เรื่องสั้น

กำราบรัก คุณแม่สุดแซ่บ

นิยาย Dek-D
อัพเดต 07 พ.ค. เวลา 11.15 น. • เผยแพร่ 07 พ.ค. เวลา 11.15 น. • Melyssa_WT
เพียงข้ามคืน กับชีวิตที่ต้องเปลี่ยนไป กลายเป็นคุณแม่สุดแซ่บของเจ้าแฝดสุดแสบ

ข้อมูลเบื้องต้น

กำราบรัก คุณแม่สุดแซ่บ

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

…รักร้าย รุ่นหลาน…

วรา เฌอสลัล ลูกชายของเดลกับเอวา หลานคนที่ 9 ของแทนไทกับพรพระพาย

มุก มุกไหม คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวสุดแซ่บ หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ต่างเสนอตัวเป็นพ่อของแฝด

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

เมฆ ด.ช.ม่านเมฆ แฝดพี่ ห่วงแม่สุดๆ ใครก็ห้ามจีบ

หมอก ด.ช.ม่านหมอก แฝดน้อง ความห่วงแม่ไม่น้อยกว่าแฝดพี่ ใครจีบแม่เป็นต้องเจอดี

ผังครอบครัว

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ฝากติดตาม กดถูกใจ คอมเม้นท์ เป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วยนะคะ

นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้แต่ง ทั้งรูปภาพ สถานที่ ตัวละคร เป็นเพียงเรื่องสมมติ ไม่เกี่ยวข้องกับชีวิตจริง

นิยายเรื่องนี้มีเนื้อหาทางเพศ ความรุนแรง คำหยาบคาย ไม่เหมาะสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

คำเตือน

สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537

ห้ามคัดลอก ทำซ้ำ ดัดแปลง หรือนำส่วนหนึ่งในนิยายไปเผยแพร่ ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น โดยไม่ได้รีบอนุญาตจากเจ้าของผลงาน หากฝ่าฝืนมีโทษบัญญัติไว้สูงสุดตามกฎหมายพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537

เริ่มอัพตอนแรก 11/12/2565

ตอนที่ 1 มุกไหม

เพียะ !!

ฝ่ามือใหญ่ของชนาธิปฟาดลงบนแก้มของ มุกไหม บุตรสาวคนโตที่เกิดจาก กชมน ภรรยารองเต็มแรง ท่ามกลางรอยยิ้มเหยียดหยันและสายตาสะใจที่เกิดจากความจงเกลียดจงชังของ ณหทัย ภรรยาใหญ่ มุกปรินทร์ บุตรชายคนโต ที่เกิดก่อนมุกไหมเพียงไม่กี่ชั่วโมง และมุกระวี บุตรสาวคนเล็กที่อายุน้อยกว่าสองปี

“แกไปจัดการกับไอ้มารหัวขนนี่ซะ” ชนาธิปประกาศกร้าว คำสั่งของเขาถือเป็นเด็ดขาดในบ้านหลังนี้

“ไม่ มุกไม่มีทางเอาลูกออก มุกจะเลี้ยงเขาเอง” มุกไหมยืนกรานเสียงแข็งที่จะเอาลูกไว้ ชีวิตน้อย ๆ ในท้องของเธอไม่ได้มีความผิด เขาบริสุทธิ์เกินกว่าที่เธอจะทำลายเขาได้ และตั้งใจจะเลี้ยงเขาด้วยมือของเธอเอง

“มุก อย่าขัดคำสั่งคุณพ่อ” กชมนหวาดเกรงคนเป็นเป็นสามียิ่งกว่าสิ่งใด

“มุกไม่มีทางเอาลูกออกนะแม่”

“ขวนขวายสอบชิงทุนไปเรียนต่อถึงเกาหลี ยังไม่ทันไรก็ท้องโตกลับมา แล้วยังมีหน้าจะเก็บเด็กนี่ไว้ นี่แกจะทำให้ตระกูลของเราอับอายขายขี้หน้าไปถึงไหน” เสียงกระแนะกระแหนที่แฝงไปด้วยความชิงชังของณหทัยยิ่งสร้างความเดือดดาลให้แก่ชนาธิปเป็นเท่าทวี ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาคำพูดของเธอก็เป็นเชื้อเพลิงชั้นดีที่พร้อมเผาผลาญสองแม่ลูกให้มอดไหม้

“กชมน จัดการทำลูกสาวของเธอให้ขาวสะอาด ฉันจะจับมันใส่ตะกร้าล้างน้ำ” ชนาธิปยื่นคำขาด

“มุกไม่ยอม”

เพียะ !!

