ช่วยพาส่งรพ.แล้ว พ่อเปิดใจ พาลูกผ่าตัดสมอง ขี่ซาเล้งจากเลยมานครสวรรค์ เผยต้องทำงานเลี้ยงเลยไม่ได้มาตามหมอนัด ด้านรพ.แจง ผู้ว่าฯเลยสั่งช่วยด่วน
จากกรณี พ่อพาลูกน้อย วัย 3 ขวบเศษ ผ่าตัดสมอง ขี่รถซาเล้งจากจังหวัดเลย เพื่อพาไปรับยาที่จังหวัดนครสวรรค์ โดยมีผู้พบเห็นสองพ่อลูก ขับขี่รถซาเล้งพ่วงข้าง มาตามถนนสายเพชรบูรณ์-พิจิตร ก่อนจะแวะอยู่พักรถอยู่ในเขต อ.ตากฟ้า จ.นครสวรรค์ จึงสอบถามข้อมูล พร้อมกับถ่ายภาพเอาไว้ แล้วจึงนำมาโพสต์ไว้ในเฟซบุ๊ก เพื่อขอความช่วยเหลือนั้น
ล่าสุดวันที่ 16 มี.ค. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 15 มี.ค. มีรายงานว่า 2พ่อลูกรายนี้ ได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพกู้ภัยตากฟ้า นำพาทั้งคู่เดินทางไปส่งยังจังหวัดชัยนาทแล้ว และกำลังจะพาตัวเดินทางมายังโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ อำเภอเมืองนครสวรรค์ เพื่อพาลูกมารักษา แต่ทราบว่า ยังไม่ได้มีการนัดกับหมอของโรงพยาบาลเอาไว้ เนื่องจากขาดการรักษาไปตั้งแต่ปี 2563
แพทย์หญิงรจนา ขอนทอง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ เปิดเผยว่า ได้ตรวจสอบประวัติข้อมูลจนทราบข้อมูลของพ่อลูกรายนี้ คือ นายสันติสุข อายุ 49 ปี ได้ให้กำเนิดลูกชายที่โรงพยาบาลจังหวัดชัยนาท เมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2563
ช่วยพาส่งรพ.แล้ว พ่อเปิดใจ พาลูกผ่าตัดสมอง ขี่ซาเล้งจากเลยมานครสวรรค์
แล้วจึงพาลูกมาตรวจตรวจรักษายังโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ก่อนจะพบว่า ลูกป่วยทางสมองตั้งแต่กำเนิด ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ โดยเป็นโรคหัวบาตร หรือภาษาทางการเรียกว่า ถุงเยื่อหุ้มสมองโป่งพอง บริเวณไขสันหลังส่วนล่าง และมีถุงน้ำที่ก้นพ่วงมาด้วย
ส่วนการรักษาในครั้งแรกนั้น ทางแพทย์ของโรงพยาบาลก็ได้ผ่าตัดสมอง โดยฝังท่อระบายน้ำเอาไว้ 2 เส้น พร้อมกับให้ยาในการรักษาตามอาการ เนื่องจากขณะนั้นเด็กยังเล็กอยู่ อีกทั้งโรคที่เป็น มีเปอร์เซ็นหายขาดน้อยมาก จึงต้องมาทำการตรวจรักษาอย่างสม่ำเสมอ
แต่ปรากฏว่า หลังจากที่รักษาไปครั้งแรกแล้ว นายสันติสุข ก็ไม่พาลูกน้อยกลับมาตรวจรักษาอีกเลย ทางโรงพยาบาลก็ไม่สามารถติดต่อได้ ไม่ทราบว่าอยู่ที่ไหน เนื่องจากเจ้าตัวได้เปลี่ยนเบอร์โทร จึงไม่ทราบอาการป่วยหลังจากนั้น
ช่วยพาส่งรพ.แล้ว พ่อเปิดใจ พาลูกผ่าตัดสมอง ขี่ซาเล้งจากเลยมานครสวรรค์
