​​​​​​​“น้ำหวาน” สวยเก่งสตรอง เจอบทหนักก็ไม่หวั่น

“น้ำหวาน” สวยเก่งสตรอง เจอบทหนักก็ไม่หวั่น

               ทั้งสวยทั้งสตรอง สำหรับนักแสดงสาวอย่าง“น้ำหวาน กรรณาภรณ์ พวงทอง” ที่ต้องมารับบท“เมธาวดี” ในละครเรื่อง “สางนางพราย” ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าเรื่องนี้ได้ทำอะไรใหม่ๆที่ไม่เคยทำมาก่อนเยอะมากๆ และแต่ละฉากไท่ใช่เรื่องง่ายๆเลย

อ่านข่าวต่อ

“น้ำหวาน” เผยถึงความสนุกของละคร “สางนางพราย” แฝงไปด้วยข้อคิดดีๆ

               เรื่องนี้ต้องถ่ายใต้น้ำค่อนข้างเยอะ ฉากใต้น้ำก็มีการเวิร์คช็อปใต้น้ำกันก่อน ซึ่งอย่างตอนแรกตัวเองก็คิดว่าอาจจะต้องใช้ Regulator แต่พอถึงเวลาจริงๆใช้ไม่ได้ ก็เลยถนัดหายใจเองมากกว่า แต่ด้วยความที่น้ำมันลึกมาก 4-5 เมตร พอหายใจเองลงไปสุดข้างล่างจริงๆอากาศหมด ทางทีมงานก็เลยเขยิบขึ้นมาให้ตื้นนิดนึง เพื่อที่เราจะได้ลงไปได้และก็หายใจ เพราะว่าคนอื่นเค้ายังพอทำปากพองเพื่อเก็บลมหายใจได้ ด้วยความที่เราเป็นผีก็ห้ามมีฟองอากาศและก็ห้ามปากพอง มันก็เลยจะมีความยากกว่า และต้องเบิ่งตาใต้น้ำตลอดเวลา บวกกับเล็บ และก็บวกกับผม และก็เอฟเฟ็ก และก็ชุดที่มันกุยกายอีก ซึ่งมันมีอุปสรรคเยอะกว่าคนอื่นในตรงนี้

               เรื่องนี้ได้ทำหลายอย่างมาก เพราะว่าไม่เคยได้ทำมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นขี่ม้า ดำน้ำ ฟันดาบ ได้เรียนรู้อะไรเยอะมาก แต่โชคดีที่พี่เอ๊ะ (อิศริยา สายสนั่น) มีการให้เวิร์คช็อปกันก่อน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของฟันดาบก็เรียนหน้าเซ็ตเลย และก็ต่อท่ากันเลยว่าจังหวะนี้ต้องอะไรยังไงบ้าง อย่างฉากฟันดาบก็ไม่มีผิดคิว แต่ก็มีนิดนึงคือโดน พี่กอล์ฟ เหยียบเท้าตอนซ้อม เป็นจังหวะมากกว่า ไม่ได้มีอะไรรุนแรง นอกนั้นก็แค่ถูไถลไปกับดินกับหินค่ะ และมันจะมีอยู่ช็อตนึงซึ่งถ่ายซีนแรกเลยวันนั้น ผู้กำกับบอกแล้วว่าจะมีเอฟเฟ็กตรงนี้นะ แต่เค้าบอกเป็นเล็กๆ ซึ่งตัวผู้กำกับก็ไม่คิดเหมือนกันว่าจะดังมากขนาดนั้น คือแบบดังมาก ดังจนเราหูอื้อ แต่โชคดีที่ว่าเรารู้อยู่แล้วเลยไม่ได้ทำให้เราตกใจกรี๊ดมาเพราะว่าเราก็ต้องเล่นต่อไป และเวลานั้นก็กดดันหลายอย่าง ด้วยความที่ละครมีคิวออนแอร์แล้ว และทุกอย่างก็ต้องใช้เวลาให้เร็วที่สุดและให้ผิดพลาดน้อยที่สุด ก็เลยต้องรับจำท่าและเราก็ไม่เคยฟันดาบมาก่อนซึ่งก็ถือว่าเป็นความยากเหมือนกัน บวกกับชุดด้วย อากาศ ความเร่งรีบ แต่ก็ผ่านมาได้ด้วยดี และก็การขี่ม้าก็มีการเวิร์คช็อปก่อนเหมือนกัน เพราะไม่เคยขี่ม้ามาก่อนเลยในชีวิต ก็ได้ไปเรียนมาก่อน 1 ชั่วโมง แล้วพอมาถึงวันจริงเราคุ้นเคยกับม้าตัวนั้นแล้ว เราก็ลองซ้อมขึ้นหลังเดินก่อน ตอนเข้าฉากก็ผ่านไปได้ด้วยดีไม่มีพลาดอะไร

                อย่างที่บอกว่าเรื่องนี้ได้ทำอะไรเยอะมากๆ อยู่วงการมานานแล้วเหมือนกันแต่ว่าไม่เคยขี่ม้าเลย และชีวิตจริงก็ไม่ได้ขี่ม้าด้วย และก็ไม่เคยฟันดาบ ถ่ายใต้น้ำเคยแค่แบบแว๊บนึง แต่ไม่ได้ขนาดนี้ที่ไปเวิร์คช็อปไปเรียนจริงจังขนาดนี้ ก็เลยรู้สึกว่าเป็นอะไรที่ดี ได้ประสบการณ์เยอะมาก และที่สำคัญคือกองนี้เซฟนักแสดงมาก อย่างสระที่ไปถ่ายก็โชคดีที่ว่าเป็นสระเกลือ ทำให้เราลืมนาในน้ำได้สบายมากและก็ไม่แสบตา แต่ว่าบางทีถ้าไปเจอเหมือนสระคลอรีนลืมตาไม่ได้แน่นอน และถ้าเป็นสระผสมมันก็จะลืมได้แค่แพล็บเดียวและก็แสบ เพราะเราถ่ายตั้งแต่เช้าจนถึง 5 โมงเย็น มันก็จะทำให้เราโอเค ไม่แสบตา เพราะเราต้องลืมตาและก็เบิ่งตาใต้น้ำตลอดเวลา ก็ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีสำหรับตัวเองมากๆ และก็โชคดีมากที่มาเจอกองทีมงานที่น่ารัก นักแสดงร่วมงานด้วยกันแล้วแฮปปี้ และก็ได้รับบทบาทที่ท้าทายความสามารถของตัวเอง ไม่เคยได้ทำอะไรอย่างนี้มาก่อนก็ถือเป็นความโชคดี

                และด้วยความที่ละคร “สางนางพราย” เป็นละครเกี่ยวกับผี แต่ก็ไม่เคยเจออาถรรพ์อะไรเลยค่ะ ถ้าสมมุติไปถ่ายในสถานที่ต่างๆอย่างตามวัดหรือใกล้ๆเจดีที่เก็บกระดูก เราก็จะมีการไหว้บอกกว่าก่อนว่าเราไม่ได้มาลบหลู่ ยังไงก็ฝากติดตาม “สางนางพราย” ด้วยนะคะ ตัวหวานเองและทีมงานตั้งใจและเหนื่อยกันสุดๆ ไม่อยากให้พลาดแม้แต่ตอนเดียวเลยค่ะ