พ่อแม่ทุกคนสามารถเริ่มต้นสอนเรื่องเงินให้กับลูกได้ ด้วย “คำพูด” ที่เราใช้ และการ “ทำให้ดูเป็นตัวอย่าง” เพราะเด็กสามารถเรียนรู้และซึมซับได้อย่างรวดเร็วจากการฟังและการดูต้นแบบของพวกเขา
และด้วยเหตุที่โรงเรียนไม่สอนเรื่องเงินกันจริงๆจังๆ ดังนั้นสิ่งที่พวกเขาได้เห็นและได้ยินเกี่ยวกับเงินส่วนใหญ่ จึงมาจากพ่อแม่ และคนที่บ้านเป็นหลัก
ที่สำคัญก็คือ สิ่งต่างๆที่เขาได้เห็นและได้ยินจากที่บ้านนั้น จะปลูกฝังและหล่อหลอมกลายเป็นทัศนคติทางการเงินของเขา และเมื่อเติบโตขึ้น เขาก็จะกลายเป็นคนที่มีวิธีคิดเรื่องเงินเหมือนกับพ่อแม่โดยไม่รู้ตัว
ครอบครัวท่ีมักใช้คำพูดทางลบกับเรื่องเงิน ก็จะปลูกฝังทัศนคติการเงินแบบลบๆ ให้กับลูก อาทิ “เงินมันหายาก ใช้ให้ประหยัดหน่อย” “เราไม่มีปัญญาซื้อของพวกนั้นหรอก” “เงินกินยังไม่ค่อยจะมี อย่าฝันให้มันไกลนัก” ฯลฯ เหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นคำพูดเชิงลบ ที่ส่งผลกระทบต่อวิธีคิดของเด็กในเรื่องเงินทั้งสิ้น
ยกตัวอย่างของคำพูดที่ว่า “เงินมันหายาก” ทั้งที่จริงๆแล้ว ผู้พูดตั้งใจจะสื่อสารเรื่องการใช้จ่ายให้ “ประหยัด” และ “คุ้มค่า” แต่ด้วยวิธีการสื่อสารที่แย่ กลายเป็นก่อให้เกิดวิธีคิดเชิงลบ ซึ่งอาจส่งผลต่อทัศนคติในการสร้างความมั่งคั่งของเด็กโดยไม่ตั้งใจ
แค่หยุดอารมณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อถูกลูกร้องขอเงินสักนิด แล้วค่อยๆอธิบายให้เขาเห็นคุณค่าของเงินที่หยิบออกจากกระเป๋า บอกเขาสักนิดว่าพ่อแม่ได้มันมาอย่างไร และขอให้เขาเลือกและตัดสินใจใช้มันให้เกิดประโยชน์สูงสุด
กอดเขาและบอกว่าคุณเชื่อว่าเขาโตพอที่จะดูแลเงินตัวเองได้ เพียงเท่านี้ลูกคุณก็จะเริ่มซึมซับ “ความตระหนัก” ทางการเงินไปทีละน้อยแล้ว
หรืออย่างคำพูดที่ว่า “เราไม่มีปัญญาซื้อของพวกนั้นหรอก” คำพูดนี้ก็กลายเป็นการปิดกั้นความเชื่อและความคิดของเด็กๆ ได้เช่นกัน แทนที่จะพูดหรือบอกกับเขาว่า “เงินที่เรามีตอนนี้พ่อและแม่ต้องจัดสรรไว้ใช้จ่ายอีกหลายอย่างที่มีความสำคัญ
ถ้าลูกอยากได้ เรามาช่วยคิดกันดีกว่าว่า เราจะทำยังไงกันดีถึงจะได้เป็นเจ้าของมัน” จากประโยคปิดกั้นความคิด ก็กลายเป็นการกระตุ้นให้คิดได้ในทันที