แพทย์หญิงรจนา กล่าวว่า อาการตอนนี้ยังต้องรักษาตามขั้นตอนของแพทย์ ซึ่งมีแผนการเตรียมเอาไว้ตั้งแต่ที่ทำการผ่าตัดก่อนหน้านี้แล้ว แต่ก็ต้องมีการนำตัวเด็กมาตรวจอาการและสภาพร่างกายในตอนนี้ก่อน เนื่องจากเด็กขาดการรักษาจากที่นี่ไปนาน
หลังจากนั้น จะมีการประเมินอาการ และวางแผนขั้นตอนการรักษาต่อไป ส่วนเรื่องค่ารักษาเด็กคนนี้ แต่เดิมเขาใช้สิทธิ์บัตรทอง 30 บาท รักษาได้ตลอดชีวิต และที่ผ่านมา ได้มีการประเมินการรักษาเอาไว้ในระยะ 15 ปี แต่ตอนนี้ อาจจะต้องมีการเปลี่ยนระยะเวลาออกไป
ด้าน นายแพทย์ณรงค์พงศ์ โล้วพฤกมณี นายแพทย์เชี่ยวชาญด้านประสาทศัลยกรรม ซึ่งเป็นหมอประจำตัวของเด็กตั้งแต่ผ่าตัดครั้งแรก กล่าวว่า เคสนี้เป็นโรคที่รักษาไม่หายขาด เพราะเป็นความผิดปกติทางร่างกายตั้งแต่กำเนิด ไม่ใช่โรคเฉพาะทาง
ช่วยพาส่งรพ.แล้ว พ่อเปิดใจ พาลูกผ่าตัดสมอง ขี่ซาเล้งจากเลยมานครสวรรค์
จึงต้องมีการเข้ารับการตรวจรักษาตามแพทย์นัดหมายอย่างสม่ำเสมอ ควบคู่ไปกับการเลี้ยงดู ที่ต้องสัมพันธ์กัน ส่วนเรื่องที่ทางพ่อของเด็กระบุว่า ต้องเดินทางมารับยาที่นี่ น่าจะเป็นความเข้าใจผิดมากกว่า ซึ่งจริง ๆ แล้วเป็นการนัดหมาย ที่จะต้องพาเด็กมาทำการตรวจเช็กสมอง และท่อที่ฝังเอาไว้ ไม่ได้มีการมานัดรับยาแต่อย่างใด และเป็นการนัดหมายตั้งแต่เดือนมิถุนายน ปี 2565 แล้ว
“เมื่อสักพัก ผมสามารถติดต่อพ่อของเด็กได้ จึงซักถามอาการของเด็กในเบื้องต้น ก่อนจะทราบว่า เมื่อช่วงต้นปี เด็กมีอาการชัก พ่อของเขาจึงพาตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลจังหวัดเลย ซึ่งก็ได้มีการตรวจเช็กสมองด้วยคลื่นไฟฟ้า และรักษาไปตามอาการ แต่เด็กก็ยังไม่ดีขึ้น ยังมีอาการชักอยู่บ่อย ๆ จึงทำให้พ่อของเขาต้องตัดสินใจเดินทางไกล เพื่อพาลูกมารับการรักษาที่นี่”
ทั้งนี้ เวลาต่อมา นายสันติสุขได้พาลูกน้อยที่ป่วย เดินทางมาโดยรถโรงพยาบาลตากฟ้า มาถึงโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ ทางแพทย์ทีมห้องฉุกเฉินที่เตรียมตัวรอไว้แล้ว จึงพาลูกของนายสันติสุขขึ้นเตียงคนไข้ แล้วพาเข้าห้องเพื่อตรวจอาการและสภาพร่างกายทันที
ซึ่งในเบื้องต้นเอกซเรย์สมองแล้วพบว่า ท่อที่เคยฝังไว้ได้ตันไปหนึ่งเส้น อีกทั้งทราบจากพ่อของเด็กว่า ลูกมีอาการชักต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นปีแล้ว จึงอาจจะต้องใช้ยากันชักไปตลอดชีวิต
