ทีเอ็มบี(TMB) เจาะลึกสถานการณ์ทางการเงินของคนไทย พบอาการน่าเป็นห่วง ทั้งมีเงินออมไม่พอ ติดนิสัยใช้จ่ายในเรื่องไม่จำเป็น รวมทั้งส่วนใหญ่ยังขาดความรู้ในการออม และไม่มีการวางแผนหรือป้องกันความเสี่ยงทางการเงินไว้ล่วงหน้า ที่สำคัญมีถึง 1 ใน 5 หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือตกงานจะมีเงินใช้ได้ไม่ถึง 1 เดือน
สิ่งที่คิด *VS สิ่งที่เป็น *
ศูนย์วิเคราะห์วิจัย Customer Insights by TMB Analytics โดย คุณนริศ สถาผลเดชา ผู้บริหาร TMB Analytics และ คุณนันทพร ตั้งเจริญศิริ หัวหน้าทีม Customer Experience & Insights ให้รายละเอียดถึงผลการศึกษาพฤติกรรมการทางการเงินของคนไทยร่วมกัน โดยทำการสำรวจผ่านออนไลน์จากคนไทยทั่วประเทศ ในกลุ่มอายุ 18-45 ปี จำนวน 1,000 คน พบว่า มีคนไทยจำนวน 34% เท่านั้น ที่คิดว่าเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินหรือตกงานกระทันหันแล้วจะสามารถอยู่ได้มากกว่า 6 เดือน ขณะที่อีก 66% เชื่อว่าจะไม่สามารถอยู่ได้เกิน 6 เดือน ที่สำคัญมีกว่า 1 ใน 5 หรือ 21% ที่คิดว่าจะสามารถอยู่ได้เพียงแค่ 0-1 เดือนเท่านั้น
“แม้ตัวเลขจากผลการสำรวจจะระบุว่า คนไทย 34% ที่มั่นใจว่าเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน จะสามารถอยู่ได้มากกว่า 6 เดือน แต่ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ *unsplash และ TMB Analysis ตามฐานข้อมูลผู้ประกอบอาชีพทั่วประเทศ 35 ล้านคน พบว่า มีถึง 80% ที่มีเงินออมเหลือไม่พอใช้จ่ายได้ถึง 6 เดือน มีเพียง 20% เท่านั้น ที่มีเงินออมมากเกิน 6 เดือน โดยการใช้ตัวเลข 6 เดือนมาเป็นเกณฑ์ชี้วัด เนื่องจาก ในระยะนี้ ผู้ที่ตกงานยังได้รับการชดเชยจากประกันสังคมในกรณีว่างงาน” *
ที่สำคัญปัญหาเรื่องเงินออมไม่พอ ไม่เกี่ยวข้องกับฐานเงินเดือนว่าสูงหรือไม่ อาศัยอยู่ใน กทม. หรือต่างจังหวัด หรืออายุเท่าไหร่ เพราะจำนวนคนมีเงินออมไม่พอในแต่ละปัจจัยที่แตกต่างกันเหล่านี้ไม่ได้มีสัดส่วนที่แตกต่างกันมากนัก
โดยคนที่มีเงินเดือนน้อยกว่า 3 หมื่นบาทต่อเดือน มีสัดส่วนคนที่มีเงินออมไม่พอมากถึง 80% ขณะที่คนมีเงินเดือนมากกว่า 3 หมื่นบาทต่อเดือน ก็ยังมีสัดส่วนคนที่มีเงินออมไม่พอสูงถึง 70%
และไม่ว่าจะเป็นคนที่อาศัยอยู่ใน กทม. หรือคนที่อยู่ต่างจังหวัด ที่หลายคนอาจมองว่ามีค่าครองชีพต่ำกว่า แต่สัดส่วนคนที่มีเงินออมไม่พอก็สูงใกล้เคียงกันที่ประมาณ 80% รวมทั้งไม่ว่าจะเป็นคน Gen X หรือ Y ก็มีสัดส่วนเงินออมไม่พอสูงกว่า 80% เช่นกัน โดยเฉพาะ Gen Y ที่จำนวนคนที่มีเงินออมไม่พอสูงถึง 84% เลยทีเดียว และยังพบว่ากลุ่มพนักงานออฟฟิศ และพนักงานรับจ้างอิสระหรือฟรีแลนซ์ เฉลี่ยถึง 80% ที่ไม่มีเงินออม ขณะที่ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และเจ้าของกิจการ จะมีสัดส่วนคนที่มีเงินออมไม่พอต่ำกว่าที่ราว 60%
