สมพงษ์ อมรวิวัฒน์, บัญญัติ บรรทัดฐาน, สุชาติ ตันเจริญ
การเมืองหลังการเลือกตั้งเริ่มมีความชัดเจน เมื่อมีการกำหนดปฏิทินการเมือง วันที่จะได้ผู้ทำหน้าที่ประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ และช่วงเวลาที่จะเริ่มกระบวนการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี
วันศุกร์ที่ 24 พฤษภาคมนี้ เวลา 15.00 น. จะมีรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภา ณ ห้องประชุมวิเทศสโมสร กระทรวงการต่างประเทศ ถนนศรีอยุธยา เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นไปตาม มาตรา 121 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 ที่ว่า “ภายในสิบห้าวันนับแต่วันประกาศผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอันเป็นการเลือกตั้งทั่วไป ให้มีการเรียกประชุมรัฐสภาเพื่อให้สมาชิกได้มาประชุมเป็นครั้งแรก”
หลังจากนั้นจะมีการเลือกประธานสภาและนายกรัฐมนตรี เป็นลำดับถัดไป โดยกำหนดให้เลือก ประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎรในวันเสาร์ที่ 25 พฤษภาคม ณ หอประชุมใหญ่ อาคาร 9 ชั้น 2 บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ถนนแจ้งวัฒนะ
ชัย ชิดชอบ ทำหน้าที่ประธานชั่วคราวในฐานะ ส.ส.อาวุโสที่สุด ทั้งปี 2554 และในปี 2562
ในข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2551 กำหนดขั้นตอนการเลือกประธานสภาและรองประธานสภา ไว้ในหมวด 1
เริ่มจากให้เลขาธิการเชิญสมาชิกผู้มีอายุสูงสุดทำหน้าที่เป็นประธานชั่วคราวของที่ประชุม เพื่อดำเนินการ
จากนั้นจะเปิดให้สมาชิกเสนอชื่อผู้เป็นประธานสภา โดยมีผู้รับรองไม่น้อยกว่ายี่สิบคน
หากมีผู้ได้รับการเสนอชื่อมากกว่าหนึ่งคนขึ้นไป จะต้องมี การลงคะแนนเป็นการลับ โดยเขียนชื่อผู้ที่ ส.ส.ประสงค์ลงคะแนนให้บนแผ่นกระดาษแล้วนำใส่ซอง แล้วจะเรียกชื่อตามลำดับอักษรให้นำซองมาใส่ภาชนะที่ใช้ในการตรวจนับคะแนน
ส่วนการเลือกรองประธานสภา ให้ดำเนินการแบบเดียวกันโดยเลือกรองประธานสภาคนที่หนึ่งก่อน แล้วจึงเลือกรองประธานคนที่สองต่อไป
ดังนั้นกระบวนการทุกอย่างจะเป็นไปโดยลับไม่รู้ว่า ส.ส. คนใดลงคะแนนให้ผู้ได้รับการเสนอชื่อประธานสภาคนไหน ต่างจากการเลือกนายกรัฐมนตรี ที่ต้องกระทำโดยเปิดเผยด้วยการขานชื่อสมาชิกรัฐสภา ทั้ง ส.ส.และ ส.ว. ทั้งหมดทีละคน (ซึ่งคาดว่าจะอยู่ในช่วงไม่เกิน 1 สัปดาห์ หลังได้ประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยในปี 2554 ห่างกัน 3 วัน)
บรรยากาศการประชุมรัฐสภาในปี 2554
ย้อนกลับไปในการลงมติเลือกประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร หลังการเลือกตั้งในปี 2554 ในวันเปิดประชุมครั้งแรก นายพิทูร พุ่มหิรัญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้เชิญ นายชัย ชิดชอบ ซึ่งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรผู้มีอายุสูงสุดในที่ประชุมทําหน้าที่ประธานชั่วคราว และให้ที่ประชุมดําเนินการเลือกประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
โดยเริ่มจาก ประธานชั่วคราวได้กล่าวนําสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรปฏิญาณตนต่อที่ประชุมก่อนเข้ารับหน้าที่ ตามมาตรา 123 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ตามรัฐธรรมนูญ ฉบับปัจจุบัน คือ มาตรา 115) ด้วยถ้อยคําว่า
“ข้าพเจ้า (ชื่อผู้ปฏิญาณ) ขอปฏิญาณว่า ข้าพเจ้าจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน ทั้งจะรักษาไว้และปฏิบัติตามซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ”
สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์
