วันที่ 18 ต.ค. เวลา 21.30 น. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ อภิปราย ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2563 เรื่องทรัพยากรน้ำและการบริหารจัดการ
.
ประเทศไทยไม่ได้ขาดน้ำ แต่มีปัญหาประสิทธิภาพในการจัดการ ทำให้มีพื้นที่ชลประทานน้อยและแล้งซ้ำซาก
แผนบูรณาการน้ำงบประมาณเกือบ 6 หมื่นล้าน และมีงบจัดการน้ำในภาวะวิกฤติ เกือบ 1 แสนล้านบาท ซึ่งรวมทั้งงบกลาง 3 พันล้านบาท ในส่วนงบทดรองราชการ และสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉิน.
แต่วิเคราะห์แล้วเห็นว่างบกว่าแสนล้านบาท ไม่ตอบสนองความต้องการของประชาชน ถ้าบริหารแบบนี้ต้องใช้เวลากว่า 100 ปีคนไทยจึงจะบริหารจัดการน้ำได้เพียงพอต่อความต้องการ
.
เพราะความต้องการใช้น้ำต่อปี 151,750 ล้าน ลบ.ม. รัฐจัดการได้ 102,140 ล้าน ลบ.ม. มีส่วนที่ขาด 49,610 ล้าน ลบ.ม. แต่ตามแผนปี 2563 จะได้น้ำเพิ่มจากเดิมเพียง 348 ล้าน ลบ.ม.
ต้องใช้เวลาอีก 142 ปี ซึ่งคงไม่มีโอกาสได้เห็นวันนั้นเพราะอยู่ไม่ถึง วันที่คนไทยใช้น้ำได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม
ปัญหาเกิดจากงบประมาณสะท้อนความเป็นราชการรวมศูนย์ขาดการกระจายอำนาจ แม้งบลงทุนจะเป็นเรื่องดีแต่งบไปกระจุกที่กระทรวง ขณะที่ลุ่มน้ำ,จังหวัด และท้องถิ่น ได้รับการจัดสรรงบประมาณน้อยกว่ามาก ส่วนงบในภาวะวิกฤต เน้นการเยียวยามากกว่าเตรียมพร้อม งบต้องเน้นไปที่ก่อนภาวะฉุกเฉินมากขึ้น มีการจัดสรรงบให้ท้องถิ่นที่ไม่ใช่แค่การแก้ปัญหาเท่านั้น
.
ทางออกของวิกฤติเรื่องน้ำในประเทศไทย ยังอยู่ที่ความหลากหลายทางนโยบายบริหารจัดการน้ำ เสื้อตัวเดียวตัดให้ทุกจังหวัดใส่ไม่ได้ ยาพาราเซตามอลเม็ดเดียวแก้ทุกโรคไม่ได้
.
"ถ้าเรามีเทคโนโลยีกับท้องถิ่น 2 ท. ไปเสริมกับทรัพยากร ไม่มีปัญหาไหนในประเทศไทยที่จะแก้ไม่ได้ จะเปลี่ยนแปลงประเทศไทยไปในทิศทางที่ไม่มีใครจะมาหยุดเราได้ และจะทำให้ได้อีก 2 ท. คือ เท่าเทียมและเท่าทัน ทรัพยากร-ท้องถิ่น-เทคโนโลยี จะทำให้คนไทยเท่าเทียมกันและเท่าทันโลก"
ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ กบช. ชี้แจงถึงการบริหารจัดการน้ำว่า มีการบูรณาการหลายหน่วยงาน และทำงานในรูปแบบคณะกรรมการเพื่อบริหารจัดการน้ำทั้งประเทศ ซึ่งการแก้ไขปัญหาจะมองด้านใดด้านหนึ่งว่าอุทกภัยหรือภัยแล้งอย่างเดียวไม่ได้ แม้จะมีปริมาณน้ำฝนเพียงพอ แต่ปัญหาคือการบริหารจัดการกักเก็บน้ำอย่างไรไม่ให้น้ำท่วม และมีน้ำใช้อย่างเพียงพอ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รัฐบาลมีแนวทางการบริหารจัดการน้ำว่า ต้องไม่ขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค และน้ำเพื่อเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม ซึ่งในกรณีจำเป็นเร่งด่วนก็ต้องใช้งบกลางแก้ไขทั้งสิ้น แต่สมาชิกหลายคนกลับพยายามอภิปรายเสนอตัดงบกลาง แต่ปัญหาคือไม่มีทางแก้ไขได้ 100% เนื่องจากยังมีปัญหาเกี่ยวกับพื้นที่ของประชาชน ทั้งการพัฒนาระบบชลประทานการจัดทำบ่อกักเก็บน้ำ รวมถึงการระบายน้ำออกทางฝั่งตะวันออกและตะวันตก เนื่องจากมีอุปสรรคเกี่ยวกับพื้นที่ของประชาชน ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องคำนึงถึงด้วยเช่นกัน รวมถึงการแก้ไขปัญหาไม่สามารถทำได้ทีเดียวทั้งหมดเพราะงบประมาณไม่เพียงพอ
นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ทอดทิ้งเกษตรกร พยายามแก้ไขปัญหาแต่ต้องคำนึงถึงขั้นตอนที่ซับซ้อนด้วย จะเอาแต่หลักวิชาการอย่างเดียวมาแก้ปัญหาคงไม่ได้ ต้องเอาพฤติกรรมและความเป็นคนไทยมาพิจารณา เพื่อแก้ปัญหาแบบบูรณาการ รวมถึงขอให้ ส.ส.ไปพูดคุยกับประชาชนและหาข้อมูลเพิ่มเติมด้วย หากสามารถดำเนินการได รัฐบาลก็มีงบประมาณแก้ปัญหาให้ ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ทิ้งใครไว้ และมีเป้าหมายว่าจะทำอย่างไรให้มีพื้นที่ชลประทานมากขึ้นและน้ำจะไม่ท่วม
เอ๋ ไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม
ได้ยินมาตั้งแต่เด็ก
แต่ระบบชลประทาน
สู้ประเทศที่เป็นทะเลทรายไม่ได้
หน้าแล้งบอกให้เกษตรกร
อย่าปลูกพืชที่ใช้น้ำมาก
หน้าฝน บอกให้เก็บเกี่ยวผลผลิตเร็วขึ้น
ไม่ก็เว้นปีนี้อย่าปลูกพืชที่ไม่ทนน้ำ
ทุกยุคเหมือนกันหมด
18 ต.ค. 2562 เวลา 17.09 น.
หลักเศรษฐกิจพอเพียง
นี้ล่ะ คาถาแก้จน
คนจบการศึกษาจากต่างประเทศ
กับ
ปราชญ์ชาวบ้าน
แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
18 ต.ค. 2562 เวลา 18.36 น.
PONGSAK ปัญหาใครๆก็พูดได้
การแก้ที่ทำได้จริงมี
ข้อแนะนำกันบ้างไหม
19 ต.ค. 2562 เวลา 01.17 น.
Probird ถึงให้พรรคคุณมาแก้ก็แก้ไม่ได้ เพราะพรรคคุณจะแก้แต่รัฐธรรมมูญ
18 ต.ค. 2562 เวลา 18.09 น.
เรื่องในบ้านยังแก้ไม่ได้ เรื่องของคนทั้งชาติอย่ามาเก่ง
18 ต.ค. 2562 เวลา 18.20 น.
ดูทั้งหมด