*เห่อกินเที่ยว หวยมาก่อน ออมทีหลัง ต้นเหตุการเงินป่วย *
ผลศึกษาเรื่องนี้สะท้อนอะไรหลายๆ อย่างเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้ชีวิต รวมไปถึงวิธีคิดต่างๆ ในการใช้ชีวิตประจำวัน และทำให้คนไทยส่วนใหญ่มีเงินออมไม่พอใช้ โดยเฉพาะการใช้ชีวิตที่เน้นโชว์ไลฟ์สไตล์กินเที่ยว เพื่อแชร์เรื่องราวต่างๆ ลงโซเชียลมีเดียเพิ่มขึ้น แถมยังมีค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นทั้งหวย เหล้า บุหรี่ในสัดส่วนสูง ซึ่งค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนอาจจะสูงกว่าค่าใช้จ่ายที่จำเป็น ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายทางการศึกษา ค่าประกัน รวมไปถึงค่าเดินทาง
สำหรับวิธีคิดในการออมและการใช้เงินของคนไทยนั้น พบว่า
เกือบครึ่งหนึ่ง หรือ 49% เลือกที่จะใช้ก่อนออม และไม่มีการแยกบัญชีระหว่างเงินออมกับบัญชีใช้จ่าย ทุกอย่างรวมไว้อยู่ที่เดียวกัน
38% เลือกที่จะออมก่อนใช้ และมีการแยกบัญชีกันอย่างชัดเจน ส่วนอีก 13% มีเงินไม่พอใช้ในแต่ละเดือน ดังนั้น เรื่องการออมเงินจึงไม่สามารถทำได้
“แม้ว่าจะเห็นตัวเลขคนออมก่อนใช้สูงถึง38% แต่ในจำนวนนี้มีเพียง มีเพียง 35% ที่สามารถออมได้เท่าๆ กัน ในทุกๆ เดือน ที่เหลือจะออมเป็นบางเดือน หรือจะออมก็ต่อเมื่อได้รับเงินก้อนใหญ่มาเท่านั้น และแม้ว่าจะมีเงินออมไม่มากนักแต่ส่วนใหญ่กว่า 40% ก็ยังมองโลกในแง่ดีและคิดว่าจะมีเงินออมพอใช้หลังจากเกษียณ ขณะที่อีก 21% ยอมรับว่ายังไม่เคยวางแผนอนาคตเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายต่างๆ หลังจากเกษียณเลย”
ปัญหาหลักๆ ที่ทำให้คนไทยมีเงินไม่พอสำหรับการออมเพื่ออนาคต ส่วนใหญ่จะมาจากพฤติกรรมในการใช้จ่าย โดยเฉพาะค่านิยม “เห่อกินเที่ยว โซเชียลมาก่อน ออมทีหลัง” ตามการพัฒนาของเทคโนโลยีและโซเชียลมีเดียที่ทำให้คนมักนิยมลงรูปโชว์ไลฟ์สไตล์ของตัวเองผ่านโซเชียลมีเดีย หรือนิยมช้อปปิ้งแม้บางครั้งไม่ความจำเป็นต้องใช้ แต่ต้องตามกระแสโซเชียล ทำให้มีค่าใช้จ่ายสูงขึ้น จนต้องนำเงินในอนาคตมาใช้ หรือไปรูดบัตรเครดิตแม้จะต้องเสียบดอกเบี้ยก็ตาม ซึ่งพบว่าคนไทยมากกว่า 50% ที่ไม่มีความสามารถในการชำหนี้บัตรเครดิตได้เต็มจำนวนในแต่ละเดือน
“ที่สำคัญยังพบว่าคนไทยมีค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นในแต่ละเดือนสูงถึง 1 ใน 4 ของจำนวนรายได้ โดยเฉพาะคนที่มีเงินออมไม่พอจะเสียค่าเหล้า บุหรี่ ในแต่ละเดือนสูงกว่าคนที่มีเงินออมมมากพอ แต่ไม่ว่าจะเป็นคนที่มีเงินออมหรือไม่มี จะมีค่าใช้จ่ายสำหรับการซื้อหวยในระดับที่ใกล้เคียงกัน เพราะมีความเชื่อในเรื่องของการเสี่ยงโชค โดย 