“แกต้องยอม” เสียงของคนเป็นแม่พร้อมฝ่ามือที่ฟาดลงไปบนแก้มของลูกสาวยิ่งสร้างความสะใจให้กับสามแม่ลูก แต่กลับสร้างความบอบช้ำให้กับมุกไหม ที่แม้แต่แม่ของตัวเองก็ยังซ้ำเติมในยามที่เธอต้องเผชิญหน้ากับปัญหา

“แม่” มุกไหมมองคนเป็นแม่ด้วยแววตาตัดพ้อ หยาดน้ำตารินไหล ตั้งแต่จำความได้ แม่เชื่อฟังพ่อกับแม่ใหญ่มาตลอด ไม่เคยปกป้องเธอสักครั้ง

“ทำตามที่คุณพ่อบอก ถ้าแกกับฉันยังอยากมีที่ซุกหัวนอน”

“ถ้าแม่คิดแบบนี้ ทำไมวันที่แม่รู้ว่ามีมุก แม่ไม่เอามุกออกไปซะ มุกจะได้ไม่ต้องเกิดมาให้คนอื่นตราหน้าว่าเป็นลูกเมียน้อย”

เพียะ !!

“ฉันเป็นแม่แกนะ แกไม่มีสิทธิ์มาว่าฉันแบบนี้ ในเมื่อฉันทำให้แกเกิดมาแล้ว แกก็ต้องตอบแทนบุญคุณฉัน ด้วยการไปเอาไอ้เด็กนี่ออก แกกลับไปที่ห้องของแกแล้วเตรียมตัว พรุ่งนี้ฉันจะพาแกไปเอามันออกเอง” กชมนฟาดฝ่ามือลงบนแก้มของลูกสาวอีกครั้ง เลือดสีแดงสดไหลออกมาจากมุมปาก มุกไหมไม่คิดจะเช็ดมันออก อยากให้มันเป็นเครื่องตอกย้ำว่าไม่มีใครรักเธอ นอกจากตัวของเธอเอง ก่อนจะพาร่างกายและหัวใจที่บอบช้ำกลับห้องของตัวเอง

“จัดการให้เรียบร้อย ไม่เช่นนั้นก็ไสหัวออกไปจากบ้านหลังนี้พร้อมลูกกับหลานของแก” ณหทัยหยิบธนบัตรสีเทาจำนวนหนึ่งออกมา ธนบัตรเหล่านั้นปลิวว่อนต่อหน้ากชมน เธอทรุดตัวลงกับพื้นมองร่างสูงของคนเป็นสามีเดินจากไปอย่างไม่ไยดีผ่านม่านน้ำตาด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ

“คุณแม่ขา เราออกไปชอปปิงกันดีกว่าค่ะ ระวีอยากได้กระเป๋าคอลเลกชันใหม่” มุกระวีเบ้ปากใส่คนที่มีศักดิ์เป็นแม่รอง แต่ก็ไม่เคยให้ความเคารพ ด้วยมีณหทัยคอยพร่ำบอกเสมอว่ากชมนเป็นเพียงคนใช้ที่ปล่อยให้ตัวเองท้องเพื่อหวังจับคนเป็นพ่อ มุกระวีกับมุกปรินทร์จึงดูถูกเหยียดหยามกชมน และคอยกลั่นแกล้งมุกไหมเสมอมา ยิ่งมุกไหมโดดเด่นทั้งการเรียนและกิจกรรม ก็ยิ่งสร้างความอิจฉาริษยาให้กับสองพี่น้อง คอยหาเรื่องมุกไหมไม่เว้นวัน แม้จะได้รับคำชื่นชมแต่มุกไหมก็ไม่เคยได้รับความรักจากพ่ออย่างที่ควรจะเป็น ด้วยชนาธิปเกรงใจณหทัยยิ่งกว่าสิ่งใด

“ได้สิลูก เราไปชอปปิงกันดีกว่า วันนี้แม่รู้สึกมีความสุข สุขจนล้นอกเลยล่ะ” ณหทัยมองกชมนด้วยสายตาเหยียดหยาม และสมเพชในคราวเดียวกัน

“พี่ปรินทร์จะไปด้วยกันไหม” มุกระวีหันมาถามพี่ชายที่นั่งนิ่งเงียบตั้งแต่มุกไหมออกไป

“ไม่ล่ะ ระวีไปกับคุณแม่เถอะ” มุกปรินทร์ตอบน้องสาว สายตาจับจ้องไปยังทางที่มุกไหมเดินออกไป แววตาแฝงไปด้วยเลศนัย และนั่งอยู่ตรงนั้นเพียงลำพังหลังจากทุกคนออกไปจากห้องนี้ รอเวลาจนแน่ใจ…

