ไลฟ์สไตล์

หมอสิว AI วินิจฉัยได้ใน 3 แชะ - เพจการตลาดวันละตอน

TALK TODAY
เผยแพร่ 13 ต.ค. 2562 เวลา 18.01 น. • เพจการตลาดวันละตอน

รู้มั้ยครับว่าเวลาไปหาหมอโรคผิวหนังเพื่อรักษาสิวแต่ละครั้งกินเวลามากขนาดไหน เริ่มจากต้องหาคิวหมอที่ว่างตรงกับเรา หรือถ้าหมอว่างแต่เราไม่ว่าง เราก็ต้องพยายามทำตัวให้ว่างตรงกับคิวหมอ จริงมั้ยครับ

แล้วพอเราทำให้คิวเราว่างตรงกับคิวของหมอแล้ว ก็ต้องเผื่อเวลาเดินทางจากบ้านหรือที่ทำงานไปหาหมอ ถ้าโชคดีมีหมอดีอยู่ใกล้บ้านหรือที่ทำงาน ก็สามารถย่นระยะเวลาตรงนี้ไปได้ และก็ใช่ว่าจะไปถึงให้ตรงเวลานัดได้เลย เพราะผู้ช่วยหมอสิวมักจะบอกให้เราไปก่อนเวลาประมาณ 30 นาที เผื่อคุณหมอรักษาคนก่อนหน้าเสร็จแล้วก็จะได้ให้เราต่อคิวทันที 

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

แต่ส่วนใหญ่แล้วมักต้องไปนั่งรอ รอ แล้วรอจริงมั้ยครับ แล้วพอหมอสิววินิจฉัยปัญหาสิวเราเสร็จก็ต้องออกมารอเพื่อรับยาและจ่ายเงินถึงจะกลับบ้านได้ ผมเชื่อว่าแค่คุณอ่านก็คงเหนื่อยแล้ว แต่เชื่อเถอะครับว่าคนที่ต้องไปหาหมอสิวเหนื่อยยิ่งกว่า

แต่ปัญหานี้จะหมดไปครับ เพราะในยุคเทคโนโลยีล้ำหน้าด้วย Data และ AI ที่จะทำให้การหาหมอสิวกลายเป็นเรื่องง่ายแค่หยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปเท่านั้น

เพราะ La Roche-Posay แบรนด์ดูแลผิวและสิวในเครือ L’Oréal ได้พัฒนาเทคโนโลยีล้ำหน้าในการดูแลสิวและผิวบนใบหน้าออกมาเป็น AI Dermatologist หรือผู้เชี่ยวชาญเรื่องผิวหนังรักษาสิวที่เป็น AI ครับ ทำให้ต่อไปนี้คนที่เป็นสิวไม่ว่าจะมากหรือน้อยก็สามารถพบผู้เชี่ยวชาญเรื่องสิว AI นี้ได้จากทุกที่แค่มีมือถือ

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

คุณหมอสิว AI นี้ก็มีชื่อว่า Effaclar Spotscan จริง ๆ จะเรียกว่าชื่อก็ไม่ถูกซะทีเดียว เพราะเป็นชื่อของเทคโนโลยีหมอสิว AI นี้อีกทีครับ โดยขั้นตอนการพบหมอสิว AI นี้ก็ง่ายมาก แค่หยิบมือถือขึ้นมาแล้ว Scan QR Code จากนั้น QR Code จะพาคุณเข้าไปยัง Mirosite และขออนุญาตเข้าถึงกล้องในมือถือของคุณเพื่อจะขอให้คุณถ่ายรูปเซลฟี่สด ๆ ให้หมอสิว AI นี้เป็นจำนวน 3 รูป แล้วไม่นานเกินรอคุณก็จะได้รับคำวินิจฉัยสภาพผิวและปัญหาสิวบนใบหน้า ประหนึ่งว่ามีคุณหมอตัวเป็น ๆ คอยดูรูปคุณอยู่จริง ๆ ตลอด 24 ชั่วโมงครับ

