"คนรวย ๆ ทำไมเขาไม่บริจาคเงินช่วยคนอื่นบ้าง? "
เราเชื่อว่าคำถามนี้ต้องเคยผุดขึ้นในใจใครหลายคนเมื่อพูดถึงมหาเศรษฐีระดับโลก อย่างล่าสุดที่เจฟฟ์ เบโซส (Jeff Bezos) ซีอีโอและผู้ก่อตั้งแอมะซอน (Amazon) เพิ่งได้รับการจัดอันดับจากBloomberg Billionares Index ให้เป็น "อภิมหาเศรษฐี" อันดับ 1 ของโลก โดยมีทรัพย์สินกว่า 2 แสนล้านดอลลาร์ หรือกว่า 6.2 ล้านล้านบาท! (62,000,000,000,000 บาท เราพยายามเขียนศูนย์ให้เท่ากับจำนวนเงิน ซึ่งพอนำมาเทียบกับเงินในบัญชีตัวเองก็ได้แต่ทำตาละห้อย)
อันดับรอง ๆ ลงมาได้แก่ บิลล์ เกตต์(Bill Gates) มาร์ก ซักเกอร์เบิร์ก(Mark Zuckerberg) และอีลอน มัสก์(Elon Musk) ที่เพิ่งสปีดแซงเจ้าของแบรนด์ หลุยส์วิตตอง (Louise Vuitton)* ขึ้นมาได้อันดับ 4 ในปีนี้
รวยขนาดนี้ ทำอะไรให้โลกได้บ้าง?
- โลกนี้มี"อภิมหาเศรษฐี" (ขอจำกัดความว่าคือบุคคลที่มีสินทรัพย์เป็นจำนวนพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขึ้นไป) กว่า 2,000 คน ซึ่งจำนวนของเศรษฐีเหล่านี้ก็มีแต่จะเพิ่มขึ้นทุกปี
- ผลการศึกษาจาก Oxfam (องค์กรต้านความเหลื่อมล้ำ) บอกว่าทรัพย์สินรวมของอภิมหาเศรษฐีจำนวนสองพันกว่าคนดังกล่าว อาจเทียบได้กับจำนวนทรัพย์สินของคนธรรมดากว่า 4.6 พันล้านคน
- มีการเปรียบเทียบอย่างตลก ๆ ว่าต่อให้คนคนหนึ่งเก็บเงินวันละ 10,000 ดอลลาร์ตั้งแต่ยุคอียิปต์ยังสร้างพีระมิดอยู่ ก็ยังรวยไม่เท่ามหาเศรษฐี 5 อันดับของโลกเลย (ท้อแล้ว!)
- ผลการศึกษาจากที่เดียวกันนี้ยังบอกว่าความมั่งคั่งขนาดนี้ เมื่อนำจำนวนเงินทั้งหมดมารวมกันแล้ว อาจแก้ปัญหาปากท้องทั่วโลกได้กว่า 7 ครั้ง!
"แจกเงิน" ไปเลยไม่ได้เหรอ?
นิตยสารวอลล์สตรีท (Wall Street Journal) เคยแจกแจงทรัพย์สินของเจฟฟ์อย่างคร่าว ๆ ไว้เมื่อปี 2018 ว่าทรัพย์สินของเขากว่า 95 เปอร์เซ็นต์คือหุ้นในบริษัท ที่เหลือคืออสังหาริมทรัพย์ และรถยนต์ หมายความว่าเงินในธนาคารของเจฟฟ์อาจมีแค่หลักหลายล้านเหรียญ ไม่ใช่พัน ๆ ล้านอย่างที่เราเข้าใจ ซึ่งด้วยตัวเงินเท่านั้น ไม่มากพอให้เปลี่ยนโลกได้เลย
สถิติเมื่อปี 2018 บอกเราว่าประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกใช้เงินกว่า 165 พันล้านดอลลาร์เป็นงบในการพัฒนาเศรษฐกิจและเยียวยาปัญหาความยากจน แต่ก็อย่างที่เรารู้กัน ในปี 2020 ความยากจนก็ยังไม่ได้หายไปไหน
ซึ่งองค์กรวิจัยทางด้านการเกษตรระดับนานาชาติ International Food Policy Institute ก็ได้อธิบายหนทางสู่โลกที่ไร้ "ความจน" ด้วยการบอกค่าใช้จ่าย ซึ่งเราสรุปมาย่อ ๆ ได้ว่าโลกที่ไร้คนหิวโหยหรือคนจน ต้องใช้เงินกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ในการลงทุน ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายในการจัดการกับปัญหาโลกร้อนซึ่งจะมีผลมากต่อปริมาณอาหารในอนาคต
แล้วต้องทำยังไง?
