>>เทศกาลตรุษจีน ระหว่างปลายเดือนมกราคมถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี เป็นอีกช่วงเวลาหนึ่งที่ประเทศจีนได้เปิดประตูต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก รวมทั้งคนจีนเอง ซึ่งปัญหาที่มักพบ และทำให้นักท่องเที่ยวลังเล หรือถอดใจ คือ ต้องไปเผชิญกับความแออัด ไม่คล่องตัว ทั้งจุดเที่ยว ชุดช้อปฯ ร้านอาหาร แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีทางเลือก สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ตั้งใจเที่ยวเสริมมงคล เพื่อชีวิตสดใสก้าวหน้า ต้อนรับศักราชใหม่ปีหนูทอง โอกาสนี้ ขอแนะนำ 9 เมืองน่าเที่ยวที่โดดเด่น เสน่ห์แรง แถมมีความคล่องตัวกว่าเมืองยอดฮิต ซึ่งแต่ละเมืองล้วนมีสถานที่น่าสนใจ ไปชิลล์ ชม ช้อปฯ เสริมมงคลให้ชีวิตมากมาย เริ่มกันที่…
1.เฉิงตู (Chengdu)เมืองเอกของมณฑลเสฉวน เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมายอย่างต่อเนื่องเพราะมีธรรมชาติสวยงาม ทำให้เมืองนี้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาชมความงดงาม และสัมผัสกับวัฒนธรรมที่พบได้ที่นี่เท่านั้น สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดเมื่อเดินทางมาเฉิงตู ในช่วงตรุษจีน นั่นก็คือ การสักการะพระพุทธรูปเล่อซาน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สุดในโลก พิพิธภัณฑ์หมีแพนด้ายักษ์ และอุทยานจิ่วจ้ายโกว ซึ่งขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก และได้รับการขนานนามว่าเป็นอุทยานแห่งสรวงสวรรค์ และกลายเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คสำคัญของเมืองเฉิงตู
2.ซีหนิง ชิงไห่ (Xining – Qinghai)เมืองซีหนิง ในมณฑลชิงไห่แห่งนี้ เป็นที่หลงใหลเรื่องราวประวัติศาสตร์ เพราะที่นี่ คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทางประวัติศาสตร์มากมาย เนื่องจากเป็นต้นสายของแม่น้ำฮวงโห แม่น้ำสายสำคัญของประเทศจีน ทั้งยังมีพื้นที่ติดกับชายฝั่งทะเลสาปน้ำเค็มที่ใหญ่ที่สุดของประเทศจีน นอกจากนี้ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญชวนไปเสริมความเป็นมงคล อย่าง วัดถาเอ่อร์ซือ หรือ วิหารหลังคาทองคำ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปแทนองค์พระพุทธเจ้าแห่งอดีต ปัจจุบัน และอนาคต รวมไปถึง พระโพธิสัตว์ มากมาย ไว้ให้นักท่องเที่ยวได้มากราบสักการะบูชา
3.กวางโจว (Guangzhou)ในช่วงหลายปีมานี้ กวางโจ เป็นเมืองที่คนไทยคุ้นหูมากขึ้น เพราะมีวัดลิ่วหรงซื่อ หรือ วัดไทรหกต้น ที่ควรมากราบสักการะบูชา เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ขณะที่ในเขตเมืองยามค่ำคืน จะมีความคึกคัก ส่วนกลางวันเมืองก็สวยงาม ดาษดื่นด้วยสถานที่ท่องเที่ยว และแหล่งช้อปปิ้ง ให้ได้เดินชิลล์ๆช้อปฯเพลินๆ โดยจุดเด่นของเมืองกวางโจอยู่ที่ อนุสาวรีย์แพะห้าตัว ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองกวางโจ และยังมีแคนตันทาวเวอร์ ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองของกวางโจ รวมไปถึงโอเปร่าเฮาส์ ซึ่งเป็นที่กล่าวถึง หนุนเสริมเมืองนี้ให้น่าหลงใหล
4.ฉางซา (Changsha)เป็นอีกเมืองหนึ่งที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศจีน ตั้งอยู่ในพื้นที่มณฑลหูหนาน บริเวณลุ่มแม่น้ำเซียง จึงทำให้เมืองฉางซามีธรรมชาติสมดุล และวัฒนธรรมที่หลากหลาย ที่สำคัญ เมืองนี้ยังเป็นบ้านเกิดของ เหมา เจ๋อตุง อดีตผู้นำของประเทศจีนอีกด้วย สำหรับสถานที่ท่องเที่ยว ที่น่าสนใจของเมืองนี้ มีอาทิ วัดไคฟู ซึ่งเป็นวัดที่เก่าแก่ สวนสาธารณะพลับพลาเทียนซิน แหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ที่มีความสวยงามเป็นอย่างมาก รวมถึงเกาะสีส้มกลางแม่น้ำเซียงเจียง แม่น้ำสายสำคัญที่ไหลผ่านเมืองฉางซา และที่สำคัญบนเกาะยังมีการสร้างอนุสาวรีย์หินอ่อนสีขาวขนาดใหญ่ เหมา เจ๋อตุง เพื่อรำลึกถึงคุณงามความดีของท่านอีกด้วย