“แม่ขอโทษ แม่ไม่ได้อยากให้หนูเกิดมาพร้อมถูกตราหน้าว่าเป็นลูกเมียน้อยเหมือนแม่ ในเมื่อหนูมาเกิดเป็นลูกของแม่แล้ว แม่ก็จะเลี้ยงดูหนูด้วยความรักของแม่ แม่จะปกป้องหนูเองนะคะ” มุกไหมนั่งอยู่ที่ปลายเตียงลูบท้องตัวเอง แน่วแน่ที่จะรักษาลูกไว้ นึกถึงเรื่องคืนนั้น คืนที่เธอมีความสัมพันธ์กับผู้ชายแปลกหน้า มิหนำซ้ำผู้ชายคนนั้นยังมีภรรยากับลูกแล้ว ทั้งที่เคยตั้งปณิธานไว้ว่าหากวันหนึ่งเธอมีลูก เธอจะไม่มีวันให้ลูกตกอยู่ในสภาพแบบเดียวกับเธอ ก่อนประตูห้องนอนจะเปิดออก และถูกปิดลงพร้อมกดล็อก

“ปรินทร์ นายเข้ามาทำไม” มุกไหมปาดคราบน้ำตาออกจากพวงแก้ม ลุกขึ้นเตรียมพร้อมหาทางหนีทีไล่ ด้วยพอจะคาดเดาการมาของมุกปรินทร์ได้ เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเข้าหาเธอ

“ก็เข้ามาช่วยไง” มุกปรินทร์ย่างสามขุมเข้าไปหามุกไหมอย่างใจเย็น

“ช่วยอะไร”

“ก็ช่วยเอามารหัวขนออกไงล่ะ” แววตาของมุกปรินทร์หื่นกระหายอย่างเห็นได้ชัด

“ออกไปนะ” มุกไหมถอยหนีเป็นจังหวะเดียวกับที่มุกปรินทร์ย่างกรายเข้ามา มุกไหมหันรีหันขวางหาทางรอดไปจากมารใจทราม

“ก็บอกว่าจะช่วยไง ไหน ๆ ก็จะต้องเอามันออก สู้เรามีความสุขกันก่อนไม่ดีกว่าเหรอ แล้วฉันจะช่วยเอามันออกให้เอง”

“เราเป็นพี่น้องกันนะ”

“แต่เท่าที่รู้ไม่ใช่นะ แม่ของมุกไปท้องกับใครมาก็ไม่รู้ แล้วมาบอกว่าเป็นลูกของคุณพ่อ คุณพ่อเวทนามุกกับแม่ก็เลยเลี้ยงไว้เท่านั้น” มุกปรินทร์พูดไปตามคำบอกเล่าของคนเป็นแม่

“อย่าเข้ามานะ บอกว่าอย่าเข้ามาไง” มุกไหมถอยหลังไปจนถึงทางตัน แต่นับว่าโชคยังพอเข้าข้างเธอบ้างให้หยิบฉวยของที่พอจะใช้ป้องกันตัวได้

“อย่าเล่นตัวไปหน่อยเลย ทำเป็นไม่เคยไปได้ โอ๊ย !!” ร่างสูงของ มุกปรินทร์ทรุดลงไปกองกับพื้น พร้อมเลือดสีแดงสดที่ไหลทะลักออกมาจากศีรษะ มุกไหมฟาดรูปปั้นเทพนิยายกรีกลงตรงตำแหน่งเดิมอีกครั้ง และครั้งนี้เป็นผลให้มุกปรินทร์สลบเหมือด เธอจึงอาศัยจังหวะนั้นหนีออกไปจากบ้านหลังนี้

ตอนที่ 2 เริ่มต้นชีวิตใหม่

“โอ๊ย !” มุกร้องออกมาด้วยความเจ็บแสบ ยามที่ แพท นรียา ที่เป็นทั้งเพื่อนสนิท เป็นคนที่เธอไว้ใจที่สุดและเป็นที่พึ่งในเวลานี้ ใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์แตะลงบนแผลแตกที่มุมปาก คราบน้ำตากับรอยฝ่ามือที่ปรากฏเด่นชัด บ่งบอกได้เป็นอย่างดีถึงความบอบช้ำที่ได้รับ

“เล่ามาว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงอยู่ในสภาพหนีตายมาแบบนี้ ความจริงมุกต้องอยู่ที่เกาหลีไม่ใช่เหรอ ทำไมจู่ ๆ ถึงกลับมา หรือว่าถูกยัยสามคนแม่ลูกแกล้งอะไรอีก ต้องใช่แน่ ๆ พวกเขาแกล้งอะไรมุก” แพทรับรู้เรื่องราวชีวิตของมุกมาตลอดระยะเวลาที่รู้จักกัน เป็นเธอที่คอยรับฟังปัญหาของเพื่อน และหลายครั้งที่ต้องปะทะคารมกับสองพี่น้อง โดยเฉพาะมุกระวีที่เคยมีเรื่องถึงขั้นลงไม้ลงมือกัน และแน่นอนว่าบทสรุปมุกต้องเป็นคนรับการลงทัณฑ์จากผู้เป็นพ่อและแม่ของตัวเอง หลังจากวันนั้น เธอจึงต้องควบคุมอารมณ์ด้วยไม่อยากให้มุกต้องถูกตีอีก

