สังคม

เปิดอายุแท้จริง ทิม พิธา ว่าที่นายกรัฐมนตรีที่มีอายุน้อยที่สุดในรอบ 70 ปี

สยามนิวส์
เผยแพร่ 17 พ.ค. 2566 เวลา 09.49 น. • ทีมข่าวสยามนิวส์
เปิดอายุแท้จริง ทิม พิธา ว่าที่นายกรัฐมนตรีที่มีอายุน้อยที่สุดในรอบ 70 ปี

จากผลการนับคะแนนเลือกตั้ง พ.ศ. 2566 พรรคก้าวไกล ได้จำนวนที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรมากที่สุด ชนะพรรคเพื่อไทย และ ทิม พิธา ประกาศแล้วว่าจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งหมายความว่า ทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ มีโอกาสสูงมาก ที่จะขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี และด้วยวัย 42 ปี ทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จะเป็นนายกรัฐมนตรีที่มีอายุน้อยที่สุดในรอบ 70 ปี

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

-ทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เกิดที่กรุงเทพ วันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2523 ปัจจุบันอายุ 42 ปี

-เป็นลูกคนโตของพงษ์ศักดิ์ ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

-เป็นหลานชายของผดุง ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย อดีตที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ สมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

-เข้าเรียนประถมถึงมัธยมต้น ที่โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย

-ก่อนที่จะไปเรียนต่อที่นิวซีแลนด์ ในระดับมัธยมปลายอยู่กับ Home Stay ที่เมืองแฮมิลตัน ในช่วงระหว่างอายุ 11 ถึง 17 ปี หรือในปี พ.ศ. 2540

-กลับมาเรียนต่อปริญญาตรี ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี ภาคภาษาอังกฤษ (BBA ธรรมศาสตร์) เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

-หลังจากเรียนจบปริญญาตรี ได้เข้าทำงานในตำแหน่งที่ปรึกษาธุรกิจ ที่บริษัท Boston Consulting Group

-จากนั้นได้ไปศึกษาต่อปริญญาโท 2 ใบ ที่สหรัฐอเมริกา ได้แก่ การเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตย Harvard University และ บริหารธุรกิจ Massachusett Institute of Technology

-รับช่วงต่อธุรกิจที่บ้าน ชื่อว่า บริษัท ซีอีโอ อกริฟู้ด จำกัด บริษัทนี้ทำธุรกิจผู้ผลิตน้ำมันรำข้าว โดยจากข่าว ทิม พิธา เข้ามาล้างหนี้ 100 ล้านบาทของบริษัทได้สำเร็จ รวมถึงพาบริษัททำรายได้ทะลุ 1,000 ล้านบาท ในปี พ.ศ. 2554 และ 2555 อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ปี 2559 บริษัทนี้ก็เริ่มมีปัญหา

ผลประกอบการย้อนหลังจากกรมพัฒนาธุรกิจ

ปี 2557 รายได้ 938 ล้านบาท กำไร 3 ล้านบาท

ปี 2558 รายได้ 675 ล้านบาท กำไร 0.4 ล้านบาท

ปี 2559 รายได้ 519 ล้านบาท ขาดทุน 146 ล้านบาท

ปี 2560 รายได้ 108 ล้านบาท ขาดทุน 99 ล้านบาท

ปี 2561 รายได้ 118 ล้านบาท ขาดทุน 89 ล้านบาท

โดยในเดือนกันยายน ปี 2560 ทิม พิธา ได้ออกจากการทำธุรกิจที่บ้าน มารับตำแหน่งเป็น Executive Director ของ Grab ประเทศไทย แต่ทำงานที่ Grab เพียง 9 เดือน หลังจากนั้น ทิม พิธา ก็สมัครเป็นสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ในปี พ.ศ. 2561 และได้เป็น ส.ส. ครั้งแรก จาก ส.ส. บัญชีรายชื่อลำดับที่ 4 ของพรรคอนาคตใหม่

ปี พ.ศ 2563 พรรคอนาคตใหม่โดนสั่งยุบพรรค และ ทิม พิธา ได้ขึ้นมาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคก้าวไกล

ปี พ.ศ. 2566 พรรคก้าวไกลส่งรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เป็น ทิม พิธา และคงไม่มีใครคิดมาก่อนว่า เขาจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะทุกคนต่างคาดการณ์ว่าพรรคเพื่อไทยน่าจะได้จำนวน ส.ส. เป็นอันดับหนึ่ง

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 5
  • O r o s ✨
    อย่าจบ ม.6 เหมือนท่าน สว.เป็นใช้ได้อ่ะ 555+
    18 พ.ค. 2566 เวลา 07.59 น.
  • Lalisa
    ทั้งสำเร็จและทั้งผิดหวังด้านธุรกิจ ถ้าได้เป็นนายกอย่าเข้ามาเพื่อธุระกิจตัวเอง เอาแต่ตัวเอง ที่สำคัญค้าขายต่างชาติได้อย่าได้เอามาเอาเปรียบคนไทยที่สำคัญอย่าได้ล้มชาติศาสนา พระมหากษัตริย์ก็แล้วกัน ให้รักประเทศเหมือนรักพ่อแม่พี่น้องตัวเอง อย่าเห็นแก่ตัวให้มีคุณธรรม
    17 พ.ค. 2566 เวลา 23.33 น.
  • M
    แล้วภรรยานายยกคือใคร😂
    17 พ.ค. 2566 เวลา 12.30 น.
  • 悠道ー日本
    เรื่องหุ่นสื่อ ไม่รอด แน่นอน อย่าเพิ่งดีใจไป
    17 พ.ค. 2566 เวลา 11.59 น.
  • lek
    อายุน้อยแต่เลวสุดๆ ไอ้พิธาอย่าลืมบอกลูกด้วยนะว่า ไอดอลของหนู คือพี่หยก จำไว้นะลูก
    17 พ.ค. 2566 เวลา 11.35 น.
ดูทั้งหมด