เรียกได้ว่าเป็นข่าวดีไม่น้อย สำหรับผู้ใช้งานที่ปัญหาต่างๆ ของสายเชื่อมต่ออย่าง USB จะหมดไป เพราะหากคุณใช้หลายอุปกรณ์เข้า จำเป็นต้องพกพาสาย USB หลายสาย ทำให้มีความยุ่งยาก เช่น สาย Lightning, MicroUSB 2.0 หรือ Type-C ก็ 3 สายเข้าไปแล้ว ซึ่งลำบากไม่น้อย หากซื้อแบบสาย 3IN1 ก็มีราคาแพงอยู่ดี ถ้าพังแล้วก็พังทั้งหมด จึงสิ้นเปลืองไม่น้อย ดังนั้นสหภาพยุโรปจึงเพ็งเล็งออกข้อบังคับให้ใช้แค่เพียงสาย USB ประเภท Type-C อย่างเดียว รวมถึงสายประเภท Lightning ของอุปกรณ์ Apple ต่างๆ ก็ต้องเลิกใช้
สำหรับ USB Type-C คืออะไร ขอสรุปให้เข้าใจง่ายๆ โดยจุดประสงค์ของสายดังกล่าวถูกออกแบบให้เป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน และใช้ได้กับทุกอุปกรณ์อย่างสะดวกคล่องตัว หากเปรียบกับ MicroUSB 2.0 มีความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด คือ ความเร็วในการรับส่งข้อมูลระหว่างอุปกรณ์กับอุปกรณ์ เช่น คอมพิวเตอร์-โทรศัพท์มือถือ และความเร็วในการชาร์จแบตเตอรี่ที่เทคโนโลยีปัจจุบันต้องใช้สาย USB Type-C เท่านั้นถึงจะจ่ายกำลังไฟได้อย่างเต็มกำลัง และปลอดภัย รวมถึงความสะดวกในการเสียบสาย ไม่ต้องใช้ด้านใดด้านหนึ่ง แต่ได้ทั้งสองด้าน แค่เสียบให้ตรงช่องก็พอ!
นอกจากความต้องการที่ให้ผู้บริโภคได้รับความสะดวกสบายแล้ว เหตุผลหลักเลยคือ ขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ปัจจุบันมีปริมาณสูงพอๆ กับขยะทั่วไปแล้ว อันเนื่องมาจากการเติบโตของเทคโนโลยีและนวัตกรรมในหลายๆ ธุรกิจและอุตสาหกรรม ท้ายที่สุดแล้วหากทำได้จริงก็ช่วยโลกได้ไม่มากก็น้อย และลดเหลือทางเลือกเดียวสำหรับผู้ใช้อุปกรณ์สมาร์ทๆ อย่างเรา
