การขาดสารไอโอดีนไม่ใช่แค่ความเสี่ยงที่จะเป็นโรคคอพอกเท่านั้น แต่ยังมีความเสี่ยงอื่นๆ จากผลสำรวจของกระทรวงสาธารณสุข ในปี พ.ศ.2552 พบว่าเด็กไทยมี IQ ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานสากล เพราะขาดสารไอโอดีน ทำให้เกิดความพิการทางสติปัญญา เชาว์ปัญญาลดลง
เนื่องในวันไอโอดีนแห่งชาติ ซึ่งตรงกับวันที่ 25 มิถุนายน จึงเชิญชวนให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของการกินอาหารที่มีสารไอโอดีน ป้องกันการเจ็บป่วย
7 อาหารอุดมคุณประโยชน์ ช่วยลดอาการ "ปวดหัว" ได้
10 ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับอาหารต้านโรคมะเร็ง
สารไอโอดีน เป็นส่วนประกอบที่สำคัญของฮอร์โมน แต่ร่างกายไม่สามารถสะสมสารไอโอดีนไว้ได้ จึงจำเป็นต้องกินอาหารที่มีสารไอโอดีนในปริมาณที่เหมาะสมทุกวันคน ทุกเพศทุกวัย จำเป็นต้องได้รับสารไอโอดีนทุกวัน แต่หญิงมีครรภ์และหญิงให้นมบุตร จะต้องได้รับในปริมาณที่มากกว่าคนทั่วไปหรือคนวัยอื่น ๆ
5 สัญญาณ "อัมพฤกษ์ อัมพาต" รู้เร็วพบหมอไวรักษาได้ทันเวลา
“มันเทศ” อาหารไฟเบอร์สูง ช่วยลดอัตราเสี่ยง “โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่”
ในอดีตส่วนใหญ่ผู้ที่ขาดสารไอโอดีนมักอยู่ในท้องถิ่นทุรกันดารหรือในพื้นที่ที่ดินไม่มีเกลือไอโอดีน
เช่น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือหรือภาคเหนือ ซึ่งโรคดังกล่าวมีมานานมากแล้ว แต่พบจริงๆ เมื่อประมาณ 50-60 ปีที่แล้ว เบื้องต้นประชาชนจะเข้าใจว่าการขาดสารไอโอดีนทำให้เกิดคอพอก ซึ่งโรคคอพอกคือการที่ต่อมไทรอยด์โตเมื่อขาดสารไอโอดีน
โดยต่อมไทรอยด์ที่โตขึ้นจะถูกเรียกว่าคอพอก เพราะไอโอดีนเป็นฮอร์โมนที่สร้างจากต่อมไทรอยด์ หรือเรียกว่าไทรอยด์ฮอร์โมนมีไอโอดีนเป็นองค์ประกอบที่สำคัญนั่นเอง
ช่วงแรกๆ หลายคนจะเข้าใจว่าไอโอดีนทำให้เกิดคอพอก อีกทั้งยังขาดความเข้าใจที่สำคัญไปอีกประเด็นหนึ่ง นั่นคือการบกพร่องทางสติปัญญา แม้สถานการณ์ไอโอดีนจะดีขึ้น จากการสำรวจอาการคอพอกในเด็กนักเรียนที่ลดลงเหลือต่ำกว่าร้อยละ 5 แต่เมื่อสำรวจไอโอดีนในปัสสาวะ ปรากฏว่ายังต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานอยู่
+หากร่างกายได้รับปริมาณสารไอโอดีนที่ไม่เพียงพอ +
- อาจทำให้มีอาการอ่อนเพลีย
- เชื่องช้า
- เซื่องซึม
- หนาวง่าย
- คอพอก
สิ่งสำคัญที่จะได้รับผลกระทบต่อการขาดสารไอโอดีนมากที่สุด คือ
ทารกที่อยู่ในครรภ์มารดา เพราะฉะนั้นสตรีมีภรรค์จึงเป็นกลุ่มคนสำคัญที่จะต้องมีโภชนาการและไอโอดีนที่เพียงพอ และอีกวัยหนึ่งคือหญิงวัยเจริญพันธุ์ เพราะเป็นวัยที่พร้อมจะตั้งครรภ์และก่อนที่จะตั้งครรภ์ควรมั่นใจว่าได้รับโภชนาการและไอโอดีนที่เพียงพอแล้วจากการรับประทาน ดังนั้นจึงควรรณรงค์อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากประชาชนสามารถขาดสารไอโอดีนได้ตลอดเวลา ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เพียงพอ
การป้องกันการขาดสารไอโอดีน
- รับประทานอาหารที่มีไอโอดีนทุกวัน เช่นอาหารทะเล สาหร่ายทะเล หรือพืชริมทะเล
- ใช้เครื่องปรุงรสที่เสริมไอโอดีนในปริมาณที่เหมาะสมเป็นประจำ
- ก่อนซื้ออ่านฉลากที่มีเลขสารบบอาหาร ในกรอบเครื่องหมาย อย. และระบุคำว่า “เสริมไอโอดีน”
รู้แล้วบอกต่อ
คนเราต้องการสารไอโอดีน 100-300 ไมโครกรัมต่อวัน แม้ต้องการไม่มากแต่ก็ขาดไม่ได้
ขอบคุณข้อมูลสุขภาพจาก คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล , สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ( อย. )