“ปรินทร์จะปล้ำมุก”

“ไอ้สารเลว กับไอ้ปรินทร์นี่ไม่รู้จะสรรหาอะไรมาด่ามันให้สมกับความเลวของมันจริง ๆ แล้วมันทำอะไรมุกบ้าง”

“ยังไม่ทันได้ทำอะไร มุกเอาตุ๊กตาปั้นตีมันจนสลบ แล้วก็หนีมาหาแพทนี่แหละ”

“ทำไมไม่บอกพ่อกับแม่ จริง ๆ แพทก็ไม่น่าถาม ถึงบอกไปก็ไม่มีใครเชื่ออยู่แล้ว แล้วรอยที่แก้มนี่ล่ะใครทำ พ่อหรือแม่ หรือทั้งสองคน”

“ทั้งสองคน”

“เขาตีมุกทำไม”

“มุกท้อง”

“ล้อเล่นน่า” แพทไม่อยากเชื่อหูตัวเอง เธอกับมุกเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่มัธยมปลาย เรียนมหาวิทยาลัยเดียวกัน เธอมั่นใจว่ารู้จักเพื่อนคนนี้ดี

“มุกท้องจริง ๆ”

“กับใคร”

“เขาจะเป็นใครก็ไม่สำคัญแล้วล่ะ เพราะมุกกับเขาจะไม่มีวันเจอกันอีก มุกไม่อยากได้ชื่อว่าเป็นเมียน้อยใคร และที่สำคัญมุกไม่อยากพรากพ่อมาจากลูกของเขา”

“เขามีเมียมีลูกแล้ว ?” ยิ่งฟัง แพทก็ยิ่งไม่อยากจะเชื่อ อึ้งแล้วอึ้งอีก

“ใช่ ลูกสาวของเขากำลังอยู่ในวัยน่ารัก มุกไม่อยากรู้สึกผิดมากไปกว่านี้ มุกไม่มีวันจะบอกหรือเรียกร้องให้เขามารับผิดชอบอะไรทั้งนั้น” ยิ่งนึกถึงใบหน้าไร้เดียงสาของเด็กหญิงตัวน้อย และแม่ของเด็กน้อยในวันนั้น มุกก็ยิ่งรู้สึกผิดที่ไปมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับผู้ชายคนนั้น ไม่รู้ว่าเธอจะทำให้ครอบครัวของเขาแตกแยกกันหรือเปล่า ได้แต่ภาวนาให้เขาปรับความเข้าใจกันได้

“มันเกิดอะไรขึ้นกับมุก มุกที่แพทรู้จักไม่ใช่คนที่จะนอนกับใครง่าย ๆ แล้วนี่ยัง…”

“มุกทำตัวเอง ถ้ามุกไม่ดื่มจนเมา เรื่องทุกอย่างก็คงไม่เป็นแบบนี้”

“มุกเมา แล้วเขาล่ะเมาด้วยหรือเปล่า”

“เราดื่มด้วยกันทั้งคู่”

“แล้วทำไมถึงยอมไปดื่มกับเขา รู้จักกันมาก่อนหน้านี้เหรอ” แพทรู้สึกว่าตัวเองเหมือนร้อยเวรที่กำลังสอบปากคำผู้ต้องหาอยู่อย่างไรอย่างนั้น

“มุกกับเขาเจอกันครั้งแรกที่แดนซ์คลับย่านกังนัม เขาเข้ามาทักมุก เราคุยกันถูกคอมากเลย”

“มุกชอบเขาเหรอ”

“หลังจากที่ได้คุยกัน มุกยอมรับว่ามุกชอบเขา เขารับฟัง เขาสามารถพูดให้มุกรู้สึกสบายใจ และยอมเล่าเรื่องของตัวเองให้เขาฟัง ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน” มุกยังคงจดจำชายหนุ่มร่างสูงที่มีใบหน้าอันหล่อเหลา ปรากฏรอยยิ้มละมุนให้เห็นอยู่บ่อยครั้งได้เป็นอย่างดี

“บทจะชอบใครก็ชอบขึ้นมาง่าย ๆ เลยเพื่อนฉัน ทีเมื่อก่อนมีหนุ่ม ๆ มาขายขนมจีบตั้งเยอะแยะกลับไม่ชอบใคร” มุกถือว่าเป็นสาวฮอตคนหนึ่งตั้งแต่เรียนมัธยม แต่ก็ไม่เคยมีวี่แววว่าจะชอบใคร หรือเปิดใจคบหากับใคร แต่กับผู้ชายคนนี้กลับยอมนั่งดื่มนั่งคุยกับเขา มิหนำซ้ำยังไปจบกันที่เตียงอีก