54% ที่ซื้อหวยคิดว่าถ้าถูกมาอย่างไรก็คุ้ม และ 56% มีความเชื่อว่ามีสิทธิ์รวยจากการถูกหวย และหากลงรายละเอียดในเรื่องการใช้จ่ายจะพบว่า ในกลุ่มของคนที่มีเงินออมไม่พอนั้น เสียค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น ทั้งกินอาหารนอกบ้าน เหล้า บุหรี่ และค่าหวยในแต่ละเดือนสูงกว่าค่าใช้จ่ายจำเป็นอย่างการศึกษา ค่าประกัน หรือค่าเดินทางด้วยซ้ำ โดยเฉพาะค่าเหล้า บุหรี่ และหวยที่สูงมากกว่าคนที่มีเงินออมถึง 2 เท่า”
*ออมผิดที่ผิดทาง ป้องกันความเสี่ยงระดับต่ำ *
เมื่อพิจารณาพฤติกรรมการใช้จ่ายของคนไทย จะเริ่มเห็นรอยรั่วเงินออม โดยเฉลี่ยคนไทยมีการใช้จ่าย 76% ของรายได้ต่อเดือน ออม 21% และป้องกันความเสี่ยง 3% ซึ่งในกลุ่มที่มีเงินออมไม่พอจะมีการใช้จ่ายสูงถึง 82% ขณะที่การออมลดลงเหลือ 14% แต่ที่น่าสนใจคือ ไม่ว่าคนมีเงินออมพอหรือไม่พอ ส่วนใหญ่เป็นการออมแบบผิดที่ผิดทางทั้งนั้น
การลงทุนในสินทรัพย์ทางการเงินจะกระจุกอยู่ที่เงินฝากธนาคารมากว่า 80% และเกินครึ่งเป็นเงินฝากออมทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนต่ำ ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ยของประเทศที่พัฒนาแล้วสัดส่วนของเงินฝากจะต่ำกว่า 50% แต่เลือกที่จะออมในสินทรัพย์ทางการเงินประเภทอื่นๆ โดยในสหรัฐ มีสัดส่วนการเก็บเป็นเงินสดและฝากในธนาคารที่ 14% อังกฤษ 24% เกาหลีใต้ 44% และญี่ปุ่น 52% ดังนั้น การให้ความรู้ทางการเงินกับคนไทยจึงเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะการวางแผนทางการเงินเพื่อความมั่นคงในอนาคต รวมทั้งการเลือกวิธีการออมที่ให้ผลประโยชน์ที่คุ้มค่าและสามารถรองรับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ดี
สมุทร หลวทางกันเยอะ...
ไม่หายใจ ตายไหม.
ไม่ดื่มน้า ตายไหม.
ไม่กินอาหาร ตายไหม
กินอาหารราคาถูก ตายไหม.
ดื่มน้ำเปล่า ตายไหม.
ไม่ไปเที่ยว ตายไหม.
......จะตายไหม...
25 มิ.ย. 2561 เวลา 23.35 น.
padech มีเงินเพื่อซื้อความสุข เก็บไว้ ตายก่อนไม่ได้ใช้
25 มิ.ย. 2561 เวลา 03.40 น.
pilot guide เดี๋ยวมันมาอีกล่ะสำนักหวยแดกเรียบ มาหลอกควายไทยให้เล่นหวยอีกละ เดี๋ยวไอ้อีดารามันไปชุบตัวเมืองนอกถ่ายรูปมาอวดอีกละ มันจะไม่เห่อได้ไง
25 มิ.ย. 2561 เวลา 03.33 น.
TA สันดารคนไทยแก้ไม่ได้หรอก... ประเทศจะถดถอยไปเรื่อยๆ
25 มิ.ย. 2561 เวลา 01.21 น.
กฤติเดช สุขเนืองนอง สันดานคนไทย อะไรที่สีเทาควักง่ายเสมอ แต่อะไรที่ถูกบังคับทั้งที่เป็นประโยชน์ต่อตัวเองในอนาคต จะต่อต้าน นกม อัปรีย์บ้านเราจึงประเคนประชานิยม ไทยโง่ชอบ อนาคตลูกหลานชั่วแม่ง ไทยโง่เมื่อไหร่ตื่น อย่าเอาแต่ร้องโหยหวล พวกมึงเปลี่ยนนิสัยให้ได้ แล้วเสียงร้องพวกมึงจะมีความหมาย
25 มิ.ย. 2561 เวลา 00.25 น.
ดูทั้งหมด