อ่านพบว่าเมื่อวันเสาร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2563 มีพิธีเปิดอนุสรณ์สถานแห่งมิตรไมตรี ณ ถนนสยาม (Rue de Siam) ในเมืองแบรสต์ (Brest) ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศฝรั่งเศส บริเวณถนนสายนั้นได้ประดิษฐานรูปปั้นขนาดครึ่งตัวของ ‘โกษาปาน’ หรือ Kosa Pan : Le buste ข่าวข้างต้นสร้างความตื่นเต้นให้แก่ผมไม่เบาทีเดียว เพราะผมชอบศึกษาเรื่องราวของบุคคลท่านนี้เสมอๆ
สืบเนื่องจากในพ.ศ.2562 เป็นโอกาสครบรอบ 333 ปีที่คณะทูตสยามสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชแห่งกรุงศรีอยุธยานำโดยออกพระวิสุทธสุนทร ราชทูต (ต่อมาก็คือเจ้าพระยาโกษาธิบดี (ปาน)) ได้เดินทางไปเข้าเฝ้าพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ณ พระราชวังแวร์ซายเพื่อเจริญสัมพันธไมตรี คณะทูตรอนแรมเรือล่องท้องทะเลนาน 6 เดือน จนขึ้นฝั่งท่าเรือเมืองแบรสต์ในปี พ.ศ.2229 รวมถึงพำนักที่เมืองนี้ก่อนจะเดินทางไปยังกรุงปารีส จึงไม่แปลกเลยหาก ‘สยาม’ จะกลายเป็นชื่อถนนสายหลักของเมือง ซึ่งเดิมทีชื่อถนนแซงต์ปีแอร์ (Rue de S. Pierre) ต่อมาทางฝรั่งเศสได้เปลี่ยนชื่อมาเป็นถนนสยาม (Rue de Siam) และล่าสุดรูปปั้นของท่านราชทูตก็ถูกนำไปตั้งไว้ที่นั่น
โกษาปานเป็นผู้มีชื่อเสียงลือเลื่องในประวัติศาสตร์และได้กลายเป็นบุคคลสำคัญของไทยมาทุกยุคสมัย อีกทั้งยังจำหลักในความทรงจำและความสนใจของชาวไทยไม่น้อยราย กระทั่งนามท่านราชทูตยังเคยถูกนำมาใช้เป็นชื่อสินค้าด้วย ครับ ช่วง 2 ปีมานี้ พอเอ่ยนาม ‘โกษาปาน’ ผมมิแคล้วนึกถึงยาสูบช่วงระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2
คุณผู้อ่านอาจสงสัย เอ๊ะ! ท่านราชทูตไปเกี่ยวข้องกับยาสูบได้อย่างไรกันเล่า?
ขอเฉลยครับ ก็ผมเคยเจอโฆษณายาเส้นยี่ห้อ ‘โกสาปาน’ (เขียนด้วย ส. แทน ษ. แบบภาษายุค ‘เชื่อผู้นำ ชาติพ้นภัย’ หรือสมัยรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม) ประกาศเผยแพร่ตามหน้าสื่อสิ่งพิมพ์เมื่อปี พ.ศ.2486 โดยเฉพาะในหนังสือพิมพ์ นิกร หรือ THE NIKORN DAILY NEWS (พบการลงโฆษณานี้ตั้งแต่ฉบับกลางเดือนเมษายนติดต่อไปอีกหลายฉบับหลายเดือน)
ยาเส้น ‘โกสาปาน’ ผลิตโดยโรงงานยาสูบ ในโฆษณาจะปรากฏภาพเรือสำเภาลอยล่องคลื่นทะเลและภาพกระป๋องบรรจุยา โปรยถ้อยคำเชิญชวนว่า “ยาเส้นโกสาปาน รสเยี่ยม ราคาเยาว์”
