ทั่วไป

เปิดสถานที่เสี่ยง!! พบการระบาดของ “โนโรไวรัส” หมอธิติ หวั่น!ช่วงเทศกาล

TOJO NEWS
อัพเดต 16 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 13 ชั่วโมงที่ผ่านมา • Admin Tojo

กรมอนามัย เผย โรงเรียน ภัตตาคาร โรงพยาบาล สถานที่เลี้ยงเด็ก รวมไปถึงรถ - เรือท่องเที่ยว เป็นสถานเสี่ยงในการพบการระบาดของ “โนโรไวรัส” หลังพบการระบาด

ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า นายแพทย์ธิติ แสวงธรรม รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยถึงกรณีเกิดการระบาดของโรคอุจจาระร่วงของนักเรียน และครูบุคลากร 2 โรงเรียน ในอำเภอแกลง จังหวัดระยอง พบผู้ป่วยรวม 1,436 ราย เป็นนักเรียน 1,418 ราย ครูและบุคลากร 18 ราย อันเกิดจากการติดเชื้อโนโรไวรัสที่ปนเปื้อนมากับ“น้ำและน้ำแข็ง” ที่บริโภคในช่วงสัปดาห์ของการจัดกิจกรรมกีฬาสี โดยโนโรไวรัส(Norovirus) มักจะแพร่ระบาดในกลุ่มเด็กที่มีภูมิต้านทานน้อยกว่าผู้ใหญ่

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว พบบ่อยตามโรงเรียน ภัตตาคาร โรงพยาบาล สถานที่เลี้ยงเด็ก รวมไปถึงรถหรือเรือท่องเที่ยว โนไวรัสเป็นโรคติดต่อจากคนสู่คน สามารถติดต่อได้ง่าย จากการสัมผัสทางอาหาร น้ำดื่ม อากาศ การสัมผัส และการหายใจ เช่น การสัมผัสผู้ป่วยที่ติดเชื้อโนโรไวรัสโดยตรง การสัมผัสสิ่งของที่มีเชื้อโนโรไวรัส รวมถึงสภาพแวดล้อมไม่ถูกหลักสุขาภิบาล

โดยโนโรไวรัสมีระยะฟักตัวสั้น 12-48 ชั่วโมงหลังการรับเชื้อ อาการที่พบส่วนใหญ่ผู้ป่วยมักมีอาการคลื่นไส้อาเจียนรุนแรง ปวดมวนท้อง ท้องเสีย มีไข้ต่ำ ๆ อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ และปวดเมื่อยตามร่างกาย อาการรุนแรงในเด็กเล็กและผู้สูงอายุ บางรายอาจทำให้มีอาการขาดน้ำ จึงควรดื่มน้ำเกลือแร่ เพื่อทดแทนการเสียน้ำและเกลือแร่

“ทั้งนี้ ประชาชนควรมีมาตรการในการป้องกันตนเองจากโรโนไวรัสตามคำแนะนำ ดังนี้ 1) รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ ใช้ช้อนกลาง 2) ล้างผักและผลไม้ให้สะอาด 3) ล้างมือด้วยน้ำสะอาดและสบู่ก่อนและหลังทำกิจกรรมในชีวิตประจำวัน และ 4) หลีกเลี่ยงดื่มน้ำที่ไม่สะอาด และหลีกเลี่ยงการสัมผัสน้ำที่ไม่สะอาด ส่วนหน่วยงานและสถานประกอบกิจการควรมีมาตรการควบคุมป้องกัน ดังนี้

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

1) การเติมคลอรีนในถังพักน้ำดื่มและน้ำใช้

2) การตรวจประเมินคุณภาพน้ำใช้ น้ำดื่มอย่างต่อเนื่อง

3) จัดให้มีจุดล้างมือพร้อมสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ที่เพียงพอ

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

และ 4) การให้ความรู้ในการดูแลสุขภาพและส่งเสริมพฤติกรรมอนามัยส่วนบุคคลที่ดีสำหรับการป้องกันโรค สำหรับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในฐานะเจ้าพนักงานตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม สามารถตรวจแนะนำและออกคำสั่งให้ผู้ประกอบกิจการปรับปรุงแก้ไขด้านสุขลักษณะของสถานประกอบกิจการการสุขาภิบาลและสุขวิทยาส่วนบุคคลของคนงาน” รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าว

#เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS

ดูข่าวต้นฉบับ