“แล้วคืนนี้แพทไม่ไปทำงานเหรอ” แพททำงานเป็นพีอาร์ที่ TXRBO CLUB ตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยปีสามจนกระทั่งเรียนจบ ด้วยรายได้ที่ทำให้สามารถเลี้ยงตัวเองและมีเงินส่งไปจุนเจือครอบครัวได้ เธอจึงไม่คิดจะหางานอื่นทำ ถึงใครจะว่าอย่างไรเธอก็ไม่เคยสนใจ

“เพื่อนกำลังมีปัญหา จะให้ทิ้งไปได้ไงเล่า”

“มุกอยู่ได้ แพทไปทำงานเถอะ”

“ไม่ล่ะ อยากอยู่เป็นเพื่อนมุก ถึงช่วยอะไรไม่ได้มากก็เถอะ”

“ใครบอก แพทช่วยมุกได้มากเลยละ แพทให้ที่หลบภัย แพทเป็นที่ปรึกษา แพทเป็นกำลังใจให้มุก”

“เมื่อก่อนมุกก็ช่วยแพท ถ้าวันนั้นมุกไม่ให้แพทยืมค่าเทอม แพทก็คงไม่ได้เรียนต่อ แล้วมุกจะเอายังไงกับชีวิตต่อจากนี้” ถึงแม้มุกจะอยู่ในฐานะลูกเมียน้อย แต่ข้อดีของชนาธิปก็คือส่งเสียเลี้ยงดูเธอกับแม่ แม้เงินจำนวนนั้นจะเทียบไม่ได้เลยกับที่สามคนแม่ลูกได้รับ แต่ก็ทำให้เธอกับแม่ไม่ต้องดิ้นรนปากกัดตีนถีบ และนั่นก็เป็นเหตุผลที่แม่ของเธอยอมทนรับสภาพเมียน้อย

“ถึงมุกจะไม่ได้เรียนต่อโทแล้ว แต่มุกก็ยังมีปริญญาตรี ยังไงมุกก็ต้องเอาตัวรอดได้” มุกมองของที่เธอคว้าติดตัวออกมาด้วย ของที่จะทำให้เธอเอาชีวิตรอดได้ เอกสารสำคัญ เงินที่เธอเก็บออมไว้ตั้งแต่เด็ก ๆ และโทรศัพท์มือถือ

“ถ้ามุกตัวคนเดียวมันไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะหางานทำ แต่มุกกำลังท้อง มันยากมากนะที่จะมีที่ไหนรับคนท้องเข้าทำงาน แล้วนี่ท้องกี่เดือนแล้ว” แพท พูดถูกทุกอย่าง ไม่มีที่ไหนรับคนท้องเข้าทำงาน แต่ถึงอย่างไรเธอก็ต้องหาทางออกให้กับชีวิตให้ได้ จะไม่ยอมกลับไปที่บ้านหลังนั้นอีก

“สองเดือน”

“แพทว่าก่อนอื่นมุกไปฝากท้องก่อนดีกว่า เรื่องงานค่อยว่ากัน ระหว่างนี้ก็อยู่กับแพทที่นี่ไม่ต้องไปหาที่อยู่ที่ไหนหรอก แพทจะช่วยมุกเลี้ยงหลานเอง น้าแพทจะช่วยแม่มุกเลี้ยงหนูเองนะ” แพทยื่นมือไปสัมผัสหน้าท้องของมุก

“แพท” มุกมองเพื่อนรักด้วยความซาบซึ้งใจ

“ไม่ต้องมาทำซึ้งเลย เราเพื่อนกันนะ อะไรที่ช่วยมุกได้ เพื่อนคนนี้ก็พร้อมช่วย”

“ขอบคุณนะ มุกรักแพทที่สุดเลย” มุกสวมกอดแพทอย่างขอบคุณ

“แพทก็รักมุก เราจะเป็นเพื่อนรักกันแบบนี้ตลอดไปนะ เอาแบบนี้ไหม ช่วงที่มุกท้อง มุกก็หาของมาไลฟ์สดขายไปก่อน คลอดแล้วค่อยหางานทำ กลางวันแพทจะดูหลานเอง ส่วนกลางคืนมุกก็ดูลูก”

“ก็ดีนะ ยุคนี้ใคร ๆ ก็เล่นโซเชียล สั่งของออนไลน์กันทั้งนั้น แพทว่ามุกขายพวกครีมหรืออาหารเสริมดีไหม”

“แพทก็ว่าดีนะ เอาเป็นครีมที่ปลอดสาร คนท้องสามารถใช้ได้ อย่างอาหารเสริมก็ต้องเป็นที่คนท้องกินได้ด้วย พวกเครื่องสำอางแพทก็ว่าน่าสนนะ มุกแต่งหน้าเก่งอยู่แล้ว”

“โอเคตามนี้ ก่อนอื่นก็ต้องหาข้อมูลก่อน”

“มุกหาข้อมูล ส่วนแพทจะทำหน้าที่พีอาร์ ทำเพจกับโฆษณาให้เอง”

