ทั่วไป

สธ. พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 8 ราย

คมชัดลึกออนไลน์
อัพเดต 26 ม.ค. 2563 เวลา 12.17 น. • เผยแพร่ 26 ม.ค. 2563 เวลา 11.00 น.

26 ม.ค.63 - ที่กระทรวงสาธารณสุข นนทบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข เป็นประธานประชุมเชิงปฏิบัติ ร่วมหน่วยงานทั้งในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข , กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา , กระทรวงคมนาคม ท่าอากาศยานไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการสรุปแนวทางการป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดของโรคปิดอักเสบ จากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ในประเทศไทย

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

โดย นายอนุทิน แถลงว่า ในทางปฏิบัติยังถือว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ได้อยู่ โดยวันนี้คณะผู้เชี่ยวชาญได้ประกาศผลยืนยันผู้ป่วยโรคปอดอักเสบ รวมเป็น 8 ราย เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน 7 รายและคนไทยที่กลับจากการไปเที่ยวเมืองอู่ฮั่น 1 ราย ซึ่ง 5 ราย รักษาอาการและส่งกลับบ้านแล้ว ซึ่งมีผู้ป่วย 3 รายที่ยังอยู่ระหว่างการรักษา นอนพักในห้องแยกความดันลบในโรงพยาบาลซึ่งทุกรายอาการดี รอผลการตรวจยืนยันทางห้องปฏิบัติการเป็นลบจึงจะให้กลับบ้านได้

ขณะที่มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนต้องเฝ้าระวังสะสมทั้งหมด 84 ราย คัดกรองจากสนามบิน 24 ราย , มารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอง 60 ราย โดยอนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว 15 รายซึ่งส่วนใหญ่ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ส่วน 39 รายยังคงรับไว้ในห้องแยกโรค

สำหรับสถานการณ์ทั่วโลกข้อมูลตั้งแต่วันที่ 5-25 ม.ค.63 พบผู้ป่วย 1,303 รายเสียชีวิต 41 ราย ส่วนผลการดำเนินงานที่ด่านควบคุมโรคจากการตรวจคัดกรอง 5 สนามบิน คือ สุวรรณภูมิ , ดอนเมือง , เชียงใหม่ , ภูเก็ต , กระบี่ ได้ตรวจคัดกรองผู้เดินทางเข้าประเทศด้วยเครื่องวัดอุณหภูมิ หรือเทอร์โมสแกน สะสมตั้งแต่วันที่ 3 - 25 ม.ค จำนวน 21,522 คน ซึ่งเฉพาะวันที่ 25 ม.ค. ได้คัดกรองเที่ยวบิน จากกวางโจว 11 เที่ยวบินมีผู้เดินทางและลูกเรือ 1,556 คน โดยนักท่องเที่ยวทุกคนได้รับแจกคำแนะนำหรือ health beware card จากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองและเจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรค

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

สำหรับข้อแนะนำประจำวันในการป้องกันตนเองจากโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 นั้น ขณะนี้ ประเทศจีนประกาศปิดการเดินทางสาธารณะที่เข้าออกเมืองอู่ฮั่นและพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคปอดอักเสบทุกช่องทาง ซึ่งประชาชนควรปฏิบัติตามคำแนะนำ ดังนี้ 1.ประชาชนควรหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังเมืองอู่ฮั่นและเมืองที่มีการระบาดตามคำประกาศของทางการจีน 2.ระหว่างเดินทางในต่างประเทศขอให้หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัดหรือมีมลภาวะและไม่อยู่ใกล้ชิดผู้ป่วยไอจามแนะนำควรสวมหน้ากากอนามัย