จากนั้น ประธานชั่วคราวได้เสนอให้ที่ประชุมเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง พรรคชาติไทยพัฒนา ได้เสนอชื่อนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย วัย 57 ปี เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรเพียงชื่อเดียว โดยไม่มีสมาชิกเสนอชื่อคนอื่น (พรรคประชาธิปัตย์มีมติไม่เสนอชื่อบุคคลใดแข่ง) จึงไม่ต้องลงคะแนนลับ
วิสุทธิ์ ไชยณรุณ (ซ้าย) เจริญ จรรย์โกมล (ขวา) (ภาพ : สภาผู้แทนราษฎร)
ประธานชั่วคราวได้เสนอให้ที่ประชุมเลือกรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งที่ประชุมได้มีมติให้มีรองประธานสภาผู้แทนราษฎร จํานวน 2 คน
โดยที่ประชุมได้มีมติเลือก นายเจริญ จรรย์โกมล ส.ส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย วัย 51 ปี เป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง และนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.พะเยา พรรคเพื่อไทย วัย 53 ปี เป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สอง ตามลําดับ โดยไม่ต้องลงคะแนนลับเช่นกัน
สำหรับการประชุมเพื่อเลือกประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎรในปี 2562 นี้ ประธานชั่วคราวจะยังเป็น นายชัย ชิดชอบ ในวัย 91 ปีทำหน้าที่อีกครั้ง แต่ครั้งนี้จะต่างจากปี 2554 โดยจะต้องจัดให้มีการลงคะแนนลับอย่างแน่นอน เมื่อทั้ง 2 ขั้วการเมืองเตรียมจะชิงประมุขฝ่ายนิติบัญญัติให้ได้ เพื่อคุมเกมในสภา
ขั้วฝั่งเพื่อไทยและพรรคพันธมิตร มีบุคคลที่เคยผ่านการดำรงตำแหน่งประธานและรองประธานมาแล้วและได้รับการเลือกตั้งเป็น ส.ส.ในครั้งนี้ด้วย เช่น นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ, นายเจริญ จรรย์โกมล และนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.เพื่อไทย ที่เป็น 2 รองประธานในสมัยปี 2554
สมพงษ์ อมรวิวัฒน์
แต่มีรายงานว่าอาจจะเสนอชื่อ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เข้าชิงตำแหน่ง หรืออาจจะสนับสนุนนายบัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อแลกกับการให้เข้าร่วมกับฝ่ายต่อต้านการสืบทอดอำนาจ ส่วนกรณีนายวันมูหะมัดนอร์ อาจจะมีปัญหาเนื่องจากได้เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อเพราะสูตรการคำนวณของ กกต. ที่ทำให้ได้เป็น ส.ส.พร้อมพรรคเล็ก 11 พรรค ซึ่งพรรคอนาคตใหม่ ที่ร่วมขั้วเดียวกันได้ไปยื่นร้องเรื่องนี้อยู่
สุชาติ ตันเจริญ
ขั้วพลังประชารัฐ มีผู้เสนอตัวสำหรับตำแหน่งนี้คือ นายสุชาติ ตันเจริญ ส.ส.ฉะเชิงเทรา อดีต รองประธานสภาฯ และนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ขณะเดียวกันก็มีข่าวจะสนับสนุนนายบัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แลกกับเสียงสนับสนุนให้เป็นรัฐบาลเช่นกัน
กติกาที่กำหนดให้การลงคะแนนเป็นไปโดยลับน่าจะทำให้การโหวตเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรครั้งนี้เข้มข้นมากที่สุด เพราะ 2 ขั้วต่างก็มีเสียงสนับสนุนใกล้เคียงกันและอาจจะมีปรากฏการณ์ "งูเห่า" เกิดขึ้นตั้งแต่ขั้นตอนนี้เลยก็เป็นได้
ห้องว่าง พวกมึงอยากทำอะไรก็ทำไปเถอะเพราะพวกมึงคิดว่าเสียงของประชาชนไม่มีความหมาย.....
19 พ.ค. 2562 เวลา 11.14 น.
คนคอน ๕๕๕ ก่อนเลือกตั้ง ปชช.เหมือนเทวดา พอได้รับเลือกมันมอง ปชช.เหมือนหมา
19 พ.ค. 2562 เวลา 11.28 น.
Yut..🌍 เอะ อะ ก้อลับ งบประมานอะไรก็ทำลับๆ ซื้อ อะไรก็ซื้อลับ ที ใช้ แล้ว เอา เงินภาษีประชานชนไปใช้ คนที่รวย คือทพวกกก ท่าน ประชาชนก็เป็นเจ้าของประเทศเหมือนกัน
19 พ.ค. 2562 เวลา 11.48 น.
Rin ใครพวกมาก คนนั้นน่าจะได้
19 พ.ค. 2562 เวลา 11.25 น.
คนเดียว เอาเถอะครับ,,ประธานสภา,,ก็เทียบเท่า นายกแหละ...
19 พ.ค. 2562 เวลา 14.14 น.
ดูทั้งหมด