การใช้ซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธ์ยังคงเป็นปัญหาที่ประเทศไทยไม่สามารถปลดล็อกได้ นอกจากส่งผลกระทบต่อการใช้งาน ยังเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงปลอดภัยของชาติ เปิดช่องให้อาชญากรไซเบอร์เข้ามาโจมตี ล้วงข้อมูล อีกทางสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจมูลค่ามหาศาล
นายดรุณ ซอว์เนย์ ผู้อำนวยการอาวุโส ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก พันธมิตรซอฟต์แวร์(บีเอสเอ) กล่าวว่า บีเอสเอร่วมกับบริษัทวิจัยไอดีซีทำการสำรวจการใช้ซอฟต์แวร์ทั่วโลก ล่าสุดพบว่าอัตราการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ หรือการใช้ซอฟต์แวร์โดยไม่มีสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิ(ไลเซ่นส์) ในประเทศไทย อยู่ที่ 66% ในปี 2560 คิดเป็นมูลค่าความเสียหายราว 714 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 22,848 ล้านบาท ลดลง 3% จาก 69% ในปี 2558
ทั้งนี้ การลดลงของอัตราการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ในไทย เป็นผลมาจากการหดตัวของตลาดคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล(พีซี) ตลอดจนการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดของกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญกรรมทางเศรษฐกิจ(บก. ปอศ.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และการรณรงค์เพื่อสร้างความตระหนักรู้ เรื่องภัยจากการใช้ซอฟต์แวร์โดยไม่มีไลเซ่นส์อย่างต่อเนื่องของหน่วยงานอื่นๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน
นอกจากนี้ เหตุการณ์มัลแวร์เรียกค่าไถ่ระดับโลกอย่างวอนนาคราย(Wannacry) ที่เกิดขึ้นเมื่อปีก่อน ทำให้องค์กรธุรกิจเห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องใช้ซอฟต์แวร์แท้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบปฏิบัติการ และซอฟต์แวร์ที่ช่วยเสริมความมั่นคงปลอดภัยให้แก่ระบบคอมพิวเตอร์และเครือข่าย
นักวิเคราะห์จากไอดีซีให้ความเห็นไว้ว่า การรณรงค์ให้ประชาชนทั่วไปแจ้งเบาะแสการใช้ซอฟต์แวร์ผิดกฎหมายในองค์กรธุรกิจ ทำให้เกิดความตื่นตัวในการใช้ซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์มากขึ้น โดยเฉพาะในองค์กรธุรกิจหันมาให้ความสำคัญกับการตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ใช้ซอฟต์แวร์อย่างถูกต้องตามกฎหมายมากขึ้น
เขากล่าวว่า ไทยกำลังพัฒนาไปสู่ยุคระบบเศรษฐกิจดิจิทัลเช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ ทำให้มีความต้องการใช้งานเทคโนโลยี โดยเฉพาะซอฟต์แวร์มากยิ่งขึ้น องค์กรต่างๆ จึงจำเป็นต้องมีการบริหารจัดการการใช้งานซอฟต์แวร์เช่นเดียวกับสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ ขององค์กร เพราะการบริการจัดการสินทรัพย์ซอฟต์แวร์ (Software Asset Management - SAM) ตลอดจนการอัปเดตซอฟต์แวร์และระบบรักษาความปลอดภัยให้ทันสมัยอยู่เสมอ เป็นหนทางหนึ่งของการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับระบบความมั่นคงปลอดภัยองค์กร
นอกจากนี้ การจัดการที่ดีด้านการใช้งานซอฟต์แวร์ ยังช่วยให้องค์กรลดต้นทุนด้านซอฟต์แวร์ และเพิ่มผลกำไรในการประกอบการได้ด้วย ทุกวันนี้การมาของคลาวด์ และโมเดลเช่าใช้ตามจริงช่วยให้ไม่จำเป็นต้องลงทุนจำนวนมหาศาลเช่นเดิม
ที่ผ่านมา ซอฟต์แวร์ที่มักถูกละเมิดมากที่สุด 3 อันดับแรก ยังคงเป็นผลิตภัณฑ์ในเครืออะโดบี, ออโต้แคด และไมโครซอฟท์ ที่น่าสนใจด้วยพฤติกรรมคนไทยที่นิยมใช้ของฟรีส่งผลให้แม้แต่ซอฟต์แวร์ไทยโดยบริษัท ไทยซอฟท์แวร์เอ็นเตอร์ไพรส์ซึ่งมูลค่าไม่ได้สูงยังถูกละเมิดไปด้วย