ส่วนการสอบถาม นายสันติสุข กล่าวว่า ที่ผ่านมาต้องกลับไปทำมาหากินเลี้ยงชีพและลูกอยู่ที่จังหวัดเลย จึงพาลูกไปรักษาตัวอยู่ที่นั่นนานกว่า 2 ปี กระทั่งต้นปีนี้ เด็กมีอาการหนักขึ้น และชักบ่อย ซึ่งหมอของเด็กที่โรงพยาบาลเลย ก็ได้ตรวจอย่างละเอียดจนพบว่า ท่อระบายน้ำที่ฝังอยู่ในหัวของเด็ก อุดตันไป 1 ข้าง ต้องทำการผ่าออก
แต่จะต้องเดินทางไปผ่าตัดยังโรงพยาบาลในจังหวัดอุดรธานี หรือที่จังหวัดขอนแก่นเท่านั้น เพราะชำนาญทางด้านนี้ แต่ด้วยความที่ตนไม่เคยพาลูกไปรักษาที่นั่นมาก่อน จึงตัดสินใจขี่รถซาเล้งพ่วงข้างมาลูกมารักษายังนครสวรรค์ดีกว่า เพราะเป็นโรงพยาบาลแรกที่ทำการผ่าตัดให้ลูก โดยเดินทางมาแล้ว 4 คืน ค่ำที่ไหนนอนที่นั่น ไม่มีเงินไปเช่าพักที่ไหน เพราะพกเงินติดตัวมาแค่ 500 บาทเท่านั้น
ส่วนเรื่องกระแสที่โพสต์กันในโซเชียล ตนไม่ทราบเพิ่งจะมารู้เรื่องก็ตอนที่มีเจ้าหน้าที่กู้ชีพกู้ภัยมาช่วยเช่นกัน แต่ตลอดการเดินทางที่ผ่านมา ก็มีคนใจดีมาแวะมาให้การช่วยเหลือมาตลอดทาง ทั้งให้เงินและซื้อของมาให้
จนกระทั่ง มาถึงเขตอำเภอตากฟ้า จังหวัดนครสวรรค์ ได้มีน้องผู้หญิงคนหนึ่งที่เขาผ่านมา ได้แวะมาสอบถามก่อนจะไปซื้อของมาให้ พร้อมกับมอบเงิน 100 บาทให้ตนติดตัวเพื่อเดินทางต่อ แล้วเขาก็ไป จึงไม่ทราบเลยว่า เขามีการถ่ายภาพแล้วเอาไปประกาศบนโลกโซเชียลเพื่อช่วยเหลือด้วย ซึ่งตนก็ต้องฝากขอขอบคุณ เขาเป็นคนจิตใจดีมาก
นายชัยพจน์ จรูญพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย
ขณะที่ นายชัยพจน์ จรูญพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เปิดเผยว่า ในเรื่องนี้ทางจังหวัดเลยนั้น หลังจากทราบข่าวได้เร่งติดตามในเรื่องนี้ โดยมีข้อเท็จจริงปรากฏว่า พ่อลูก อาศัยในเขตอำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย ลูกเคยได้รับการผ่าตัดสมอง ที่โรงพยาบาลนครสวรรค์และกลับมารักษาตัวที่จังหวัดเลย
โดยการรักษาต่อเนื่อง ได้รักษาตัวที่โรงพยาบาลเลย และโรงพยาบาลวังสะพุง ซึ่งได้รับข้อมูลจากผู้อำนวยการโรงพยาบาลเลยว่า เคสบุตรชาย ได้ทำการรักษาต่อที่อุดรธานี และหากเด็กชายสตางค์ กองกลั่น นั้นทำการรักษาแล้วต้องการจะมารักษาตัว พักฟื้นที่จังหวัดเลยก็ยินดี
ทางเราดูแลเป็นพิเศษวันนี้ ได้สั่งการให้ กาชาดจังหวัดเลย และแม่บ้านมหาดไทย เดินทางไป จังหวัดนครสวรรค์และประสานกับกาชาดของนครสวรรค์เพื่อดูแล 2 พ่อลูก อย่างเต็มที่ เพื่อเป็นห่วงในฐานะคนจังหวัดเลย
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ช่วยพาส่งรพ.แล้ว พ่อเปิดใจ พาลูกผ่าตัดสมอง ขี่ซาเล้งจากเลยมานครสวรรค์
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.khaosod.co.th