯ ของสภาผู้แทนราษฎร ที่มีพลโทพงษกร รอดชมภู เป็นประธานคณะกรรมาธิการ หลังจากที่ได้บรรยายพิเศษเรื่อง "แผ่นดินของเราในมุมมองด้านความมั่นคง"  

ระบุว่า นับว่ามีบรรยากาศที่ดีและนิมิตรหมายที่ดี ในการแลกเปลี่ยนครั้งนี้ ต่อการทำงานของฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติ โดยมีหลายประเด็นเรื่องความมั่นคงแลกเปลี่ยนความเห็นที่สอดคล้องกัน แต่วันนี้ไม่ได้เป็นการปรับความเข้าใจ แต่เป็นบทบาทหน้าที่ของแต่ละฝ่าย ของสภาผู้แทนราษฎรและคณะกรรมาธิการ ที่มีข้อห่วงใยหลายอย่างที่เป็นประโยชน์ต่อกองทัพนำข้อคิดเห็นไปพัฒนา หรือไปเป็นข้อมูลต่อไป 

เช่น การเสนอความเห็นเรื่องของสถานการณ์จังหวัดชายแดนภาคใต้ เทคโนโลยีที่ควรนำไปใช้ หรือ เรื่องยาเสพติด หลังจากนี้ไม่ได้มาแลกเปลี่ยนแล้ว แต่จะส่งที่ปรึกษาของกองทัพมาร่วมทำงานกับคณะกรรมาธิการ ยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ดีจะได้เข้าใจคณะกรรมาธิการ 

ผู้บัญชาการทหารบก ระบุยืนยันว่า ในการบรรยาพิเศษเมื่อวันที่ 11 ตุลาคมที่ผ่านมา ไม่ได้พูดเจาะจงถึงพรรคการเมืองใด การแลกเปลี่ยนต่อคณะกรรมาธิการวันนี้จึงไม่ได้มีมุมมองต่อพรรคการเมืองใด ไม่ได้เอ่ยชื่อพรรค โดยพูดไปตามบทบาทหน้าที่ ก่อนจะระบุเปรียบเทียบว่าจากภาพข่าวที่ปรากฎในทีวีของการพูดอภิปรายในสภาของ ส.ส.ที่ดุเดือด และการการแลกเปลี่ยนวันนี้ เป็นคนละบรรยากาศคนและรูปแบบ ยอมรับว่าเป็นสัญญาณที่ดีที่ทหารทำงานร่วมกับพรรคการเมืองได้ เพราะถ้าไม่ดีวันนี้คงไม่มา

ส่วนกระแขข่าวที่มีกรณี พล.อ.อภิรัชต์ จะเป็นว่าที่นายกรัฐมนตรีนั้น พลเอกอภิรัชต์ ระบุว่า เป็นไปไม่ได้ ต้องพิจารณาบนพื้นฐานความเป็นจริงว่าเป็นไปได้หรือไม่ ด้วยสถานะภาวะ ทั้งที่ยังคงรับราชการเป็นทหาร และสถานะการเป็นสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งไม่สามารถเป็นไปได้ตามรัฐธรรมนูญกำหนด และกระแสข่าวที่ออกมา. และกรณีผู้ใหญ่ หรือ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีให้สัมภาณณ์ เพราะเป็นคำถามนำ ขออย่าไปซีเรียส ส่วนในอนาคตยืนยัน ไม่เล่นการเมือง ไม่เล่นกับนักการเมือง ขอเป็นเพียงเพื่อนนักการเมือง

ขณะที่พลโทพงศกร ระบุว่าสิ่งที่แลกเปลี่ยนวันนี้ เป็นปะโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย ที่ผบ.ทบ.จะนำไปปฏิบัติ แต่หลายเรื่องที่เป็นเรื่องลับนำมาเปิดเผยไม่ได้ และวันนี้ถือว่าเป็นความร่วมมือระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติกับผู้ปฏิบัติการในฝ่ายบริหาร เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ในระยะยาวในเรื่องของความมั่นคง