3.หมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอด้วยน้ำและสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจลล้างมือ ไม่นำมือมาสัมผัสตา,จมูก,ปาก โดยไม่จำเป็น 4.ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่นผ้าเช็ดหน้า , แก้วน้ำ , ผ้าเช็ดตัว เนื่องจากเชื้อก่อโรคทางระบบทางเดินหายใจ สามารถเข้าสู่ร่างกาย ด้วยการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อ 5.รักษาร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอและนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ 6.หลังเดินทางกลับถึงประเทศไทยภายใน 14 วันถ้ามีอาการมีไข้ หรือมีอาการระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หายใจเหนื่อยหอบ ให้สวมหน้ากากอนามัยและรีบไปพบแพทย์หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทันที พร้อมทั้งแจ้งประวัติการเดินทางเนื่องจากมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนปอดบวมและมีอาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ ทั้งนี้หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ในวันอังคารที่ 28 ม.ค.นี้ จะนำเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) และนายกรัฐมนตรี พิจารณาเกี่ยวกับแนวทางการตั้งคณะกรรมการระดับชาติดูแลเรื่องนี้ และยืนยันว่าในส่วนของท่าอากาศยานไทยเตรียมการรองรับ โดยเฉพาะสุวรรณภูมิที่มีชาวจีนทุกมณฑลเดินทางเข้ามาในไทย หลังจากจังหวัดอู่ฮั่นปิด ก็มีจังหวัดกวางโจวหรือกวางเจาที่ถือว่าเป็นเมืองอันดับที่ 2 ต้องเฝ้าระวังเข้มข้น โดยเจ้าหน้าที่เตรียมทางเข้าพิเศษเพื่อคัดกรองป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยหลุดพ้นเข้ามา ยืนยันว่าเครื่องเทอร์โมสแกนหรือวัดอุณหภูมิเพียงพอ นอกจากนี้ที่ผ่านมาอีก 4 สนามบินหลักที่ติดเครื่องคัดกรองดังกล่าวแล้วได้แก่ ดอนเมือง , เชียงใหม่ , ภูเก็ต นอกจากนี้ ได้มีการประสานไปยังไกด์ หรือผู้นำทัวร์ และโรงแรม ให้เฝ้าระวังนักท่องเที่ยวที่มาอยู่ในความดูแลหากพบเห็นมีอาการ ให้นำส่งโรงพยาบาลและแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที

"ยืนยันว่าจากสถานการณ์ปัจจุบันภายในประเทศไทย ยังไม่พบการระบาดไวรัสโคโรนาจากคนสู่คน ที่ผ่านมาเป็นการติดเชื้อจากนักท่องเที่ยวจากนอกประเทศที่เดินทางเข้ามา ขณะที่สถานการณ์ความรุนแรงของโลกนี้ในประเทศไทยของเรายังห่างไกลจากคำว่าปิดประเทศอยู่" นายอนุทิน กล่าว

ด้าน นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จำนวนผู้ป่วย 3 รายที่ยังอยู่ระหว่างการรักษานั้นเป็นผู้หญิงทั้งหมด โดยรายที่ 6 อยู่ที่ รพ.ราชวิถี , รายที่ 7 สถาบันบำราศนราดรู และรายที่ 8 ที่หัวหิน

ขณะที่ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและการกีฬา กล่าวว่า หากประเทศจีนปิดประเทศเพื่อป้องกันไม่ให้ชาวจีนเดินทางออกนอกประเทศ เทียบเมื่อครั้งที่ปิดประเทศครั้งมีไข้หวัดซาร์ เป็นเวลา 3 เดือน ประเทศไทยจะสูญเสียรายได้เข้าประเทศ ประมาณ 50,000 ล้านบาท

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 12
  • ชีวิตประชาชนอยู่ในมือรัฐบาล...อย่าหวงแต่เงินรายได้เลยครับ
    26 ม.ค. 2563 เวลา 13.07 น.
  • สิงโต อุดร
    ยังจะรับนักท่องเที่ยว จีน เข้าประเทศไทยอีกเหรอ อย่า อยากได้กำไรเลย เด๋วได้ตายทั้งประเทศ
    26 ม.ค. 2563 เวลา 13.05 น.
  • pat
    แล้วคนที่ยังไม่พบล่ะมีกี่คน .. ทำไมไม่ส่งนทท.จีนกลับประเทศให้หมด .. สินค้านำเข้าจากจีนที่เป็นอาหารก็ควรงดจนกว่าเหตุการณ์จะดีขึ้น .. เหตุการณ์เขาเฝ้าระวังไปทั่วโลก.. มีแต่รบ.บ้าบอนี้แหละที่ให้ประชาชนอยู่อย่างเสี่ยงๆ
    26 ม.ค. 2563 เวลา 13.04 น.
  • Nonnonnon89
    ปชช มี limit ของความอดทน เอาความจริงมาพูด ถ้ายังบิดเบือน บ่อยๆ จากนี้จะเชื่อใครได้ ความน่าเชื่อถือ ความน่าศรัทธา ของรัฐบาลจะหายไปทุกวัน ๆ
    26 ม.ค. 2563 เวลา 13.00 น.
  • Foong
    ขอโทดนะครับ.. เป็นโรคนี้มันต่างจากหวัดธรรมดาตรงไหนครัช ทำไมคนถึงกลัวจัง
    26 ม.ค. 2563 เวลา 12.59 น.
ดูทั้งหมด