เกิด ‘อะไร’ ขึ้นเบื้องหลังฉากอู้อ้าบนแผ่นฟิล์มดัง

เรารู้ว่าคุณก็เคยคิดว่าฉากเร้าเขย่าโลกของบรรดานักแสดงในหนังนั้นมันช่างชวนหัวใจเต้นถี่สุดเกินบรรยาย ไม่ว่าจะเป็นฉากเหงื่อแตกพลั่กของแจ็คกับโรสบนรถสามล้อ จนสาวโรสต้องเอามือแปะกระจกฝ้าขึ้นใน Titanic(1997) หรือฉากปั้นหม้อ (แบบเบี้ยวๆ) ของเดมี มัวร์ และแพทริก สเวซี ใน Ghost (1990) แต่จริงๆ แล้วเหล่านักแสดงจะอินหรือขวยเขินกันแค่ไหนขณะเล่นจ้ำจี้กันตอนถ่ายทำ หรือจะฮอตน่าอิจฉาจริงดังที่คุณคาดคิดไหม เราหาคำตอบมาให้

via GIPHY

เจค จิลเลนฮาล, Love and Other Drugs (2010)

“ถึงผมจะเล่นมาแล้วหลายบท แต่สิ่งที่ยังยากคือต้องแสร้งว่าเพื่อนนักแสดงของผมอย่าง แอนน์ แฮทธาเวย์ ทำให้เกิดอารมณ์เสียเหลือเกินนี่แหละ แต่ผมภูมิใจมากที่ทำออกมาสำเร็จ”

via GIPHY

ลีนา ดันแฮม, Girls

“การต้องนอนเฉยๆ แล้วก็รู้สึกว่ามีร่างเปลือยๆ ของคนคนหนึ่งมาถูไถ ทำให้ฉันคิดแค่ว่า ‘ฉันอยากจะลุกออกจากเตียง ออกจากฉากนี้ ออกจากนาทีนี้ไปให้สิ้นเรื่อง ทำไมฉันต้องมาทำอะไรแบบนี้เนี่ย?’ แต่แล้วฉันก็นึกได้ว่าฉันเป็นคนเขียนบทเอง ฉันเป็นนายตัวเอง และยังกำกับเองเสียด้วย ตัวฉันเองนี่แหละที่ทำให้ตัวเองตกอยู่ในสถานะทาสทางการกามแบบนี้”

via GIPHY

เคียรา ไนต์ลีย์, A Dangerous Method (2011)

“ก่อนถ่ายฉากร่วมรักแบบเล่นเป็นทาสกับคาร์ล จุง (ไมเคิล ฟาสส์เบนเดอร์) บอกตรงๆ ว่าฉันกระดกวอดก้าไปหลายช็อต ต่อด้วยแชมเปญอีกสองสามแก้ว คิดเสียว่าฉลองที่ฉันไม่ต้องเล่นฉากนี้อีกรอบ!”

via GIPHY

โรซามันด์ ไพค์, Gone Girl (2014)

“คุณกำลังอยู่กับผู้ชายคนหนึ่ง (นีล แพทริก แฮร์ริส) แบบสองต่อสอง เขาไม่ใช่สามีคุณ แถมยังมีสามีแล้ว เขากำลังสวมกางเกงในตัวเดียว คุณก็สวมแต่ชุดชั้นใน และคุณทั้งสองกำลังทำท่าร่วมรักแบบปลอมๆ อยู่บนเตียง นั่นแหละที่ฉันรู้สึก”

via GIPHY

ไมเคิล ฟาสเบนเดอร์, Jane Eyre (2011)