ภาพจากหนังสือพิมพ์ นิกร ปีที่ 5 ฉบับที่ 2771 ประจำวันพุธที่ 14 เมสายน พ.ส. 2486
ผมคิดว่า การนำเอาชื่อของบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์มาเป็นชื่อสินค้าช่างน่าขบคิด เท่าที่เคยผ่านตาหลักฐานสื่อสิ่งพิมพ์ก่อนกึ่งพุทธกาล (พ.ศ.2500) ก็เจอลักษณะเช่นนี้เนืองๆ กล่าวเฉพาะสินค้าประเภทยาสูบ นอกเหนือจากชื่อบุคคลในอดีตแล้ว ตัวละครในวรรณคดีก็ถูกหยิบยกมาใช้โฆษณาเช่นกัน ดังปรากฏในหนังสือพิมพ์ ข่าวภาพยนตร์ ฉบับประจำวันจันทร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ.2468 ที่นำเอาตัวละครในเรื่อง ราชาธิราช มาโฆษณาผลิตภัณฑ์บุหรี่ของบริษัทยาสูบนานยาง ท.จ.ก. โปรยถ้อยความว่า
“เรื่องราชาธิราชเปนเรื่องเก่าแก่ก็จริงอยู่ แต่ความสนุกจับใจย่อมไม่แพ้เรื่องจักร์ๆ วงศ์ๆ หรือไม่แพ้เรื่องใหม่ๆ ในยุคนี้ ผู้ที่เคยอ่านมาแล้วย่อมจะพอใจอยากจะเห็นตัวของพวกแม่ทัพนายกองตลอดจนตัวพระเจ้าฝรั่งมังฆ้องซึ่งเปนผู้มีฝีมือและชื่อเสียงว่าเปนนักรบสำคัญในยุคโน้น ทุกๆ คนคงไม่ปฏิเสธอย่างแน่นอน ทุกๆ คนย่อมอยากเห็นโฉมหน้าของวีรบุรุษ, บัดนี้บริษัทได้ให้ช่างผู้มีฝีมือในการวาดเขียนวาดรูปทหารและนักรบตลอดจนรูปพระเจ้าฝรั่งมังฆ้องให้ท่านชมอย่างงดงาม ทั้งการแต่งกายก็แต่งตามยุคแลสมัยกระโน้น ระบายสีอย่างงดงามที่สุด คุยได้ว่าไม่มีใครสู้ได้ละกระบวนรูปเขียนด้วยกัน ทั้งครบชุดถึง ๑๐๐ รูป แบ่งเปนฝ่ายละ ๕๐ รูป คือฝ่ายมอญแลฝ่ายพม่า รูปอันงดงามเหล่านี้ได้บรรจุอยู่ในซองบุหรี่ตราลูกโลกทุกๆซอง ควรท่านจะมีไว้ให้ครบชุด ควรจะรีบแสวงหา ถ้าช้าไปเกรงว่ารูปเหล่านี้จะหมด ถ้าบรรจุอัลบัมครบชุดแล้วงามอย่างเหลือล้นพ้นประมาณ จะดูรูปก็สรวยหรู แกมเปนเรื่องจริงและเปนตำนานอันสำคัญด้วย
เพราะฉนั้นโปรดรีบแสวงหาเสียโดยเร็ว ในซองบุหรี่ตราลูกโลกจะมีรูปอยู่ทุกๆซอง โปรดอย่าลืมนะขอรับ”
แท้จริง ภาพจากวรรณคดีไทยที่เกี่ยวข้องกับซองยาสูบและซองบุหรี่เคยมีมาตั้งแต่ทศวรรษ 2450 ในรูปแบบที่เรียกว่า ‘ยากาแร็ต’ ซึ่งนำเสนอภาพจากวรรณคดีเรื่องรามเกียรติ์ ขุนช้างขุนแผน อิเหนา และพระอภัยมณี เป็นต้น