เมื่อคิดได้ดังนั้นสองสาวก็ไม่รีรอ แบ่งหน้าที่กันตามความถนัด เริ่มจากหาผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับความงามที่คนท้องสามารถใช้ได้อย่างปลอดภัย และที่สำคัญต้องใช้แล้วเห็นผล โดยมุกจะต้องทดลองผลิตภัณฑ์เหล่านั้นด้วยตนเอง ก่อนจะนำมาขาย โดยมีแพทคอยช่วยเหลือ และสิ่งมหัศจรรย์ก็เกิดขึ้นเมื่อในครรภ์ของเธอมีสองชีวิตน้อย ๆ ที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ไปกับเธอ

ตอนที่ 3 ก้าวสู่ผู้บริหาร

“อึก…อุ๊บ” ขณะประชุมแต่งตั้งผู้บริหาร วรา เฌอสลัล ผู้บริหารสูงสุดคนใหม่ของ Captivating W Enticing Co.,Ltd. ที่รับวางแผนการตลาด ผลิต และออกแบบผลิตภัณฑ์เกี่ยวความสวยความงาม ทั้งสกินแคร์ น้ำหอม ครีมทาผิว เครื่องสำอาง และอาหารเสริม ก็เกิดอาการพะอืดพะอมอยากจะอาเจียน

“เป็นอะไรวรา” เดล จันทรัช ผู้ก่อตั้งบริษัทนี้มากับมือเอ่ยถามลูกชาย คณะกรรมการบริหารในที่ประชุมต่างหันมอง

“จู่ ๆ ก็รู้สึกคลื่นไส้ครับ”

“ไปพักก่อนไหม” หน้าที่ซีดเซียวของบุตรชายทำให้เดลอดเป็นห่วงไม่ได้

“ปะป๊าต่อเลยครับ ผมไหว” การประชุมดำเนินต่อไป แม้วราจะมีอาการพะอืดพะอมเป็นระยะ แต่เมื่อเสร็จสิ้นการประชุม เขาก็พาตัวเองหายเข้าไปในห้องน้ำอยู่นานสองนาน ก่อนจะออกมาด้วยสภาพโรยแรง

“วราเป็นอะไรลูก” เอวารีบเข้าไปช่วยพยุงลูกชาย ด้วยกลัวว่าจะเดินเซล้มไปเสียก่อน

“เห็นคลื่นไส้ตั้งแต่ประชุมละ” เดลเป็นคนตอบแทนลูกชาย

“ตื่นเต้นหรือไงคะท่านประธาน” นาราน้องสาวฝาแฝดของวราที่ติดตามคนเป็นแม่มาด้วยเอ่ยว่าอย่างไม่จริงจัง มือก็หยิบผลสตรอว์เบอร์รีสีแดงสดเข้าปาก เคี้ยวตุ้ย ๆ อย่างเอร็ดอร่อย

“กินอะไร เอามากินมั่ง” วรานึกเปรี้ยวปาก ยิ่งเห็นสตรอว์เบอร์รีลูกใหญ่ ๆ สีแดง ๆ เนื้อฉ่ำ ๆ ก็นึกอยาก คว้ากล่องสตรอว์เบอร์รีมาจากนารา

“วรา เอาคืนมาเลยนะ” ในบรรดาของกิน นาราหวงสตรอว์เบอร์รียิ่งกว่าสิ่งใด เวลาที่เธอกินอยู่ใครก็ห้ามแย่ง

“อย่าขี้งกไปหน่อยเลยน่า”

“วราก็รู้ว่าเวลานารากินสตรอว์เบอร์รีห้ามแย่ง ก็ยังจะแกล้งน้อง” เอวาว่า

“วรากินแค่ลูกสองลูกเองครับ แก้คลื่นไส้ เอาคืนไปเลย” วราส่งกล่องสตรอว์เบอร์รีคืนคนขี้หวง

“จบโทกันแล้วยังจะทะเลาะกันเป็นเด็ก ๆ อีกนะ” เดลส่ายหน้าน้อย ๆ ให้กับฝาแฝดคู่เล็ก ถึงจะเป็นฝาแฝดกันแต่ใบหน้าของทั้งคู่กลับไม่เหมือนกันเลย ต่างจากแฝดผู้พี่ ที่เป็นแฝดสาม ชายสอง หญิงหนึ่ง แต่ใบหน้าละม้ายคล้ายกันมาก วรากับนาราต่างไม่ยอมกัน จ้องแต่จะเอาชนะ แต่ด้วยความที่นาราเปรียบเสมือนลูกคนเล็ก จึงได้รับความเอนเอียงจากผู้เป็นแม่มากกว่าใคร แม้จะชอบทะเลาะกัน แต่ก็รักกันมาก ทั้งคู่คล้ายมีสัมผัสพิเศษระหว่างกัน ไม่ว่าใครมีเรื่องไม่สบายใจ อีกฝ่ายก็สามารถรับรู้ได้