นี่คือความสำคัญของ “คำพูด” ที่ใช้กันในบ้าน ที่คนส่วนใหญ่อาจนึกไม่ถึง และบางครั้งเผลอปล่อยมันลอยลมออกไปโดยไม่ได้คิด
“เราหาเงินได้มากเท่าที่ต้องการ ถ้าเรารู้จักและเข้าใจวิธีหา แต่ที่สำคัญคือ หามาได้แล้ว ลูกต้องรู้จักใช้ให้คุ้มค่า และต้องรู้จักเก็บออมไว้เพื่อวันข้างหน้าเสมอ” นี่คือส่ิงที่ผมพูดกับลูกเป็นประจำ
อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นวิธีการสอนเรื่องเงินแบบที่เด็กซึมซับได้ง่ายที่สุด ก็คือ “นิสัย” การใช้จ่ายของเราที่แสดงให้เด็กดู
พ่อแม่บางคนพร่ำบ่นว่าเงินมันหายาก ในขณะที่ตัวเองคาบบุหรี่ กินเหล้า หรือจดโพยหวย
พ่อแม่บางคนสอนให้ลูกประหยัด ในขณะที่ตัวเองหมดเงินไปกับสิ่งไร้ค่า และการหาความสุขนอกบ้าน
พ่อแม่บางคนสอนลูกไม่ให้ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ในขณะที่ตัวเองมีใบแจ้งหนี้ที่จ่ายได้แค่ขั้นต่ำอยู่เต็มไปหมด
ตัวอย่าง ที่ดีมีค่าและทรงพลังมากกว่า คำสอน …
อยากให้ลูกใช้จ่ายประหยัด พ่อแม่ใช้จ่ายประหยัดให้ลูกดูก่อนดีไหม
อยากให้ลูกเก็บออม พ่อแม่เก็บออมหรือเปล่า
อยากให้ลูกทำบัญชีค่าขนมตัวเอง พ่อแม่หละทำงบทำบัญชีของที่บ้านหรือไม่
คำสอนอะไรก็ไร้ค่า หากคุณพ่อคุณแม่ยังทำมันไม่ได้
ถ้าอยากให้ลูกมีความสุขทางการเงินในวันข้างหน้า … นักเรียนคนแรก คือ คุณพ่อคุณแม่ทุกคนเลยครับ
#TheMoneyCoachTH
papon หากจะเป็นผู้ฉลาดรอบคอบเรื่องการเงินข้อ 1.อย่าช่วยคนอื่นเรื่องเงินในขณะที่เรายังไม่พร้อม แต่ถ้าถูกกลฉ้อฉลก็อีกเรื่องหนึ่ง ข้อ 2.รับทำอะไรให้ใคร ข้อสัญญาตกลงเรื่องเงินตอบแทนนั้น อย่าทำเพราะความเกรงใจหรือให้ใครมาขอร้องแกมบังคับให้ช่วยเหลือเพื่อนฝูงญาติพี่น้องของเขาหรือรับทำงานให้ในราคาที่เราไม่พร้อมที่จะรับ นี่คือบทเรียนกฎการเงิน
25 ก.ค. 2562 เวลา 13.40 น.
คิดว่าบางครั้งในความสำเร็จของคนเรานั้นก็ย่อมที่จะต้องอาศัยอยู่กับที่ต้นแบบที่ดีเหมือนกัน.
25 ก.ค. 2562 เวลา 13.54 น.
nutrich1689 ชอบมากค่ะ ขอแชร์ต่อนะคะ
23 ก.ย 2562 เวลา 02.07 น.
จิมมี่แบร์ อารีไอซ์ ก็กู้มาตอนคลอดลูกนั่นแหละค่ะ
25 ก.ค. 2562 เวลา 12.33 น.
วิวัฒน์ คิดเองเออเองแล้วคุณดีอย่างไรบอกด้วยสิ
25 ก.ค. 2562 เวลา 11.43 น.
ดูทั้งหมด