“ฉากร่วมรักมักจะกระอักกระอ่วน ด้วยความที่เป็นผู้ชาย สิ่งแรกที่ผมมักทำคือพูดคุยกับนักแสดงที่ผมต้องร่วมฉากก่อนว่ามีอะไรที่เธออยากให้ผมทำบ้าง เพราะผมไม่อยากให้เธอรู้สึกว่าผมจะจับต้องตรงไหนก็ได้ มันไม่ใช่แบบนั้น บางทีผมก็ทำอะไรตลกๆ บ้างให้เราทั้งคู่รู้สึกผ่อนคลายและดูสมจริงขึ้น”

via GIPHY

เอ็มมี รอสซัม, Shameless

“เราต้องทำให้สมจริงที่สุด แต่ก็ไม่จริงถึงขนาดทำให้มันเกิดขึ้นจริงๆ อย่างในฉากฉันจะสวมสิ่งที่เรียกว่า ‘แผ่นแปะน้อง’ มันเป็นแผ่นคล้ายๆ กางเกงในที่เป็นรูปสามเหลี่ยมไว้ให้คุณเอาไว้แปะตรงนั้น” 

via GIPHY

ไมเคิล ดักลาส, Behind the Candelabra (2013)

“สิ่งที่ยากที่สุดในการถ่ายทำฉากเลิฟซีน คือสายตาทุกคู่กำลังมองและตัดสินลีลาของคุณอยู่ เราคงไม่รู้หรอกว่าคนในนี้มีเรื่องหรือไปทำอะไรใครมา แต่คุณรู้ว่าหนึ่งในคนนั้นเพิ่งไปเล่นจ้ำจี้มาเมื่อเช้าแน่ๆ นั่นยิ่งน่ากระอักกระอ่วนเพราะไม่รู้ว่าเขาจะคิดยังไงเวลาคุณจับตรงนั้นตรงนี้”

via GIPHY

มิเชลล์ วิลเลียมส์, Blue Valentine (2010)

“ฉากแรกๆ ที่เราถ่ายทำกันตอนที่ความสัมพันธ์ยังหวานชื่นในเรื่องมันก็สนุกดี แต่พอถ่ายๆ ไป ไรอัน (กอสลิง) กับฉันก็เริ่มเหนื่อยและเอือมกับมันมากแล้ว พวกเราเลิกคิดว่าเราคือมิเชลและไรอัน เรากลายเป็นเหมือนตัวละครที่หมดรักกันแล้วจริงๆ และฉากพวกนั้นก็ใช้เวลานานมากในการถ่ายทำ มันเป็นหลายวันที่ยาวนานมาก จำได้ว่าตอนขับรถกลับบ้าน ฉันขอเปิดหน้าต่างรถแล้วห้อยหัวออกมาเหมือนหมา กรีดร้องให้สุดเสียงเพื่อระบายอารมณ์พวกนั้นออกมา”

via GIPHY

จัสติน ทิมเบอร์เลก, Friends with Benefits (2011)

“จริงๆ มันไม่ได้สนุกเลยนะ ออกจะน่าเอือมเสียด้วยซ้ำ เพราะคุณต้องถ่ายฉากนั้น 12 ชั่วโมง มันเหนื่อยบรมเลยนะ”

via GIPHY

เจสัน สเตแธม, Crank 2: High Voltage (2009)

“มันไม่หมูเลยนะเชื่อผม โดยเฉพาะเวลาต้องเล่นฉากเซ็กซ์แบบโหดๆ และยังมีตัวประกอบเป็นร้อยๆ ที่กำลังจ้องคุณอยู่ แถมยังเตรียมคว้ามือถือมาถ่ายบั้นท้ายขาวจั๊วะของคุณด้วย”

via GIPHY

เจสซี เมตคาล์ฟ, Desperate Housewives

“ผมจำฉากร่วมรักฉากแรกในชีวิตได้ ผมเข้าฉากกับ กาเบรียลลา (อีวา ลองโกเรีย) และเรากำลังจะมีอะไรกันเป็นครั้งแรกในเรื่อง ตอนที่กำลังซ้อมฉากนี้กันเข้าด้ายเข้าเข็ม ผู้กำกับก็พูดว่า ‘โอเค พอก่อน! เราต้องจัดฉากใหม่’ ผมจำได้ว่าต้องขอเวลานอกไปหายใจลึกๆ สักพักเลย”

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์