“นี่ถ้ามีเมียนึกว่าแพ้ท้องแทนเมียนะเนี่ย” ด้วยมีพี่น้องหลายคนที่มีครอบครัวไปแล้ว นาราจึงเห็นจนชินตาที่สามีจะมีอาการแพ้ท้องแทนภรรยา และในเวลานี้วราก็กำลังมีอาการคล้ายคนแพ้ท้อง ทั้งคลื่นไส้อาเจียน และกินผลไม้รสเปรี้ยว

“แอบไปทำใครท้องหรือเปล่าวรา”

“วราป้องกันตลอดนะครับหม่าม้า…” วราพูดเพียงเท่านั้นก็ชะงักนิ่งงัน จู่ ๆ ก็เริ่มไม่แน่ใจ และนึกถึงใบหน้าสวยพริ้มเพราของหญิงสาวที่เขาถูกตาต้องใจ และมีความสัมพันธ์กัน แต่ก็เป็นความสัมพันธ์แบบข้ามคืน ไม่แม้แต่จะได้ร่ำลากันด้วยซ้ำ สองเดือนแล้วที่ใบหน้าของเธอยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของเขา

“มีไม่แน่ใจ” นาราว่าราวกับอ่านความคิดพี่ชายฝาแฝดได้

“ไม่แน่ใจอะไร ป้องกันตลอดจะไม่แน่ใจได้ไง” วราแก้ตัวพัลวัน ไม่มีอะไรที่เขาปิดบังน้องสาวฝาแฝดได้

“แล้วเมื่อไรจะมีเมียเป็นตัวเป็นตนสักที รีบ ๆ หาได้แล้ว ป๊าอยากอุ้มหลาน” เดลได้โอกาสไต่ถามเรื่องนี้ เขามีลูกชายสามคน แต่ละคนอยู่ในวัยฉกรรจ์ แต่ก็ไม่มีใครยอมลงหลักปักฐานสร้างครอบครัวเลยสักคน ส่วนลูกสาวสองคนนั้นหวงยิ่งกว่าไข่ในหิน

“ปะป๊าให้เฮียศิรา เฮียธารา หาก่อนเลยครับ วรายังไม่พร้อม”

“ก็พูดกันแต่ไม่พร้อม ๆ เอาอะไรมาไม่พร้อม หลานเป็นสิบคนป๊าก็เลี้ยงได้สบาย”

“วราไปทำงานก่อนนะครับ ยังมีอะไรให้ทำอีกเยอะเลย” วราเริ่มหาวิธีเอาตัวรอด แม้จะยังมีอาการคลื่นเหียนวิงเวียนศีรษะอยู่ แต่ถ้าคุยเรื่องนี้กับผู้เป็นพ่อต่อ มีหวังอาการเขาคงหนักยิ่งกว่าเดิม ก่อนไปยังมิวายหยิบผลสตรอว์เบอร์รีติดมือไปด้วย และก็ถูกนาราโวยวายด้วยความหวงแหนไปตามระเบียบ

เพจ ChicChic By มุกไหม เพจของความสวยที่ทันสมัย เพียบพร้อมไปด้วยผลิตภัณฑ์อาหารเสริม เครื่องสำอาง ครีมบำรุงผิว และของใช้จิปาถะของเหล่าคุณแม่ที่รับประกันว่าดีแน่นอน เพราะว่าที่คุณแม่เจ้าแฝดได้ทดลองใช้มาหมดแล้ว ก่อนที่จะนำมาขายให้กับลูกค้า จากยอดผู้ชมต่อการไลฟ์สดหลักสิบ ขยับขึ้นมาเป็นหลักร้อย จนพุ่งทยานไปสู่หลักพัน มีผู้ติดตามและกดไลก์เพจหลักหมื่น และอีกไม่นานก็จะก้าวสู่หลักแสน มีออเดอร์เข้ามาต่อวันไม่ต่ำกว่าร้อยบ้านที่ต้องจัดส่ง และทุกการไลฟ์สดจะมีออเดอร์ถล่มทลายนับพันชิ้น ถือเป็นความสำเร็จแบบก้าวกระโดดทีเดียวกับระยะเวลาเพียงหกเดือน

“กลับมาแล้ว อะเลขพัสดุ ออเดอร์เข้าอีกแล้วเหรอ ขายดีแบบนี้หลังคลอดมุกไม่ต้องไปหางานทำแล้วแหละ ยึดอาชีพเป็นแม่ค้าออนไลน์ต่อเลย” แพท ออกไปส่งของให้มุก ไม่ลืมที่จะหิ้วอาหารกลางวันสำหรับสองคนกลับมาด้วย ห้องพักแบบสตูดิโอดูเล็กไปถนัดตายามที่มีกล่องพัสดุและสต็อกสินค้าที่รอส่ง และในเวลานี้รอบ ๆ ตัวมุกมีออเดอร์เตรียมรอแพ็กลงกล่องอีกหลายออเดอร์ และดูท่าจะยังมีคำสั่งซื้อเข้ามาเรื่อย ๆ จากที่มุกตอบข้อความของลูกค้ามือเป็นระวิง

