ปลูกผักสวนครัวในกระสอบ ด้วย ปุ๋ยโบกาฉิ ต้นทุนต่ำ ไม่ต้องปรุงดินบ่อย ผักโตดี
การปลูกพืชผักไว้กินเอง หรือปลูกเพื่อสร้างอาชีพ จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพราะไม่ว่าจะมีพื้นที่มาก พื้นที่น้อย หรือผู้ที่อาศัยอยู่ตามบ้านจัดสรร คอนโดฯ ก็สามารถปลูกไว้กินเองได้แบบไม่มีข้อแม้ ด้วยรูปแบบของการปลูกผักในยุคปัจจุบันที่มีมากมายหลายรูปแบบให้เลือกปลูกตามความเหมาะสมของพื้นที่ ไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่เยอะอีกต่อไป เพราะสามารถปลูกได้ทั้งในกระถาง ในกระบะ ในกระสอบ หรือภาชนะอื่นๆ ที่ไม่ได้ใช้งานหรือเป็นภาชนะเหลือทิ้งก็สามารถนำมาประยุกต์ปลูกผักได้เหมือนกัน ขอแค่มีใจรักก็สำเร็จได้ไม่ยาก
คุณปาริฉัตร แป้นทองคำ หรือคุณฉัตร อยู่บ้านเลขที่ 266 หมู่ที่ 3 ตำบลดอนเจดีย์ อำเภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี อดีตข้าราชการ ผันตัวเป็นเกษตรกรปลูกผักสลัด-ผักสวนครัว ปลอดสารพิษสร้างรายได้ เน้นการปรุงดินปลูกให้มีคุณภาพ และการบำรุงด้วย “ปุ๋ยโบกาฉิ” ซึ่งเป็น ปุ๋ยอินทรีย์ อย่างดีไม่มีกลิ่นเหม็นเหมือนปุ๋ยคอกปุ๋ยหมักอื่นๆ รวมทั้งไม่มีไข่แมลงศัตรูพืชที่มักติดมากับปุ๋ยคอกทั่วไปเพราะจุลินทรีย์ย่อยสลายอินทรียวัตถุอย่างสมบูรณ์แล้วจึงเป็นอาหารที่พืชนำไปใช้ได้ทันที ประโยชน์ดีกับดิน สร้างอาหารให้พืช
คุณฉัตร เล่าให้ฟังว่า ก่อนหน้านี้ตนเองทำงานรับราชการอยู่ในกรมแพทย์ทหารบกมาก่อน แต่มีเหตุจำเป็นที่ต้องลาออกจากงานเพื่อกลับมาดูแลคุณแม่ที่ป่วย ซึ่งเธอก็ได้ใช้ช่วงเวลาที่กลับมาอยู่บ้านในการเริ่มต้นทำเกษตร โดยอาศัยพื้นที่รอบบ้านทำเป็นแปลงปลูกพืชผักสวนครัวเล็กๆ จากพื้นฐานด้านการเกษตรที่ติดลบสู่การลงมือลองผิดลองถูกด้วยตนเอง จนเกิดความชำนาญสามารถปลูกพืชผักได้ผลผลิตดีมากขึ้น “จากปลูกกินเองก็เริ่มขยับขยายเป็นสร้างรายได้ จากมือสมัครเล่นมาสู่มืออาชีพ”
**ปลูกผักในกระถาง-ถุงกระสอบ
ไอเดียสร้างอาชีพสำหรับพื้นที่น้อย**
สำหรับคนที่มีพื้นที่น้อยแต่อยากปลูกผักไว้กินเองหรือปลูกขายเป็นอาชีพเสริม คุณฉัตร บอกว่า ไม่ใช่เรื่องยากให้เริ่มจากปลูกพืชผักสวนครัวในกระสอบ หรือในกระถางก่อนอย่างละ 5-6 ต้น โดยเริ่มจากผักที่ชอบกินก่อน แล้วจึงค่อยขยับขยายหาพืชผักหลากหลายมาปลูกเพิ่ม ซึ่งข้อดีของการปลูกผักในกระถาง หรือปลูกในกระสอบ จะเป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับคนที่มีพื้นที่น้อยมากๆ เพราะ 1. ประหยัดพื้นที่ ปลูกบนคอนโดฯ บ้านจัดสรร ที่มีพื้นที่จำกัดได้สบายๆ 2. สามารถควบคุมน้ำและปุ๋ยได้ดี 3. ไม่ต้องกำจัดวัชพืช 4. ดูแลจัดการง่าย เคลื่อนย้ายสะดวก 5. ควบคุมกำจัดโรคและแมลงศัตรูพืชได้ง่าย 6. สามารถปลูกได้ทุกฤดูกาล 7. พื้นที่ดินขาดความอุดมสมบูรณ์สามารถปลูกได้
