วันนี้( 15 พ.ย.62) ที่ห้องพิจารณาที่ 2 ของศาลจังหวัดพิษณุโลก ผู้พิพากษาศาลจังหวัดพิษณุโลกได้นั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาในคดีนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม ชั้นปีที่ 3 จำนวน 5 คน ซึ่งเป็นฝ่ายโจทก์ คือ นายชัยธวัช , นายศิริวัฒน์ , นายธนพล , นายธราเทพ และ น.ส.กมลชนก ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 คน คือ ส.ต.อ.สุบิณ (จำเลยที่ 1) , ร.ต.ท.ธนาคาร (จำเลยที่ 2) , ร.ต.อ.วุฒิภัทร (จำเลยที่ 3) ขับรถไล่ยิงและทำร้ายร่างกายนักศึกษาจนได้รับบาดเจ็บสาหัส
โดยเหตุเกิดขึ้นช่วงค่ำคืนของวันที่ 18 มี.ค. 2559 หรือ 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพเหตุการณ์เอาไว้ได้ทั้งหมด จนถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยให้ออกจากราชการทั้งหมดและถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมถูกฝั่งโจทก์แจ้ง 5 ข้อหา 1.ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น 2.เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ 3.ทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บสาหัส 4.กันขังหน่วงเหนี่ยว 5.ความผิดต่อเสรีภาพข่มขื่นจิตใจผู้อื่น แต่ยกฟ้องในข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่นและเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
เบื้องต้นในวันนี้คำพิพากษาของศาล พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์สำหรับจำเลยที่ 1 และ จำเลยที่ 2 ส่วนจำเลยที่ 3 พิพากษาแก้บทลงโทษ จากประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 309 วรรคสอง เป็น 309 วรรคแรก เนื่องจากหลักฐานฝั่งโจทก์ทั้ง 5 ยังมีข้อสงสัยตามสมควรว่าจำเลยที่ 3 ร่วมใช้อาวุธปืนข่มขืนใจโจทก์ทั้ง 5 ด้วยหรือไม่เพราะตามมาทีหลัง คงฟังได้เพียงว่าจำเลยที่ 3 ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด หรือจำยอมสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายแก่ชีวิตและร่างกายโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น หรือจำยอมต่อสิ่งนั้น จึงยกประโยชน์ให้จำเลยที่ 3 พิพากษาจำคุกจำเลยที่ 1 รวม 11 เดือน จำคุกจำเลยที่ 2 และ 3 คนละ 8 เดือน โดยไม่รอลงอาญา
ส่วนบรรยากาศในห้องพิจารณาคดีวันนี้ทางกลุ่มนักศึกษาพร้อมกับญาติๆ เดินทางมาร่วมรับฟังคำพิพากษาเป็นบางส่วนไม่ครบทั้ง 5 คน แต่ทางฝั่งของจำเลยทั้ง 3 คน มีเพื่อนตำรวจเดินทางมาให้กำลังใจกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งจำเลยแต่ละคนมีสีหน้าเรียบเฉยและยอมรับคำตัดสินพิจารณาของศาล ซึ่งถือว่าคดีเป็นอันสิ้นสุดลงแล้ว
สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นกลางดึกของคืนวันที่ 18 มี.ค. 2559 รถยนต์ของนักศึกษาประกอบด้วย นายชัยธวัช คนขับรถ ฮอนด้าบีโอ สีขาว ทะเบียน กพ 3660 พิษณุโลก นายศิริวัฒน์ นั่งข้างคนขับรถ นายธนพล น.ส.กมลชนก และ นายธราเทพ นั่งเบาะหลัง ทั้ง 5 คนเดินทางออกจากมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม อ.เมืองพิษณุโลก มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองไปซื้อดอกไม้เพื่อจัดงานสัมมนาวิชาการ ได้เกิดเหตุบริเวณสามแยกข้างสะพานสูงฝั่งห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ได้มีรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สีขาว ขับเข้ามาปาดหน้าจากทางด้านซ้ายโดยไม่ได้เปิดไฟเลี้ยว และนักศึกษาได้บีบแตรรถใส่รถคันดังกล่าว ก่อนจะขับรถยนต์ลอดใต้สะพานสูงข้ามทางรถไฟ แล้วเปิดไฟเลี้ยวซ้ายเพื่อมุ่งหน้าเข้าตลาด ระหว่างการเลี้ยวซ้ายนั้นรถคันดังกล่าวได้พุ่งชนจากทางด้านหลัง นายชัยธวัชกำลังจะหยุดรถเพื่อลงไปดูรถของตนเอง
