ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องชื่อและอาการสำคัญของโรคติดต่ออันตราย (ฉบับที่ 7) พ.ศ.2563 ให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID)) เป็นโรคติดต่ออันตรายตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 เพื่อประโยชน์ในการเผ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคติดต่ออันตราย ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มีนาคม
สาระสำคัญคือการกำนดให้ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID))เป็นโรคติดต่อร้ายแรงอันดับที่ 14 ของไทย ด้วยการระบุอาการไว้อย่างชัดเจนว่าผู้ป่วยที่ติดเชื้อ มีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ หอบเหนื่อย หรือมีอาการของโรคปอดอักเสบ ในรายที่มีอาการรุนแรง จะมีอาการระบบทางเดินหายใจล้มเหลว และอาจถึงขั้นเสียชีวิต
การประกาศให้โรคไวรัสโควิด-19 หรือ โคโรนา เป็นโรคติดต่ออันตราย ลำดับที่ 14 ของไทยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มความสามารถในการควบคุม และทีมแพทย์จะได้ทำงานสะดวกมากขึ้น เพราะหากพบผู้ที่สงสัยว่าอาจติดเชื่อ สามารถสั่งตรวจได้ทันที ที่สำคัญคือกำหนดให้ผู้ที่เกี่ยวข้องต้องแจ้งกรมควบคุมโรคภายใน 3 ชั่วโมง ถ้าไม่แจ้งจะมีโทษปรับและโทษจำคุกได้
ทั้งนี้ฐานเศรษฐกิจตรวจสอบพบว่าตามพระราชบัญญัติ โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ในกรณีที่จงใจปิดบังข้อมูลประวัติการเดินทางจากประเทศเสี่ยง จาก “พระราชบัญญัติโรคติดต่อแห่งชาติ พ.ศ.2558” ซึ่งได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2558 มีผลใช้บังคับตั้งแต่ วันที่ 6 มีนาคม 2559 เป็นต้นไป
มาตรา 49 ระบุว่า ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
และมาตรา 52 ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ หรือผู้ว่าราชการจังหวัดหรือผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากนี้ยังมีบทลงโทษกับเจ้าของพาหนะหรือสถานประกอบการหากปกปิดข้อมูลไม่ทำตามคำสั่ง อาจโดนโทษจำคุก 2 ปี ปรับ 5 แสนบาทด้วย
โดยแหล่งข่าวจากกรมควบคุมโรค อธิบายว่า โทษจำคุกและปรับดังกล่าว หากผู้ป่วยจงใจปิดบังข้อมูลการเดินทางยังประเทศเสี่ยงไวรัสโคโรนา หรือไม่ยอมเข้ารับการรักษาตามคำแนะนำของแพทย์ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมายฉบับนี้จะมีโทษทางกฎหมาย ทั้งจำทั้งปรับ
สำหรับ 14 รายชื่อโรคติดต่ออันตรายร้ายแรงได้แก่ 1. กาฬโรค 2. ไข้ทรพิษ 3.ไข้เลือดออกไครเมียนคองโก 4.ไข้เวสต์ไนล์ 5. ไข้เหลือง 6. โรคไข้ลาสซา 7.โรคติดเชื้อไวรัสนิปาห์ 8.โรคติดเชื้อไวรัสมาร์บวร์ก 9.โรคติดเชื้อไวรัสอีโบลา 10.โรคติดเชื้อไวรัสเฮนดรา 11.โรคซาร์ส 12.โรคเมอร์ส 13.วัณโรคดื้อยาหลายขนานชนิดรุนแรงมาก 14. โคโรนาไวรัส 2019หรือโควิด-19
ช้าไปแล้วค่ะท่าน ปกปิดแล้ว ติดไปแล้ว จบข่าวเลยประเทศไทย
29 ก.พ. 2563 เวลา 07.10 น.
สธ.ขยับตัวช้ามาก...มันจะทันมั๊ยเนี่ย
29 ก.พ. 2563 เวลา 07.16 น.
peera th. คุณปู่คุณย่า คุณลูก....รู้ดี แต่...ปิดนี่ซิ มันน่า..เขก
29 ก.พ. 2563 เวลา 07.12 น.
TARNIYAR โทษแค่นี้ น้อยไปนะ
29 ก.พ. 2563 เวลา 07.08 น.
กัดตูดนะ ขอบอก สหรัฐเผยว่า จาก 195 ประเทศทั่วโลก
ประเทศที่จัดการ ไวรัสโควิด-19 ดีที่สุด
ประเทศไทยอยู่ในอันดับ 6
และเป็นอันดับ 1 ของเอเชีย
29 ก.พ. 2563 เวลา 07.13 น.
ดูทั้งหมด