ทั่วไป

‘ปิยะสกล’ เผยปิด ร.ร.อยู่ที่ดุลพินิจ บางกรณีไม่ใช่จากค่าฝุ่น มาจากไข้หวัดใหญ่อย่าปนกัน

MATICHON ONLINE
อัพเดต 23 ม.ค. 2562 เวลา 07.23 น. • เผยแพร่ 23 ม.ค. 2562 เวลา 07.23 น.

สธ.แจงผลกระทบฝุ่นไม่เกิดเฉียบพลันจนทำให้เด็กป่วยหลายคนถึงขั้นปิดโรงเรียน มีหลายปัจจัย  ด้าน ‘ปิยะสกล’เผยปิด ร.ร.อยู่ที่ดุลพินิจ พิจารณาความเข้มข้นปริมาณฝุ่น สถานการณ์แต่ละวัน

เมื่อวันที่ 23 มกราคม  นพ.ปิยะสกล   สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวถึงกรณีโรงเรียนรุ่งอรุณประกาศหยุดเรียน วันที่ 23-25 มกราคม  2562 เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5  ขณะที่โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายประถม เขตปทุมวัน ประกาศหยุดเรียนวันที่ 23-25  มกราคม  2562  เพราะมีการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ ว่า การปิดเรียนอยู่ที่การพิจารณาและการประเมินสถานการณ์ของแต่ละโรงเรียน ไม่ใช่ว่าให้ สธ. หรือกรุงเทพมหานคร (กทม.) เข้าไปดำเนินการสั่งปิดทั้งหมด เพราะต้องเข้าใจว่า สถานการณ์ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จะขึ้นลงในแต่ละวันไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น หากมีลมที่คาดว่าค่าฝุ่นจะสูงก็ไม่ได้สูงอย่างที่คาดไว้ และไม่ได้ค่าฝุ่นสูงทุกพื้นที่ ดังนั้น หากเกิดคำสั่งให้ปิดโรงเรียนทั้งหมดก็จะเกิดผลเสียหรือผลกระทบโดยรวมขึ้นได้ เพราะแต่ละพื้นที่ค่าฝุ่นไม่เท่ากัน

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า อย่างกรณี ร.ร.รุ่งอรุณ มีการประชุมหารือกันแล้วว่า ได้รับผลกระทบจากค่าฝุ่นละออง PM2.5 สูง อยู่ในพื้นที่เสี่ยง ก็สามารถออกประกาศสั่งปิดเรียนตามความเหมาะสมได้ ซึ่งตนเชื่อว่าแต่ละโรงเรียนสามารถประเมินสถานการณ์และพิจารณาด้วยตนเองได้ ซึ่งหากเป็นเด็กเล็กก็ไม่ได้มีผลกระทบมาก เนื่องจากการหยุดเรียนไม่ได้มีผลต่อการสอบ ส่วนกรณี ร.ร.สาธิตจุฬาฯ ปิดเรียนนั้น มาจากเรื่องของไข้หวัดใหญ่ ถือเป็นคนละเรื่องกันกับฝุ่นละออง ไม่ควรเอาการเฉียบพลันจากการเป็นหวัดมารวมกับการปิดเรียนจากเรื่องฝุ่น ซึ่งเรื่องฝุ่นนั้นมองว่า จะมีผลกระทบในระยะยาวหรือในอนาคตมากกว่าเกิดอาการเฉียบพลัน

เมื่อถามว่าการปิดเรียนจากปัญหาฝุ่น ควรนำภาวะการเจ็บป่วยของเด็กมาร่วมด้วยหรือไม่  พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ต้องชี้แจงว่า ผลกระทบจากฝุ่น PM2.5 ไม่ได้เกิดขึ้นแบบเฉียบพลัน จะเอาลักษณะการป่วยแบบภาวะเฉียบพลันมาพิจารณากำหนดว่า จะต้องปิดเรียนหรือไม่นั้นทำได้ยาก ดังนั้น จึงต้องนำค่าความเข้มข้นของฝุ่นเป็นเกณฑ์ในการพิจารณา ว่า หากค่าฝุ่นระดับนี้โรงเรียนแต่ละแห่งควรมีมาตรการอย่างไร เช่น ลดกิจกรรมนอกอาคาร หรือหากค่าฝุ่นเกิน 90 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม) ต่อเนื่องหลายวัน และมีแนวโน้มสูงต่อเนื่อง ก็อาจพิจารณาปิดเรียนได้ แต่ต้องทำความเข้าใจกับผู้ปกครอง ซึ่งหากผู้ปกครองคิดว่ามีผลกระทบก็อาจตัดสินใจให้เด็กหยุดเรียนได้

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า หากเป็นการเจ็บป่วยจากโรคติดต่อจะมีมาตรการกำหนดอยู่แล้ว เช่น หากเด็กเจ็บป่วยก็ให้หยุดเรียน แต่หากเจ็บป่วยมากกว่า 1 คน อาจมีมาตรการทำความสะอาดโรงเรียนเพิ่ม หรือหากป่วยเป็นจำนวนมากภายในห้องก็อาจปิดชั้นเรียนนั้น รวมถึงหากมีการป่วยจำนวนมากข้ามชั้นเรียนจำนวนมากจึงสั่งปิดเรียนทั้งหมด  ซึ่งของโรงเรียนสาธิตจุฬาฯ มาจากการเจ็บป่วยของโรคไข้หวัดใหญ่ ซึ่งหากปิดเรียนจากการเจ็บป่วยก็จะมีการแจ้งมายัง กทม. กรมควบคุมโรค หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ส่วนปัญหาฝุ่นละอองนั้นเป็นเรื่องของสิ่งแวดล้อมอยู่ที่ดุลพินิจของแต่ละโรงเรียน

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

 

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 8
  • TuckJ
    อ้อมิน่าละ มันไม่อยู่ในดุลพินิจของพวกนายทุน คนมีอำนาจที่จะแคร์ต่อความเป็นอยู่และพัฒนาการของเด็กที่แค่จะไปเป็นคนงานคนใช้ของมันอยู่แล้วนี่
    23 ม.ค. 2562 เวลา 08.07 น.
  • Palat 19528
    กุว่ามึงไปทำงานดีกว่า ไม่ใช่มานั่งใส่สูทแล้วพูดอย่างเดียว
    23 ม.ค. 2562 เวลา 08.14 น.
  • stc
    ตัดสินใจไม่ใด้ ลาออกไป เปลืองเงิน ๓าษีประชาชน
    23 ม.ค. 2562 เวลา 08.47 น.
  • what's up b
    เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก ต้องรอให้มีคนตายก่อน รัฐถึงจะเริ่มทำอะไรจริงจังกว่านี้ มาตรการที่ออกมาอ่อนมาก คิดได้แค่นี้ลาออกไปเถอะ เปลืองภาษี
    23 ม.ค. 2562 เวลา 08.50 น.
  • Pond Jaem So Pon
    ต้องให้มีคนตายก่อนถึงจะปิดกัน เมืองนอกเขาปิดให้เหตุการณ์ดีขึ้น เขาถึงจะเปิดใหม่ตามปกติ
    23 ม.ค. 2562 เวลา 08.17 น.
ดูทั้งหมด