โดยหมอสิว AI นี้จะให้คะแนนสภาพผิวและปัญหาสิวคุณออกเป็นคะแนน ตั้งแต่ 0 ถึง 4+ พร้อมกับแนะนำว่าปัญหาสิวของคุณนั้นควรดูแลอย่างไร รวมถึงควรใช้ผลิตภัณฑ์ชิ้นไหนของ La Roach-Posay ด้วย และเท่านั้นยังไม่พอ ในกรณีของคนที่เป็นสิวหรือมีปัญหาผิวหนังแบบหนัก ๆ ทางหมอสิว AI ก็จะแนะนำให้คุณเข้าพบผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังโดยตรงจะดีกว่า เรียกได้ว่าเป็นการขายของแบบไม่ต้องขายที่ทันสมัยและเข้าใจผู้บริโภคยุคใหม่จริง ๆ ครับ

พออ่านถึงตรงนี้คุณอาจมีคำถามว่า “แล้วหมอสิว AI อะไรนี่จะเชื่อได้จริงหรือ?” ก็ต้องบอกว่าเชื่อได้ครับ เพราะกว่าหมอสิว AI จะเก่งได้เหมือนหมอจริงก็ต้องผ่านการฝึกฝนจากผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังจากทั่วโลกของ La Roach-Posay มากกว่า 90,000 คน และกว่าหมอสิว AI จะฉลาดได้ก็ถูกฝึกให้วินิจฉัยจากรูปถ่ายมากกว่า 6,000 รูป ที่เป็นรูปใบหน้าของทั้งผู้ชายและผู้หญิง จากหลากหลายเชื้อชาติทั่วโลก ที่มีหลากหลายสภาพผิว รวมถึงปัญหาสิวที่มีมากมายหลายระดับครับ

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

เมื่อ AI ถูกฝึกให้เชี่ยวชาญด้านสิวและผิวหนังระดับหนักขนาดนี้ และอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของ La Roach-Posay ก็บอกได้เลยว่าคุณหมอ AI นี้เชื่อถือได้ไม่แพ้การออกไปนั่งต่อคิวรอพบผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังอย่างแน่นอน

ที่ La Roach-Posay ต้องลงทุนทำผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังที่เป็น AI ขึ้นมา เพราะความต้องการของลูกค้าหรือผู้บริโภคยุคใหม่ที่เอาใจยากขึ้น วิชาการตลาดแบบเดิม ๆ จึงไม่อาจตอบโจทย์อีกต่อไป 

ผู้บริโภคในวันนี้ไม่ได้ต้องการแค่สินค้าที่ดีที่สุด แต่พวกเขาต้องการการดูแลที่มอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดจากแบรนด์ ดังนั้นยิ่งแบรนด์ให้ความรู้กับลูกค้ามากเท่าไหร่ เหมือนที่หมอสิว AI ให้คนเข้าใจว่าสิวบนใบหน้าของตัวเองเกิดขึ้นเพราะอะไร เป็นสิวที่ต้องดูแลในระดับไหน และจะป้องกันอย่างไร ก็ยิ่งทำให้ลูกค้าอยากจะจ่ายมากขึ้น และอยากจะกลับมาใช้บริหารหมอสิว AI นี้บ่อยขึ้นครับ

การตลาดในวันนี้จะว่ายากก็ยาก จะว่าง่ายก็ง่าย ที่ว่ายากเพราะเทคโนโลยีเพื่อการตลาดนั้นพัฒนาไปทั้งไวและเร็วมาก แต่ที่ว่าง่ายก็คือสุดท้ายแล้วผู้บริโภคไม่ว่าจะยุคไหน ต่างก็ต้องคนแบรนด์ที่พร้อมจะรับฟังและเข้าใจเขามากที่สุดครับ

ดูคลิปการทำงานของหมอสิว AI นี้ได้ที่นี่ 

ความเห็น 2
  • yimyam
    เพือ? โฆษณาขายครีมกลุ่ม Effaclar ของตัวเอง?
    14 ต.ค. 2562 เวลา 08.30 น.
  • pontid
    MILD - หวานเย็น on the beach
    14 ต.ค. 2562 เวลา 11.44 น.
ดูทั้งหมด