นักดำน้ำในถ้ำที่ร่วมปฏิบัติการช่วยเหลือสมาชิกทีมหมูป่าอะคาเดมีทั้ง 13 คน ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน แต่ว่าที่พิเศษคือ ครั้งนี้ 3 นักดำน้ำ 3 นักดำน้ำในถ้ำเปิดใจสื่ออังกฤษ ย้ำไม่ใช่ "วีรบุรุษ"ให้สัมภาษณ์ในรายการ This Morning ช่อง ITV ของอังกฤษแล้วก็เป็นอีกครั้งที่พวกเขาไม่ได้มองว่าตัวเองเป็นวีรบุรุษ ในปฏิบัติการช่วย 13 ชีวิตติดถ้ำหลวงขุนน้ำ นางนอน
ริค สแตนตัน เปิดเผยถึงเรื่องราว ขณะที่ได้รับโทรศัพท์ว่า มีคนติดอยู่ในถ้ำที่น้ำกำลังเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ 13 คน และเมื่อไปถึงพื้นที่ในวันพุธน้ำในถ้ำก็ท่วมสูงมากจริงๆ ซึ่งเมื่อไปถึงได้เริ่มต้นปฏิบัติการดำน้ำกู้ภัยจากบริเวณ 3 แยก และใช้เวลาเกือบ 1 สัปดาห์ กว่าจะถึงตัวเด็ก ซึ่งเขาก็ได้ยืนยันคำสัมภาษณ์ของจอห์น โวลันเธน ที่ให้กับสำนักข่าวบีบีซีก่อหน้านี้ว่าใช้วิธีการดมกลิ่น
สแตนตันเล่าเพิ่มว่า ตอนนั้นใช้วิธีว่ายน้ำไปตามทางและกำลังหารือกันอยู่เพราะว่าไปจนสุดทางที่ได้วางเชือกไว้แล้วและได้เริ่มสูดกลิ่น ซึ่งก็ได้กลิ่นเด็กๆ และคิดว่าเด็กๆ น่าจะได้ยินเสียงเขากับจอห์นคุยกัน ตอนแรกเขายังไม่เห็นตัวเด็ก แต่เห็นแสงไฟ แล้วเด็กถึงค่อยๆ ไต่ลงมาจากที่สูง จนครบทั้ง 13 คน
ส่วนเจสัน มัลลิสัน กล่าวว่า ประเด็นสำคัญที่ต้องนำตัวเด็กๆ ออกมาเพราะอากาศเริ่มเหลือน้อย นอกจากนี้ยังมีการเปิดเผยว่า เจสันเป็นผู้นำร่างจ่าแซม ออกมาซึ่งถือว่าเป็นจุดที่ทำให้ทุกคนได้รับรู้อย่างแท้จริงว่า กำลังรับผิดชอบชีวิตเด็กๆ อยู่ ซึ่งเขายอมรับว่ากังวลมาก เมื่อต้องนำตัวเด็กลงน้ำ ซึ่งเขาจะคอยสังเกตฟองน้ำจากการหายใจของเด็กในความรับผิดชอบ โดยเฉพาะในช่วง 5-10 นาทีแรก เพราะถ้าหน้ากากแตก หรือซีลยางของหน้ากากรั่วน้ำจะเข้าไปในหน้ากากซึ่งก็จะช่วยอะไรไม่ได้แล้ว
นอกจากนี้เขายังยืนยันความจำเป็นที่ต้องให้ยาคลายประสาทกับเด็กๆ จนเด็กแทบจะไม่รู้สึกตัวตลอดการดำน้ำ ก็เพื่อป้องกันอาการตื่นตระหนก ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อตัวเองและคนช่วยเหลือ