5.เซียะเหมินหรืออามอย (Xiamen-Amoy)ตั้งอยู่บนเกาะ ห่างจากเกาะไต้หวันประมาณ 1 กิโลเมตร ถือเป็นเมืองท่าสำคัญของประเทศจีน บนเกาะเต็มไปด้วยร่องรอยแห่งวัฒนธรรม และอารยธรรมหลากหลาย เป็นเมืองเศรษฐกิจพิเศษที่มีความสำคัญกับประเทศจีนอย่างมาก ทำให้นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาเที่ยวชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมเก่าแก่ นอกจากนี้ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวเสริมมงคลอย่าง วัดหนานผู่ถัว และเจิงโช่อาน ซึ่งมีความงดงามและมีเอกลักษณ์โดดเด่น หากใครชื่นชอบบรรยากาศแบบวินเทจ เมืองเซียะเหมินแห่งนี้ถือว่าตอบโจทย์เลยทีเดียว
6.คุนหมิง (Kunming)ใครที่ชื่นชอบในการเดินทางแนวธรรมชาติ คุนหมิง คือ คำตอบ โดยตั้งอยู่ในมณฑลยูนนาน และเต็มไปด้วยเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่คนไทยกล่าวถึงกันมานาน เพราะมาที่นี่จะได้สัมผัสกับบรรยากาศธรรมชาติงดงามน่าหลงใหล ไม่แพ้โซนยุโรป ที่สำคัญเมืองนี้ได้ชื่อว่า มีอากาศบริสุทธิ์ และสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย ที่นักท่องเที่ยวต้องมาปักหมุด อาทิ ตำหนักทองจริงเตี้ยน ทะเลสาบชุ่ยหู ดินแดนตงชวน อุทยานป่าหิน เมืองต้าลี่มณฑลอยู่นาน เมืองโบราณลี่เจียง และภูเขาหิมะมังกรหยก
7.ซีอาน (Xian)เป็นอีกหนึ่งเมืองที่คนไทยกล่าวถึงกันมาก เนื่องเพราะเมืองนี้ ซึ่งตั้งอยู่ในมณฑลซานซีของประเทศจีน เต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ และวัฒนธรรมอันหลากหลาย รวมไปถึงธรรมชาติงดงาม โดยจุดเด่นของเมืองซีอานแห่งนี้ ที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้ คือ สุสานจิ๋นซี ซึ่งเต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของประเทศจีนสมัยโบราณ ที่น่าค้นหา ไม่เพียงเท่านั้น ซีอานยังมีสถาปัตยกรรมที่ออกแบบในรูปทรงแปลกๆ อันสะท้อนถึงอารยธรรมจีน ที่เต็มไปด้วยมนตร์เสน่ห์ จนกล่าวกันว่าหากใครได้มาเมืองนี้สักครั้ง จะต้องหลงใหลอย่างแน่นอน
8.จิ่วจ้ายโกว (Jiuzhaigou)หากใครกำลังเสาะหาการท่องเที่ยวในดินแดนแห่งเทพนิยายที่ประเทศจีนแล้วล่ะก็ จิ่วจ้ายโกว คือจุดหมายปลายทางที่ต้องมาปักหมุด เพราะนอกจากในภาพรวมของเมืองจะมีความสวยงามแล้ว ยังเต็มไปด้วยธรรมชาติ ที่จะทำให้ตกหลุมรักตั้งแต่แรกพบเลยทีเดียว โดยจุดเด่นของเมืองนี้ คือ มรดกโลกทางธรรมชาติ ซึ่งกล่าวขานกันว่าเป็นสวรรค์บนดิน เนื่องเพราะเต็มไปด้วยลำน้ำสีฟ้าใสสะอาด จนทำให้เห็นเป็นเงาสะท้อนของใบไม้บนภูเขาที่เปลี่ยนสีไปตามฤดูกาล เกิดความสวยงามของธรรมชาติที่หาชมได้ยาก
9.จางเจียเจี้ย (Zhangjiajie)ปิดท้ายที่เมืองที่เรียกได้ว่า เป็นตำนานแห่งประวัติศาสตร์ของประเทศจีน ในสมัยสามก๊ก เมืองนี้เต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่น่าค้นหา รวมทั้งธรรมชาติที่งดงามอย่างอุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย ตั้งอยู่ทิศตะวันตกเฉียงเหนือของมณฑลหูหนาน ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติที่สวยงาม ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่เขาสิงโตเหลือง ยอดเขามีความสูงกว่าระดับน้ำทะเล 1,300 เมตร ถือว่าเป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นเทือกเขา ทอดยาว ลดหลั่นกันไปตามแนวหน้าผา จนเกิดเป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่งดงามอีกแห่งหนึ่งของเมืองจีน และของโลก ที่ใครได้มาสักครั้ง จะไม่มีวันลืมมาถึงตรงนี้ หลายคนคงพร้อมจะบินไปฉลองตรุษจีนที่จีนกันแล้ว และวันนี้ “การบินไทย” สายการบินแห่งชาติ ทำให้การบินไปเที่ยวประเทศจีน เพื่อเสริมมงคลให้ชีวิต เฮง เฮง เฮง ตลอดปีได้ง่ายขึ้น ด้วยราคาบัตรโดยสาร ไป-กลับ/ท่าน เริ่มต้นเพียง 7,830 บาท ไปยัง 9 จุดหมายปลายทาง (ปักกิ่ง, เซี่ยงไฮ้, เจิ้งโจว, ฉงชิ่ง, ฉางชา, เฉิงตู, กวางโจว, เซี่ยะเหมิน, คุนหมิง) สามารถจองบัตรโดยสารได้แล้วตั้งแต่ วันนี้ ถึง 31 ม.ค. 63 เริ่มเดินทางตั้งแต่ วันนี้ ถึง 31 ก.ค. 63 (หมายเหตุ : บัตรโปรโมชั่นนี้ ขอสงวนสิทธ์ไม่อนุญาตให้เดินทาง ช่วงวันที่ 3-6,10-14 เม.ย. 63 1-5 พ.ค. 63/3-6 ก.ค.63) พร้อมบริการแบบ Full Serveries สร้างความประทับใจไม่รู้ลืม สนใจเพียงคลิก https://bit.ly/2TPeq9K