การแก้ปัญหาความจนไม่ใช่แค่การ "แจกเงิน" แต่คือการแก้ปัญหาโครงสร้างไปทีละอย่าง เพื่อผลลัพธ์สุดท้ายคือให้ความจนหมดโลกไปซะ
ปัญหาความอดอยากที่โลกกำลังเผชิญ (World Hunger) เกิดจากการที่คนกว่า 800 ร้อยล้านคนทั่วโลกต้องอดทนกับความหิวโหยในทุกปี แม้ในแต่ละปี ทั่วโลกจะมีทรัพยากรมากพอให้คนกว่า 10,000 ล้านคนได้อิ่มท้อง
นั่นเป็นเพราะสาเหตุที่ผู้คนหิวโหยและยากจน เกิดจาก "ความเหลื่อมล้ำ" มากกว่าความขาดแคลน หมายความว่ามนุษย์เป็นล้าน ๆ คนไม่มีอาชีพที่ทำเงินได้เพียงพอที่จะซื้ออาหารเลี้ยงปากท้องและครอบครัว
ทุกคนคงเคยได้ยินปรัชญาจีนของเหลาจื่อ (Lao Tzu) ที่กล่าวว่า "ให้ปลาเขาหนึ่งตัว อิ่มท้องวันหนึ่ง สอนเขาตกปลา อิ่มท้องตลอดไป" ซึ่งหากนำมาเปรียบเทียบกับระบบทุนนิยมในปัจจุบัน ก็อาจแปลได้ว่า "ให้อาหารเขาจานหนึ่ง อิ่มวันเดียว แต่หากแก้ปัญหาที่ทำให้เขาต้องอดอยากได้ เท่ากับคุณให้โอกาสเขาในการเลี้ยงตัวเองไปตลอดชีวิต"
แล้วต้องทำยังไง!
ในเมื่อความเหลื่อมล้ำมันเป็นปัญหานัก! Oxfam เคยเสนอให้นักการเมืองทั่วโลกออกนโยบายเก็บภาษีมหาเศรษฐีเพิ่มขึ้น เพื่อนำเงินก้อนนี้มาสร้างอาชีพในหมวดการศึกษาและสุขภาพ ได้ถึง 100 ล้านตำแหน่ง ข้อเสนอนี้ดูจะมีความเป็นไปได้มากที่สุดในการลดช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจน
เพราะหากทำได้ โลกเราอาจมีมหาเศรษฐีน้อยลง และมี "คนที่พอตั้งตัวได้" เพิ่มขึ้น
-
อ้างอิง
Win Agree 👍
29 ก.ย 2565 เวลา 03.55 น.
Boy ไม่ใช่แจกเงินแบบไอ้เหลี่ยม แต่ควรให้คนทุกคนมีงานทำ หางานที่เหมาะสมกับทักษะและประสบการณ์แก่ประชากรแต่ละคนตามที่ในหลวงท่านเคยตรัสไว้ แล้วประเทศนั้นๆจะเจริญขึ้นอย่างแน่นอน
28 ก.ย 2565 เวลา 05.50 น.
SuTLee เออ แนวคิดของคนขี้เกียจทำมาหากินคิดอยากได้เงินแบบสบายๆ ให้คนรวยเอามาแบ่ง งี้ก็ได้รึ ใช้ไม่เป็นต่อทุนไม่ได้ก็หมดแบมือขอใหม่รึ
16 ก.ย 2565 เวลา 03.04 น.
ยิ่งยง คนจนไม่เคยขอเงินหลอก มีศักศรีเหมือนกัน คนรวยต้องดูว่ามันรวยมาจากไหน ที่โลกร้อนอยู่ทุกวันนี้เพราะคนรวย ที่ไม่รู้จักพอ ทำทุกอย่างให้ตัวเองร่ำรวย จนดวงดาวตัวเองถูกทำลายไปเท่าไหร่แล้ว เมื่อไหร่กรรมจะตอบพวกมันอย่างสาสมสักที เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีด้วย คนรวย
03 ก.ย 2565 เวลา 03.33 น.
€¥£ คนพูด คือคนขี้เกียจ ขี้อิจฉา
ถ้าแจก ต้องแจกเท่าไหร่ถึงจะพอ
จน แต่ขี้เกียจ ต้องแจกอีกนานมั้ย
อย่ารอคนมาช่วย ช่วยเหลือตัวเองก่อน คนไม่เท่ากันหรอก เพราะทำมาหากิน การศึกษา ความขยัน ไม่เท่ากัน จะอาเท่าเทียมรอชาติหน้า
03 ก.ย 2565 เวลา 03.30 น.
ดูทั้งหมด