"การใช้ซอฟต์แวร์เถื่อนทำให้องค์กรไม่ได้ซอฟต์แวร์เต็มประสิทธิภาพ เสี่ยงต่อภัยไซเบอร์ กระทบเชิงเศรษฐกิจต้องสูญเสียเม็ดเงินที่จะได้จากการจัดเก็บภาษี ต่อเครื่องหากต้องจัดการกับมัลแวร์ต้องใช้เงินเพื่อกู้สถานการณ์ประมาณหมื่นดอลลาร์ ซึ่งเทียบกันแล้วใช้ผลิตภัณฑ์ถูกกฎหมายจะดีกว่า เรื่องนี้รัฐต้องจริงจังในการแก้ปัญหา เป็นตัวอย่าง ทั้งมีการจัดสรรงบประมาณเพื่อบริหารจัดการสินทรัพย์ซอฟต์แวร์อย่างเป็นรูปธรรม"
นางสาววารุณี รัชตพัฒนากุล ผู้จัดการประจำประเทศไทย บีเอสเอ เสริมว่า ตัวเลขในประเทศไทยแสดงให้เห็นว่า ในจำนวนคอมพิวเตอร์ 100 เครื่อง มีการติดตั้งซอฟต์แวร์เถื่อน 66 เครื่อง จากที่อัตราการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ทั่วโลกรวมถึงไทยลดลง เป็นผลจากการหดตัวของพีซี การบังคับใช้กฎหมายลิขสิทธิ์อย่างเข้มงวด และการรณรงค์เพื่อสร้างความตระหนักรู้ถึงภัยจากการใช้ซอฟต์แวร์โดยไม่มีไลเซ่นส์อย่างต่อเนื่อง
"อัตราการใช้ซอฟต์แวร์โดยไม่มีไลเซ่นส์ในไทย ลดลง 3% ถือเป็นสัญญาณที่ดี แต่ยังสูงกว่าอัตราเฉลี่ยในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งอยู่ที่ 57% แสดงให้เห็นถึงความจำเป็นที่ทุกภาคส่วนยังต้องช่วยกันแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง เนื่องจากการแก้ไขปัญหาดังกล่าวช่วยลดความเสี่ยงภัยไซเบอร์ เพราะซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์มักจะมีจุดอ่อนด้านความปลอดภัย ทำให้ง่ายต่อการติดมัลแวร์ เทียบในอาเซียนด้วยไทยรั้งอันดับ 3 ที่มีการละเมิดมากที่สุด ส่วนอันดับ 1 อินโดนีเซีย 83% รองลงมาเวียดนาม 74%"
อย่างไรก็ดี ไม่เพียงแต่ในองค์กรธุรกิจเท่านั้น ภาครัฐถือเป็นผู้ใช้งานซอฟต์แวร์รายใหญ่ หากทุกหน่วยงานภาครัฐให้ความสำคัญจะเป็นตัวอย่างที่ดีแก่ภาคเอกชนและประชาชนโดยทั่วไป ที่สำคัญการใช้ซอฟต์แวร์ที่มีไลเซ่นส์ถูกต้อง ถือเป็นวิธีขั้นพื้นฐานในการป้องกันภัยไซเบอร์ เพราะซอฟต์แวร์ที่ไม่มีไลเซ่นส์ จะทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการติดมัลแวร์ และการถูกจู่โจมจากอาชญากรไซเบอร์ นอกจากนั้นหน่วยงานภาครัฐเป็นผู้ควบคุมข้อมูลสำคัญ โดยเฉพาะข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชน หน่วยงานภาครัฐจึงต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าใช้ซอฟต์แวร์ที่มีไลเซ่นส์ถูกต้องตามกฎหมาย และมีการบริหารจัดการสินทรัพย์เทคโนโลยีสารสนเทศซึ่งรวมถึงซอฟต์แวร์ให้ได้มาตรฐาน
สำหรับระดับโลก จากการสำรวจใน 110 ประเทศพบว่า อัตราการละเมิดลิขสิทธิซอฟต์แวร์ หรือการใช้ซอฟต์แวร์โดยไม่มีสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิ อยู่ที่ 37% ในปี 2560 คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 46,302 ล้านดอลล่าร์ หรือ 1.48 ล้านล้านบาท ไม่นับรวมความเสียหายอื่นที่เกี่ยวข้อง ลดลงจาก 39% ในปี 2558 หากพิจารณาในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก อัตราการละเมิดลิขสิทธิ์ฯ อยู่ที่ 57% คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 16,439 ล้านดอลล่าร์ หรือ 526,048 ล้านบาท ลดลงจาก 61% ในปี 2558
สรุปผลสำรวจที่สำคัญ การใช้ซอฟต์แวร์โดยไม่มีสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิยังมีอยู่มากในวงกว้าง โดย 37% ของซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งบนเครื่องคอมพิวเตอร์ทั่วโลกไม่มีสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิ ตัวเลขดังกล่าวลดลงมาเพียง 2% จากปี 2558 สร้างความเสียหายอย่างมากให้กับเจ้าของลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์
อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ผู้บริหารระดับสูงด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ มีความเห็นว่าซอฟต์แวร์ที่ไม่มีสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิมีความเสี่ยงสูงขึ้นเรื่อยๆ และทำให้เกิดความเสียหายเป็นอย่างมาก โดยไอดีซีประเมินว่าองค์กรต่างๆ ทั่วโลก ต้องเสียค่าใช้จ่ายเกือบ 359,000 ล้านดอลล่าร์(11.49 ล้านล้านบาท) ต่อปี เพื่อแก้ไขปัญหามัลแวร์ที่มาพร้อมกับการใช้งานซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์
ด้านเจ้าหน้าที่ผู้บริหารระดับสูงด้านเทคโนโลยีสารสนเทศมีความเห็นว่า การตรวจสอบให้แน่ใจว่าองค์กรใช้ซอฟต์แวร์ที่มีสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิอย่างถูกต้องครบถ้วน เป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องทำเพื่อลดความเสี่ยงจากมัลแวร์ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ข้อมูลขององค์กรถูกเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต ตลอดจนความเสี่ยงด้านความมั่นคงปลอดภัยอื่นๆ ของระบบคอมพิวเตอร์และเครือข่าย
บีเอสเอชี้ว่า การบริหารจัดการการใช้ซอฟต์แวร์อย่างถูกต้องเหมาะสมคือตัวช่วยลดต้นทุนการทำธุรกิจ โดยนอกจากจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับระบบความมั่นคงปลอดภัยขององค์กรแล้ว ไอดีซีประเมินไว้ว่าบริษัทที่มีขั้นตอนการปฎิบัติที่ชัดเจนเพื่อบริหารจัดการซอฟต์แวร์จะสามารถเพิ่มผลกำไรได้มากถึง 11%
จากผลการสำรวจแสดงให้เห็นว่า องค์กรสามารถประหยัดงบประมาณด้านซอฟต์แวร์ในแต่ละปี ได้มากถึง 30% หากมีวิธีการบริหารจัดการซอฟต์แวร์และการเลือกใช้ซอฟต์แวร์ที่ดี พบด้วยว่า ผู้บริหารด้านเทคโนโลยีสารสนเทศระดับสูงโดยส่วนใหญ่มีความเห็นว่า หากองค์กรธุรกิจใช้ซอฟต์แวร์โดยไม่มีไลเซ่นส์ถูกต้อง มีโอกาสสูงที่จะต้องเผชิญกับความเสี่ยงด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ระบบคอมพิวเตอร์หรือเครือข่ายขององค์กรมีโอกาสถูกจู่โจมจากผู้ประสงค์ร้าย นำมาซึ่งความเสียหายอื่นๆ เช่น สูญเสียข้อมูลสำคัญขององค์กร
การสำรวจการใช้ซอฟต์แวร์ทั่วโลกของบีเอสเอจัดทำทุก 2 ปี สำหรับปี 2560 ใช้วิธีคำนวณจำนวนและมูลค่าของซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์ที่ติดตั้งอยู่บนเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลในกว่า 110 ประเทศทั่วโลก และมีการเก็บข้อมูลความคิดเห็นของผู้บริโภคที่ใช้ซอฟต์แวร์ พนักงานบริษัท และเจ้าหน้าที่ผู้บริหารระดับสูงด้านเทคโนโลยีสารสนเทศขององค์กร จำนวนเกือบ 2.3 หมื่นคน
.B จีนเป็นประเทศที่ Copy อันดับ 1 ไม่เห็นเค้าจะแคร์ประเทศอื่น รัฐบาลเค้าสนับนุนคนของเค้าด้วยซ้ำ ไม่เหมือนไทย มือถือสากปากถือศีล มีนโยบายปราบนู่นนี่มากมาย สุดท้ายตัวเองคอรัปชั่น
จีนอะเค้าก๊อปสร้างชาติ ประเทศไทยเรามั่วแต่ขัดขากันเองจนทำมาหากินอะไรแทบไม่ได้ รัฐมั่วแต่ปกป้องผลประโยนช์ของนักธุระกิจ ห่วงภาพลักษณ์ แต่โกงกิน คอรัปชั่น ทุกระดับ
07 มิ.ย. 2561 เวลา 10.19 น.
pop เสียดายมากครับ นึกว่าได้ที่ 1 คนไทยครับ ขาดการเรียนรู้ และสั่งสอนเรื่องจิตสำนึก และความถูกต้องครับ
07 มิ.ย. 2561 เวลา 09.34 น.
T.Wittaya คือ คอมผมนะ ถ้ามาตรวจจับ ผมยอมให้ยึดคอมเลยเอ้า
07 มิ.ย. 2561 เวลา 09.00 น.
chaom นาฬิกาพี่ๆเค้าไม่เถื่อนน่ะ
07 มิ.ย. 2561 เวลา 08.00 น.
วีระวัตน์ ดูถูกเกินไปแล้วนะ เราอยู่ที่1มาตลอดโว้ย
07 มิ.ย. 2561 เวลา 07.12 น.
ดูทั้งหมด