ส่วน คริส จีเวล เล่าว่า ตนเองไปถึงหลังจากที่ริคกับจอห์นไปอยู่ที่ถ้ำหลวงหลายวันแล้ว และได้รับทราบข้อมูลว่าเป็นงานที่ยากและเสี่ยง และมีแนวโน้มประสบความสำเร็จน้อยมาก เมื่อไปถึงเขากับเจสันได้นำอาหารและชุดเว็ทสูทเข้าไปยังเนินนมสาว ซึ่งเด็กๆดีใจมากที่ได้พบหน้าจากนั้นจึงเริ่มประเมินแผนการนำตัวเด็กออกมา ซึ่งงานแบบนี้ไม่มีใครเคยเจอมาก่อนจึงต้องคิดถึงเทคนิคที่หลากหลาย
ผู้ดำเนินรายการยังได้อ่านความหมายของคำว่า วีรบุรุษ และถามว่าทำไมถึงไม่คิดว่าตัวเองเป็นวีรบุรุษ ซึ่งเจสันก็ตอบแทนทุกคนว่า พวกเขาต่างทำตามที่ได้ฝึกฝนมาตลอด 25 ปี และดีใจที่ได้ช่วยชีวิตคน โดยที่ไม่ได้คิดว่าจะให้ใครมองเป็นฮีโร่ แต่ผู้ดำเนินรายการ ก็ยืนยันว่า ทั้งหมดคือฮีโร่ที่แท้จริง
ก่อนหน้านี้ นายสัตว์แพทย์เครก แชลเลน ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ซันเดย์ ไทม์ ของออสเตรเลีย ยืนยันความจำเป็นที่ต้องให้ยาคลายประสาทกับเด็กๆ ว่าไม่สามารถเสี่ยงให้เด็กเกิดอาการตื่นตระหนกได้ เขาบอกว่าเขายินดีอย่างมากที่กับผลลัพธ์ของปฏิบัติการที่เกิดขึ้น โดยยอมรับว่าตอนแรกที่มาถึงประเทศไทย คิดว่าจะต้องมาร่วมปฏิบัติการกู้ร่างแต่สามารถช่วยได้ทั้ง 13 ชีวิต
แชลเลน บอกด้วยว่า วันที่ไปถึง ทั้งเขาและคุณหมอแฮร์ริส ได้ดำเข้าไปจนถึงเนินนมสาว เพื่อคุยกับเด็กๆ ตรวจสภาพความพร้อม ก่อนให้สมาชิกทีมหมูป่าเป็นคนเลือกกันเอง ว่าจะให้ใครออกมาก่อน โดยที่ทีมนักดำน้ำไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเลือกลำดับ
นอกจากนี้เขายังให้เครดิตกับทีมซีลไทยที่อยู่กับเด็กๆ เพราะช่วยให้สภาพจิตใจของสมาชิกทีมหมูป่ามีความพร้อม ทั้งที่ทีมซีลเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ทีมดำน้ำถ้ำจะใช้วิธีการใดเพื่อช่วยพวกเขาออกมาและก่อนกลับบ้านพวกเขาได้พบกับเด็กๆ ที่โรงพยาบาล ซึ่งการที่ทุกคนรอดชีวิต ถือเป็นรางวัลที่ยิ่งใหญ่สำหรับพวกเขาแล้ว
Suppaaut ขอบคุณมากสำหรับทุกอย่างที่ทำเพื่อคนไทยครับ❤️🙏🙇🏻
17 ก.ค. 2561 เวลา 05.55 น.
NAPHAT ถึงไม่ยอมรับแต่พวกคุณทุกคนคือฮีโร่
17 ก.ค. 2561 เวลา 05.40 น.
ถวิล สุดยอดจิงจิง
17 ก.ค. 2561 เวลา 05.32 น.
chairat คนดีมักถ่อมตัว ขอชื่นชมครับ
17 ก.ค. 2561 เวลา 05.29 น.
chaom อ่านสองประโยคท้าย...พวกอิงแอบแจกรางวัลเพราะอยากขึ้นชื่อก็สำนึกเอานะ......
17 ก.ค. 2561 เวลา 04.41 น.
ดูทั้งหมด