“มุกก็ว่างั้น ถ้าขายดีแบบนี้มุกว่าจะทำแบรนด์เป็นของตัวเอง แพทว่าดีไหม” มุกเงยหน้าขึ้นมาตอบด้วยความแช่มชื่นใจ แม้จะเหนื่อยและต้องอดตาหลับขับตานอน แต่เมื่อเห็นจำนวนเงินในบัญชีก็หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง

“ดีสิ ดีมาก ๆ เลยแหละ แพทพร้อมช่วย ถ้ามุกเปิดบริษัทเป็นของตัวเองเมื่อไร แพทจะยื่นใบสมัครเป็นพนักงานคนแรกเลย” แพทตอบ พลางเดินไปจัดการกับอาหารที่ซื้อมาเทใส่จาน

“อย่างแพทน่ะต้องเป็นหุ้นส่วน”

“แพทจะเอาเงินที่ไหนมาลงทุนกับมุก ลำพังส่งให้ที่บ้านก็เดือนชนเดือนแล้ว ดีนะช่วงนี้มีมุกช่วยหารค่าใช้จ่าย” น้องชายของแพทเริ่มเข้าเรียนมหาวิทยาลัย เธอจึงต้องส่งเงินไปให้ที่บ้านมากขึ้น แม้จะมีรายจ่ายเพิ่มขึ้น แต่เธอก็ไม่ยอมรับเปอร์เซ็นต์กำไรที่มุกขายของออนไลน์ได้ ด้วยคิดว่าตัวเองไม่ได้เดือดร้อนอะไรขนาดนั้น และอยากให้มุกเก็บเงินไว้ให้เจ้าแฝดที่ใกล้จะออกมาลืมตาดูโลกอยู่ไม่กี่วันนี้แล้ว

“มุกแบ่งกำไรให้ก็ไม่เอา”

“ไม่เอา เก็บไว้ให้หลาน หลานตั้งสองคนเลยนะ เก็บไว้เถอะ มุกยังมีรายจ่ายอีกเยอะ” แพทเดินกลับมาพร้อมอาหารสองจาน

“ทำไมแพทถึงดีกับมุกขนาดนี้ ขอบคุณนะ” มุกสวมกอดแพท ตามด้วยหอมแก้มเป็นการขอบคุณ

“ขนลุกแล้วเนี่ย กอดหอมกันทุกวันจนจะเป็นเบี้ยนอยู่แล้ว ว่าแต่มุกจะเอาเวลาที่ไหนทำ อย่าลืมนะว่าไม่ใช่แค่หนึ่ง แต่คูณสอง” แพทแกล้งทำเป็นคนลุกคนชันยามถูกมุกกอดกับหอมแก้ม แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่ามุกจะแบ่งเวลาได้อย่างไรทั้งเลี้ยงลูกน้อยฝาแฝด ทั้งโพรเจกต์ใหญ่ที่ผุดขึ้นมา

“มุกว่ามุกทำได้ แต่คงต้องหาผู้ช่วยเพิ่มด้วย เมฆกับหมอกจะเป็นเด็กดีของแม่มุกกับน้าแพทครับ” มุกมั่นใจในตัวเอง เมื่อมีโอกาสแล้วเธอจะไม่รอคำว่าพร้อม เหมือนเมื่อครั้งที่เธอตัดสินใจเป็นแม่ค้าออนไลน์ ในวันนั้นเธอกับแพทคิดได้และลงมือทำทันที จึงประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้ ลูกคือกำลังใจที่ดีเยี่ยมของเธอ และเชื่อว่าลูกก็พร้อมสู้ไปกับเธอ

“เดือนหน้าก็จะได้เจอกันแล้วนะครับม่านเมฆ ม่านหมอก ดิ้นแรงขนาดนี้หิวแล้วใช่ไหม มุกพักกินข้าวก่อน ดูสิ หลานชายแพทหิวแล้ว” แพทยื่นมือไปวางทาบบนหน้าท้องที่ขยายใหญ่ของมุก ทารกน้อยในครรภ์ดิ้นรับสัมผัส ก่อนจะให้ว่าที่คุณแม่ที่นั่งหลังขดหลังแข็งจากการจัดออเดอร์ให้ลูกค้าพักรับประทานอาหาร แต่ก็มิวายพูดคุยวางแผนเรื่องโพรเจกต์ และเห็นตรงกันว่าต้องหาคนมาช่วยแพ็กของกับตอบข้อความลูกค้า

อ่านต่อนิยายเรื่องนี้

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 1
  • 語萱
    一个人去了一趟吧、
    27 มี.ค. เวลา 01.03 น.
ดูทั้งหมด