เปิดตำนานอีสาน “นางสีดาฆ่านกหัสดีลิงค์” เชิญเชื้อสายร่วมพิธีหลวงพ่อคูณ

ในพิธีพระราชเพลิงศพ พระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทธโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ โดยมีมหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นผู้รับผิดชอบงานดังกล่าว ซึ่งกำหนดจัดสร้างนกหัสดีลิงค์เทินบุษบกและสัตว์ป่าหิมพานต์ สำหรับการใช้ในงานพระราชทานเพลิงศพ เคลื่อนย้ายไปทำการประกอบและทำการตกแต่งพื้นที่ภายในบริเวณพุทธมณฑลอีสาน สถานที่ที่ใช้ในการประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพหลวงพ่อคูณ ในวันที่ 29 ม.ค.2562 โดยการจำลองเขาพระสุเมรุ และสระอโนดาต มีสัตว์ในตำนาน 30 ตัว รายล้อมนกหัสดีลิงค์บนเทิยบุษบก ที่มีความสูง 22 เมตร สัตว์ตำนานทั้งหมดเป็นสีขาวล้วน สื่อถึงความบริสุทธิ์ เรียบง่าย ตามกิจวัตรของหลวงพ่อคูณ ตามตำนานและความเชื่อที่สืบต่อกันมา นกหัสดีลิงค์นั้น การฆ่าได้จะต้องมีผู้สืบเชื้อสายนางสีดาเป็นผู้ฆ่า ทางนักวิชาการของม.ขอนแก่น ที่สืบค้นเรื่องดังกล่าวมีข้อมูลยืนยันว่า ผู้ที่สืบเชื้อนางสีดาในตำนานที่เป็นคนไทยนั้นมีอยู่จริง ปัจจุบันอายุ 90 ปี อาศัยอยู่ที่ จ.อุบลราชธานี และได้ติดต่อคุณยายให้มาร่วมขบวนนางสีดา และร่วมฆ่านกหัสดีลิงค์ตามตำนาน รวมถึงเผานกไปพร้อมกับหลวงพ่อคูณ เพื่อส่งท่านสู่สรวงสวรรค์

ขณะที่ตำนานของนกหัสดีลิงค์ ว่ากันว่าสมัยโบราณหลายพันปีมาแล้ว พระมหากษัตริย์ แห่งนครตักกะศิลาเชียงรุ้งแสนหวีฟ้ามหานคร ได้สวรรคต ตามธรรมเนียมต้องอันเชิญพระศพออกไปถวายพระเพลิงศพที่ทุ่งหลวง ครั้งนั้นพระมหาเทวีให้จัดการพระศพตามโบราณประเพณี ได้แห่พระศพออกจากพระราชวังไปยังทุ่งหลวงเพื่อถวายพระเพลิง ขณะนั้นมีนกสักกะไดลิงค์ หรือนกหัสดีลิงค์ ซึ่งกินเนื้อสัตว์เป็นอาหารบินมาจากป่าหิมพานต์ นกได้เห็นพระศพคิดว่า เป็นอาหารของเขา จึงบินโฉบลงมาเอาพระศพจะไปกิน เมื่อพระมหาเทวีเห็นเช่นนั้นก็ประกาศให้ผู้กล้าต่อสู้นกหัสดีลิงค์เพื่อเอาพระศพคืนมา คนทั้งหลายก็อาสาต่อสู้นกหัสดีลิงค์ไม่ได้ ถูกนกหัสดีลิงค์จับกินหมด

ต่อมาธิดาแห่งพญาตักกะศิลาจึงเข้ารับอาสาสู้นกหัสดีลิงค์นั้น นางมีนามว่า สีดา นางได้ใช้ศรอาบยาพิษยิงนกหัสดีลิงค์ นกหัสดีลิงค์ถึงแก่ความตายตกลงมาพร้อมพระศพแห่งกษัตริย์องค์นั้น พระมาหาเทวี จึงโปรดสั่งให้ช่างทำเมรุคือหอแก้วบนหลังนกหัสดีลิงค์ แล้วเชิญพระศพขึ้นประดิษฐานบนหลังนกหัสดีลิงค์ แล้วถวายพระเพลิงไปพร้อมกัน จากนั้น เจ้านายในพระราชวงศ์แห่งเมืองตักกะศิลาฯ จึงได้ถือเอาประเพณี ทำเมรุนกหัสดีลิงค์ขึ้น เพื่อประกอบพิธีถวายพระเพลิง แก่เจ้านายเชื้อพระวงศ์ ถือสืบต่อกันมาตลอดจนถึงเจ้านายเมืองอุบลราชธานีและเชื้อสายของเมืองตักกะศิลา เช่นเดียวกับผู้ที่ฆ่านกหัสดีลิงค์ ก็จะต้องเป็นผู้สืบเชื้อสายของ นางสีดา ด้วย ซึ่งผู้ที่รับช่วงในการเข้าทรงเจ้านางสีดา ลงมาฆ่านกหัสดีลิงค์คนสุดท้ายคือ คุณยุพิน ผ่องศิล เมื่อปี 2548

ส่วนการที่จะเชิญเจ้านางสีดาลงมานั้น โบราณว่า ตัวแทนของอัญญาสี่ คือชาย 4 หญิง 4 ที่เป็นบุตรหลาน จะต้องนำขันธ์ 5 ใส่พานไปที่ตำหนักทรงของเจ้านางสีดา เพื่อบอกล่าวและเชิญไปฆ่านกหัสดีลิงค์ เมื่อเจ้านางสีดารับที่จะไปก็จะต้องมีการบวงสรวงเข้าสรงก่อน จากนั้นขบวนแห่ไปถึงบริเวณที่ตั้งเมรุนกหัสดีลิงค์ ขบวนจะเดินไปรอบๆ พอนกหัสดีลิงค์เห็นเช่นนั้นจะเกิดสับสน ตาเหลือกขึ้นลง หูกระพือ ปากอ้าร้องเสียงดัง พร้อมต่อสู้ แต่เจ้านางสีดาก็ไม่รั้งรอ จะทรงยิงศรไปที่นกหัสดีลิงค์ ก่อนที่จะแห่ขบวนและยิงอีกครั้ง จนนกหัสดีลิงค์หมดแรงไม่เคลื่อนไหว จึงถือว่า นกหัสดีลิงค์ ตายแล้วนั่นเอง