บ่อยครั้ง สินค้าก็อาศัยบทร้อยกรองหรือฉันทลักษณ์มาประพันธ์เป็นคำโฆษณา วิธีนี้ใช้โดยโรงงานยาสูบซึ่งมิใช่เพียงจะผลิตแค่ยาเส้น หากภายหลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ.2475 ยังได้ผลิตบุหรี่ตราฆ้องและบุหรี่ตราประตูชัยออกมาวางจำหน่ายในตลาดคู่กัน บุหรี่ตราฆ้องเป็นซองกระดาษ ส่วนบุหรี่ตราประตูชัยเป็นกล่องไม้อัดคล้ายๆ กล่องไม้ขีดไฟ อาจินต์ ปัญจพรรค์ นักประพันธ์เลื่องชื่อจำได้ว่าเขาเคยอ่านคำโฆษณาบุหรี่ทั้งสองบนหน้าหนังสือพิมพ์ในรูปแบบภุชงคประยาตฉันท์ 12 (ฉันท์ที่มีลีลาเหมือนงูกำลังเลื้อย) เนื้อความคือ
“ประโคมฆ้องระฆังขาน
สิกังวานสนั่นเวียง
บุหรี่ฆ้องประเดิมเคียง
ตลาดคู่ประตูชัย”
จะเห็นว่า สินค้าประเภทยาสูบและบุหรี่ก่อนปี พ.ศ.2500 ดูเหมือนเน้นให้ความสำคัญการนำเสนอเรื่องบุคคลสำคัญของไทย วรรณคดีไทย บทร้อยกรองและฉันทลักษณ์ไทย ราวกับพยายามสะท้อนภาพลักษณ์ ‘ความเป็นไทย’ ผ่านผลิตภัณฑ์ไปสู่ลูกค้าด้วย ฉะนั้น การโฆษณาสินค้าประเภทนี้ตามหน้าสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ ที่มองเผินๆ ก็เหมือนไม่มีอะไร เป็นแค่การสร้างจุดขายดึงดูดลูกค้า
แต่พอมองให้ลึกซึ้ง บางที อาจพบประเด็นและแง่มุมเรื่องประวัติศาสตร์ไทยอย่างน่าสนใจมากๆ
เอกสารอ้างอิง
ข่าวภาพยนตร์. (27 กรกฎาคม 2468) เฉลิมศักดิ์ รามโกมุท, ติกาหลัง. เกิดกลางกรุง ชุดรามเกียรติ์. กรุงเทพฯ : แพรวสำนักพิมพ์, 2537 เดอ วีเซ, เลอกงต์ ญัง ดอนโน.โกศาปานไปฝรั่งเศส. แปลโดย เอฟ ฮีแลร์. พระนคร : ศิลปาบรรณาคาร, 2497 นิกร. ปีที่ 5 ฉบับที่ 2771 (14 เมสายน 2486) ปียกนิฏฐ์ หงษ์ทอง. สยามสนุกข่าว.กรุงเทพฯ: กัญญา, 2531 อาจินต์ ปัญจพรรค์. โอ้ละหนอน้ำหมึก. กรุงเทพฯ: ดอกหญ้า, 2544. เอนก นาวิกมูล. สิ่งพิมพ์คลาสสิค. กรุงเทพฯ: สารคดี, 2533 Illustration by Sutanya Phattanasitubon
Noppakong 🎋⛩⏳ เหมือนในอดีตมันคือสิ่งที่แสดงถึงความทันสมัยและเป็นที่ยอมรับของพวกฝรั่งมังค่ารึเปล่า
23 ก.พ. 2563 เวลา 05.31 น.
Tanwa Raocharoen การโฆษณาคือการเอาสิ่งที่ผู้คนรับทราบ อยู่แล้วมา เป็นสะพานเข้าหาสินค้า สมัยก่อนมันจะมีอะไรให้ทราบกันกว้างขวางล่ะ จะไปหยิบนายแมวข้างบ้านมา คงสู้ท่านทูตไม่ได้เพราะท่านดังมาจากแบบเรียนแล้ว
23 ก.พ. 2563 เวลา 06.46 น.
รู้จักแต่ ตราไก่
23 ก.พ. 2563 เวลา 15.44 น.
Kob มีรายการอ้างอิงแล้ว น่าจะลงชื่อคนเขียนบทความด้วยนะ
23 ก.พ. 2563 เวลา 07.33 น.
P.Apinan ลูกหลานสกุลบุนนาคน้อมสำนึก
23 ก.พ. 2563 เวลา 07.01 น.
ดูทั้งหมด