ขั้นตอนการปรุงดินก่อนปลูก โดยที่สวนจะมีทั้งการปลูกผักลงแปลง การปลูกในกระถาง และปลูกในกระสอบ ซึ่งการปรับปรุงดินก่อนปลูกจะดูที่ความเหมาะสมของพืชทีละชนิดถ้าเป็นผักใบ ต้องการธาตุไนโตรเจนเยอะ ก็จะมาดูว่าวัสดุปลูกอะไรบ้างที่มีไนโตรเจนเยอะ เช่น ดินหมักใบไผ่ เพราะที่บ้านมีไผ่เยอะอยู่แล้ว ก็นำเอาไปทำเป็นดินหมักใบไผ่ หรือบ้านใครไม่มีใบไผ่ จะใช้ใบก้ามปูก็สามารถนำมาทำได้เหมือนกัน แล้วใส่มูลสัตว์ 1 ส่วน แกลบดำ 1 ส่วน แกลบดิบ 1 ส่วน ดินหมักใบไผ่ 2 ส่วน ราดด้วยน้ำหมักสับปะรดที่ทำเอง หมักทิ้งไว้ในกระสอบ 1 เดือน ก่อนนำมาปลูก แต่ถ้าในกรณีของการปรุงดินปลูกพืชผักสวนครัวทั่วไป จะใช้ดินปลูกธรรมดา แทนการใช้ดินหมักใบไผ่ จากนั้นนำดินที่หมักไว้ครบ 1 เดือน มาใส่ในภาชนะที่เตรียมไว้ หากปลูกในถุงกระสอบ ให้นำฟางข้าว หรือถ้าพื้นที่ไหนไม่มีฟางข้าว ให้ใช้เป็นเศษใบไม้แห้งมารองไว้ที่ก้นถุงก่อนปลูกได้เหมือนกัน เสร็จแล้วกรอกดินใส่ถุง แล้วนำต้นกล้าที่เพาะไว้ลงปลูก
โดยที่สวนจะเน้นปลูกผักสลัดลงแปลง หรือถ้าในกรณีที่ออร์เดอร์ล้น ก็จะจัดการปลูกผักสลัดลงกระถางเพิ่มเติมในกระถาง 8 นิ้ว และในส่วนของผักสวนครัว ได้แก่ พริก กะเพราะ โหระพา มะเขือยาว กระเจี๊ยบ ต้นหอม เคล กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก ปลูกในกระถาง 12 นิ้ว ดินในกระถางสามารถใช้ปลูกซ้ำได้ 2-3 ครั้ง หลังจากนั้นเอาดินออกจากกระถางแล้วนำมาตากแดดไว้ แล้วผสมปุ๋ยคอก ปรุงดินใหม่ แล้วนำมาปลูกได้เหมือนเดิม
ระบบน้ำ ในส่วนของแปลงผักสลัดลงดินรดน้ำวันละ 4 เวลา คือ เช้า-สาย-บ่าย-เย็น และหากช่วงไหนแดดร้อนมากๆ จะใช้ซาแรนคลุมพรางแสง 50 เปอร์เซ็นต์ และในส่วนของการปลูกผักสวนครัวในกระถาง และถุงกระสอบ จะรดน้ำ 2 เวลา คือ เช้า-เย็น
การบำรุงใส่ปุ๋ย ทุกๆ 7-10 วันครั้ง จนถึงเก็บเกี่ยว โดยสูตรปุ๋ยที่ใช้เป็นปุ๋ยสูตร “โบกาฉิ” ซึ่งในปุ๋ยโบกาฉิมีจุลินทรีย์กลุ่มดีอยู่จำนวนมาก เมื่อใช้โบกาฉิเท่ากับเติมจุลินทรีย์ดีให้กับดิน จุลินทรีย์ช่วยตรึงไนโตรเจนในอากาศให้แก่รากพืช ปลดปล่อยฟอสฟอรัสและโพแทสเซียมที่อยู่ในดิน ปุ๋ยที่ตกค้างในดินให้เป็นอาหารพร้อมใช้สำหรับพืช ควบคู่กับการบำรุงด้วยฮอร์โมนนมสดเพื่อเพิ่มความหวาน กรอบ ของผักสลัด
ส่วนผสมของการทำปุ๋ยโบกาฉิมีดังนี้ 1. ขี้แพะ 2 ส่วน (เนื่องจากในพื้นที่หาขี้แพะได้ง่ายทางสวนจึงเลือกใช้ขี้แพะเป็นหลัก แต่ถ้าหากในพื้นที่อื่นๆ มีมูลสัตว์ชนิดใด ก็เอาอันนั้นมาประยุกต์ใช้ ไม่ว่าจะเป็น ขี้วัว ขี้ไก่ สามารถนำมาใช้ได้ทั้งหมด) 2. แกลบดิบ 1 ส่วน 3. รำละเอียด 1 ส่วน 4. จุลินทรีย์ EM 20 ซีซี 5. กากน้ำตาล 20 ซีซี 6. น้ำสะอาด 10 ลิตร
วิธีทำ นำส่วนผสมทั้งหมดคลุกเคล้าให้กัน หมักทิ้งไว้ 7 วัน สามารถนำมาใช้ได้ แต่ถ้าในกรณีที่ไม่ได้ผสมรำละเอียดลงไปสามารถทำได้เหมือนกันแต่ในกระบวนการหมักจะต้องเพิ่มระยะเวลาจาก 7 วัน เป็น 1 เดือน ถึงสามารถนำมาใช้ได้
