ทั่วไป

ฝรั่งเศสเหนือชั้นกว่า เอาชนะโครเอเชีย 4-2 คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกสมัยที่ 2 ในรอบ 20 ปีได้สำเร็จ!

THE STANDARD
อัพเดต 16 ก.ค. 2561 เวลา 01.12 น. • เผยแพร่ 15 ก.ค. 2561 เวลา 17.30 น. • thestandard.co
ฝรั่งเศสเหนือชั้นกว่า เอาชนะโครเอเชีย 4-2 คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกสมัยที่ 2 ในรอบ 20 ปีได้สำเร็จ!

 

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

 

ศึกการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 รอบชิงชนะเลิศที่สนามลุจนีกี สเตเดียม ทีมชาติฝรั่งเศสพบโครเอเชีย เกมนี้ผู้เล่นตัวหลักของทั้งสองทีมพร้อมเต็มสูบ 100% มาในแผนการเล่น 4-2-3-1 ฝั่งเลส์ เบลอส์ มี อูโก โยริส ลงประจำการในตำแหน่งผู้รักษาประตู ร่วมกับ เบนจามิน ปาวาร์, ราฟาแอล วาราน, ซามูเอล อุมติตี้ และลูคัส เอร์นานเดซ แดนกลางใช้ เอ็นโกโล ก็องเต, พอล ป็อกบา พร้อมขยับ แบลส มาตุยดี ขึ้นมาเล่นกราบซ้าย ฝั่งขวามี คีเลียน เอ็มบัปเป้ กองกลางตัวรุกใช้ อองตวน กรีซมันน์ เล่นร่วมกับศูนย์หน้า โอลิวิเยร์ ชิรูด์

 

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

 

ฝั่งโครเอเชียใช้ ดานิเยล ซูบาซิช ลงเล่นเป็นผู้รักษาประตู แผงหลัง 4 คนใช้ ซิเม เวอร์ซัลจ์โก, เดยัน ลอฟเรน, โดมาโกจ์ วิด้า และอีวาน สตรินิช ลงประสานงานร่วมกัน กองกลาง 3 คนใช้ อีวาน ราคิติช, มาร์เซโล โบรโซวิช และคีย์แมนคนสำคัญ ลูกา โมดริช ในตำแหน่งปีกซ้าย และปีกขวามี อีวาน เปริซิช และอันเต้ เรบิช โดยศูนย์หน้าตัวเป้าทิ้ง มาริโอ มานด์ซูคิช ยืนค้ำในแดนหน้า

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

 

 

เริ่มเกมได้ 7 นาที โครเอเชียได้ลูกเตะมุมก่อน แต่ฝรั่งเศสยังช่วยกันเคลียร์ออกมาได้ ก่อนที่อีก 11 นาทีต่อมาทัพตราไก่จะได้ประตูขึ้นนำไปก่อนอย่างรวดเร็ว กรีซมันน์เปิดฟรีคิกเข้ามาในกรอบเขตโทษ และเป็นมานด์ซูคิชที่โหม่งเข้าประตูตัวเองไป หลังโดนขึ้นนำโครเอเชียก็พยายามเดินเกมรุกอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่ความพยายามของพวกเขาจะมาประสบความสำเร็จในนาทีที่ 28 เปริซิชดึงบอลหลบผู้เล่นฝรั่งเศส 1 จังหวะ ก่อนซัดเข้าไปอย่างแม่นยำ ฝรั่งเศสเสมอโครเอเชีย 1-1

 

 

นาทีที่ 39 โครเอเชียมาพลาดเสียลูกจุดโทษง่ายๆ เมื่อเปริซิชดันไปใช้มือปัดบอลในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินเรียกใช้เทคโนโลยี VAR ก่อนให้จุดโทษกับฝรั่งเศส และเป็นกรีซมันน์ที่สังหารเข้าไปอย่างเลือดเย็นให้ทีมขึ้นนำอีกครั้ง และเป็นประตูที่ 4 ของดาวยิงจากสโมสรแอตเลติโก มาดริด ในทัวร์นาเมนต์นี้แล้ว จบครึ่งแรก เลส์ เบลอส์ นำ 2-1

 

 

เริ่มเกมครึ่งหลังในนาทีที่ 51 เอ็มบัปเป้ติดสปีดขึ้นมาทางด้านขวาของสนาม ก่อนแซงผู้เล่นโครเอเชียและได้ลองยิงเหน่งๆ แต่ซูบาซิชยังเซฟเอาไว้ได้ ก่อนที่ 8 นาทีต่อมาป็อกบาจะได้ลองซัดด้วยซ้ายหน้ากรอบเขตโทษให้ฝรั่งเศสขึ้นนำโครเอเชียอีกครั้งเป็น 3-1 และเป็นประตูแรกในฟุตบอลโลกครั้งนี้ของเจ้าตัว 

 

 

หลังนำห่าง 2 ประตู ฝรั่งเศสยังคงเป็นฝ่ายคุมเกมได้อย่างต่อเนื่อง และเป็นโกลเดนบอยเอ็มบัปเป้ที่ยิงให้ทัพเลส์ เบลอส์ นำห่างอีกครั้งเป็น 4-1 ในนาทีที่ 65 และเป็นประตูที่ 4 ของศูนย์หน้าจากปารีส แซงต์ แชร์กแมง ในฟุตบอลโลกครั้งนี้ นำเป็นดาวซัลโวร่วมของทีมคู่กับกรีซมันน์ อย่างไรก็ดี 4 นาทีต่อมาโยริสเล่นติดประมาทจนพลาดเคลียร์บอลไปโดนเท้ามานด์ซูคิชเข้าประตูให้โครเอเชียไล่ตีตื้นขึ้นมาติดๆ ที่ 2-4

 

 

ช่วงเวลาที่เหลือทำอะไรกันไม่ได้ ฝรั่งเศสเอาชนะโครเอเชียได้ 4-2 พร้อมคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกสมัยที่ 2 ได้สำเร็จในรอบ 20 ปี ขณะที่ ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ ยังเป็นโค้ชคนที่ 3 ในประวัติศาสตร์ลูกหนังที่คว้าถ้วยฟุตบอลโลกได้สำเร็จทั้งในฐานะผู้เล่นและโค้ชต่อจาก มาริโอ ซากัลโล (บราซิล) และฟรานซ์ เบคเคนบาวเออร์ (เยอรมนี)

 

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 3
  • Imung
    ใครรู้สึกเหมือนผมมะ บอลสมัยนี้ มันดูไม่ค่อยสนุกเหมือนยุคก่อน ขาดความคลาสสสิก
    16 ก.ค. 2561 เวลา 02.40 น.
  • punsang
    ขอแสดงความยินดีกับแชมป์ฝรั่งเศส และ ขอให้กำลังใจทีมโครเอเชีย คุณทำดีที่สุดแล้ว มาไกลเกินฝัน บอลโลกคราวหน้า สู้กันใหม่ครับ
    16 ก.ค. 2561 เวลา 04.50 น.
  • 💚 PumPuy 789 💜
    0874337766 ค่ะ
    15 ก.ค. 2561 เวลา 18.47 น.
ดูทั้งหมด