แต่ขณะนั้นได้ยินเสียงคล้ายปืนดังขึ้น 4 ครั้ง และนักศึกษาที่ร่วมนั่งมาในรถด้วยนั้นเห็นว่าคนในรถคันดังกล่าวใช้อาวุธปืนยิง ด้วยความตกใจเลยบอกให้นายชัยธวัชขับรถหนี ระหว่างหนีนั้นได้ถูกไล่ยิงใส่ตลอดทาง จนมาถึงที่เกิดเหตุบริเวณถนนเลียบทางรถไฟ บริเวณใกล้ด้านหลังร้านอาคารตั้งหลัก รถของนักศึกษาไม่สามารถที่จะขับไปต่อได้ ด้วยเหตุที่ถูกยิงเข้าที่ยางด้านหลังขวาแบน
ต่อมาชายไม่ทราบชื่อเข้ามาพยายามจะเปิดประตูรถของนักศึกษาแต่ไม่สามารถเปิดได้ กระทั่งชายดังกล่าวใช้อาวุธปืนจ่อขู่ให้เปิดประตูแล้วใช้คำพูดขู่อีกว่า “ถ้าไม่เปิดประตูจะยิง” นักศึกษาจึงยอมเปิดประตู กลุ่มชายดังกล่าวได้ไล่นักศึกษาทั้งหมดรวม 5 คน ลงจากรถโดยใช้อาวุธปืนขู่ให้หมอบลงกับพื้น แล้วลงมือทำร้ายร่างกายนักศึกษา โดยกระทืบที่ศีรษะ ต้นคอ และลำตัวนายชัยธวัชหลายครั้ง และใช้อาวุธปืนฟาดเข้าที่ศีรษะจนศีรษะแตก และใช้เชือกมัดมือก่อนใส่กุญแจมือด้วย พร้อมด่าทอด้วยถ้อยคำที่ไม่สุภาพหยาบคาย ก่อนจะโทรศัพท์ตามพรรคพวกอีก 2 คน ให้มาช่วยรุมทำร้ายกลุ่มนักศึกษาด้วย มีเพียง น.ส.กมลชนก ที่ไม่ถูกทำร้าย
แต่อย่างไรก็ตามมีพลเมืองดีผ่านมาเห็นเหตุการณ์ ซึ่งกล้องวิดีโอหน้ารถสามารถบันทึกภาพเอาไว้ได้ทั้งหมด ต่อมาได้มีตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองพิษณุโลก เข้ามาตรวจสอบพร้อมกับพนักงานสอบสวน ซึ่งมีการตรวจค้นแต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด และมาทราบภายหลังว่าผู้ก่อเหตุทั้งหมดเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สังกัดกลุ่มงานสืบสวน ภ.จว.พิษณุโลก กลุ่มนักศึกษาเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงพากันยื่นหนังสือร้องทุกข์ต่อ ผบช.ภ.6 ในขณะนั้น กระทั่งถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนความผิดทางวินัยและให้ออกจากราชการไว้ก่อน จนถูกดำเนินคดีตามกฎหมายในที่สุด
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNThailand
Youtube Official : TNNThailand
....เวรกรรมจําคุก 11 เดือนสูงสุด...มันไล่ยิงขนาดนั้น....กูไม่อยากจะเชื่อ แต่ต้องเชื่อแล้ว......กูปวดตับจริงๆ....หนําซํ้าถูกมันกระทืบปางตาย.....อะไรจะปานนั้น
...คิดได้ไง เอาอะไรคิด ....กรรมการนะกรรมการ....เจริญลงจริงๆ...
15 พ.ย. 2562 เวลา 13.01 น.
applle โทษน้อยมากกกกก กระทำการอุกอาจสุดๆ นึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วสุดๆ
15 พ.ย. 2562 เวลา 12.52 น.
สิงโต ลงโทษตะกวดเหรี้ยน้อยไปหน่อยนะ
15 พ.ย. 2562 เวลา 12.49 น.
MTB หมด อนาคต ฟังไว้พวกนอกแถว อวดเก่ง
15 พ.ย. 2562 เวลา 13.02 น.
วินเท็ค ถือว่าเป็นข่าวดีที่พวกนี้โดนไล่ออก.เสียศักดิ์ศรีตร.ไทย
น่ายึดทรัพย์ให้เกลี้ยงด้วย.อิอิ
15 พ.ย. 2562 เวลา 13.24 น.
ดูทั้งหมด