ซึ่งประโยชน์ของปุ๋ยสูตรนี้เทียบเท่ากับการใช้ปุ๋ยเคมีสูตรเสมอ 16-16-16 แต่มาในรูปแบบของปุ๋ยอินทรีย์ ต้นทุนต่ำ แต่ปริมาณของคุณภาพของผลิตไม่ต่างกันเลย
ต้นทุนการปลูก ขึ้นอยู่กับพื้นที่ และวัสดุที่ใช้ปลูก หากปลูกในกระถางในช่วงแรกจะมีค่าต้นทุนค่ากระถาง สามารถใช้ได้ในระยะยาว หรือถ้าหากปลูกในถุงต้นทุนก็จะถูกลงมา แต่ถ้าปลูกในถุงกระสอบข้าวสารที่ไม่มีรู ก็แนะนำให้เจาะรูที่ถุงเพื่อระบายน้ำออกได้
ปริมาณผลผลิต หากเป็นผักสลัดจะเก็บตามออร์เดอร์ที่ลูกค้าสั่ง และในส่วนของผักสวนครัวทุกชนิดเน้นขายแบบยกกระสอบพร้อมกิน ลูกค้าซื้อแล้วสามารถเก็บกินได้นาน โดยเฉพาะหากมีการดูแลที่ดีสามารถเก็บกินได้นานเกือบ 2 ปี เช่น โหระพา เคล พริก กะเพรา ผักสวนครัว ขายยกในราคา 100 บาทต่อถุงต่อกระถาง ลูกค้าที่ซื้อไปไม่ต้องดูแลอะไรมาก เพราะดินทางสวนผสมให้แล้วอย่างดี เพียงแค่บำรุงด้วยจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงบ้าง ถ้าเป็นกระถางดูตามไซซ์ กระถาง 8 นิ้ว ราคาต้นละ 35-50 บาท กระถางไซซ์ 12 นิ้ว ราคา 100 บาท
“ลูกค้าที่ซื้อผักสวนครัวยกกระถางของเราไป ไม่ต้องกังวลว่าจะดูแลไม่ได้ โดยเฉพาะโหระพา กะเพราะ เป็นพืชผักที่ยิ่งตัดกิ่งยิ่งแตกออกมาเรื่อยๆ สะระแหน่ก็เหมือนกัน คือผักตระกูลนี้ตัดปุ๊บอีกไม่นานก็แตกกิ่งใหม่ออกมาเลย ซึ่งตอนนี้ผักในกระถางกำลังเป็นที่ต้องการของตลาดมาก อย่างล่าสุดมีคาเฟ่ติดต่อเข้ามาขอซื้อผักเคล ผักสวนครัวไปจัดสวนผักกินได้ สร้างรายได้ต่อวันตั้งแต่ 300-1,000 บาท โดยมีตลาดหลักคือโรงพยาบาล และเพื่อนๆ ที่เป็นครู พรีออร์เดอร์มา”
แนะนำเกษตรกรมือใหม่
“สำหรับเกษตรกรมือใหม่ ต้องดูว่าชอบกินผักไหม ถ้าบางคนชอบกินแต่ไม่ชอบปลูกก็ปลูกไม่ได้นะ เพราะความอดทนอาจมีไม่มากพอ แต่อย่างพี่ พี่ชอบกินแล้วก็ชอบปลูกด้วย ก็เลยมีความอดทนและความพยายามในการลองผิดลองถูก เพราะพี่ก็ไม่ได้เรียนจบเกษตรมาโดยตรง แต่พี่เรียนจบนิติศาสตร์มา พี่ก็ยังสามารถปลูกผักได้ประสบความสำเร็จ เพราะฉะนั้นใครๆ ก็ปลูกได้ ขอแค่มีความตั้งใจ และความกล้าที่จะลงมือ ผิดถูกให้เป็นเรื่องของอนาคต แล้วถ้ามาถึงวันที่ประสบความสำเร็จ เราจะรู้สึกภูมิใจกับในตัวเองมากๆ เลย” คุณปาริฉัตร กล่าวทิ้งท้าย
หากสนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่เบอร์โทร. 087-762-5776 หรือติดต่อได้ที่เพจเฟซบุ๊ก : ปาริฉัตร แป้นทองคำ
………………………….
เผยแพร่ออนไลน์ล่าสุด เมื่อวันอังคารที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2566
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ปลูกผักสวนครัวในกระสอบ ด้วย ปุ๋ยโบกาฉิ ต้นทุนต่ำ ไม่ต้องปรุงดินบ่อย ผักโตดี
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.technologychaoban.com