ทั่วไป

เสียงสะท้อนหมอจิตวิทยา กับปัญหา”วัยรุ่นไทย”

สยามรัฐ
อัพเดต 28 ก.ค. 2562 เวลา 23.30 น. • เผยแพร่ 28 ก.ค. 2562 เวลา 23.30 น. • สยามรัฐออนไลน์

ดำเนินมาจนใกล้จบโครงการฯ แล้ว สำหรับรายการ “รอลูกเลิกเรียน” (After school) รายการทีวีออนไลน์ จัดทำโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และบริษัท Toolmorrow ผู้เชี่ยวชาญด้านสื่อออนไลน์ เพื่อเปลี่ยนแปลงทัศนคติสังคม

รายการได้นำปัญหาจริงของครอบครัวไทยมานำเสนอแบบกึ่งเรียลลิตี้ ตั้งกล้องเก็บภาพครอบครัวจริงในการแก้ปัญหาระหว่างแม่และลูก โดยการดูแลใกล้ชิดจากคุณหมอจิตวิทยา สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ กระทรวงสาธารณสุข เผยแพร่ผ่าน Facebook : Toolmorrow และ www.afterschoolonline.tv

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ถ้าถามว่าสังคมไทยในปัจจุบันพ่อแม่ต้องเจอกับปัญหาอะไรที่หนักอกบ้าง คำตอบคงไม่พ้นเรื่องเรื่องลูกติดมือถือ ด้านวัยรุ่นกลับพบว่ามีปัญหาเรื่องความก้าวร้าวเพิ่มมากขึ้น

พญ.วิมลรัตน์ วันเพ็ญ รองผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ กรมสุขภาพจิตกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากผลการศึกษาโครงการวิจัยครอบครัวไทยในเขตเมือง ปี 2557 พบ1 ใน 3 ของครอบครัวในเมืองมีสัมพันธภาพน่าเป็นห่วง เพราะขาดการปฏิสัมพันธ์ 60% ของครอบครัว มีการใช้อำนาจบังคับ ข่มขู่ 40% ไม่ค่อยเล่าหรือไม่เล่าอะไรให้คนในครอบครัวฟัง 34% มีการทำร้ายร่างกาย 33% ไม่ใช้เหตุผลแก้ปัญหาและด่าทอ หยาบคาย ทำร้ายจิตใจ 11% ไม่อยากวางเป้าหมายครอบครัวและไม่อยากทำกิจกรรมร่วมกัน และ 5% ไม่ได้ทำกิจกรรมร่วมกันเลย

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

จากที่รับหน้าที่เป็นวิทยากรให้รายการรอลูกเลิกเรียน, เป็นที่ปรึกษาให้โรงเรียนต่างๆ รวมทั้งจากสายด่วนสุขภาพจิต (โทร 1323) จัดทำโดยสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ พบว่าเรื่องที่พ่อแม่จะกังวลเกี่ยว กับลูกมากที่สุดคือ ติดมือถือ ติดเกม ขณะในส่วนของลูกนั้น ปัญหาที่พบมากคือ ความเครียด เรื่องเรียน การปรับตัว ความรัก ซึ่งในแต่ละครอบครัวจะมองไม่เหมือนกัน

ถ้ามองว่าเป็นปัญหาที่ควรจะต้องแก้ไข หรือมองว่าเป็นสิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นแล้วค่อยๆ แก้กันไป ก็จะแก้กันได้ เป็นเรื่องของการปรับตัว พ่อแม่ลูกต้องเข้าใจกัน นี่คือคำแนะนำแบบง่ายๆ ที่อยากให้ทุกครอบครัวปฎิบัติ แต่พ่อแม่ควรจะปรับตัวเองก่อน เพราะลูกมักจะรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย ยังสามารถได้ใช้ชีวิตในสังคมได้ตามปกติ เมื่อเกิดปัญหาต่างๆ ตามที่ได้กล่าวมาข้างต้น พ่อแม่หรือผู้ปกครองก็ไม่จำเป็นต้องพาลูกไปพบจิตแพทย์เสมอไป เพราะบางเรื่องสามารถแก้ไขได้ด้วยการปรับตัวเข้าหากันภายในครอบครัว

นอกจากนี้ในสังคมปัจจุบันมักจะพบกับปัญหาวัยรุ่นก้าวร้าวเกิดขึ้นบ่อยครั้ง มีสาเหตุที่เกิดขึ้นจากหลายปัจจัยคือ 1.นิสัยส่วนตัวของเด็ก 2.ประสบการณ์ในชีวิตที่ผ่านมา และการเรียนรู้ในการแก้ไขปัญหา ครอบครัวต้องสอนให้ควบคุมความโกรธ แก้ไขปัญหาชีวิตด้วยวิธีที่เหมาะสม และรับฟังเวลามีปัญหา ทั้งนี้ ก็เพื่อที่จะสอนให้ลูกได้เข้าใจบุคคลอื่น ครอบครัวควรชื่นชมหากลูกทำความดี แม้จะเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ ไม่ใช่มีแต่คำดุด่าว่ารวมถึงสื่อมวลชนต่างๆ ควรนำเสนอข่าวในด้านบวกด้วย เนื่องจากปัจจุบันสื่อต่างๆก็มีผลต่อวัยรุ่นด้วยเช่นกัน

“อาจกล่าวได้ว่าสิ่งต่างๆ ที่เกิดในวันนี้ เพราะวัยรุ่นไทยขาดโอกาสฝึกฝนตนเองตั้งแต่เด็กว่าจะเอื้ออาทรกับคนอื่นหรือสังคมได้อย่างไร ในเมื่อเขาก็ไม่เคยได้รับ ดังนั้น การแก้ไขเรื่องความก้าวร้าวของวัยรุ่น ต้องแก้ไขในหลายจุด อาทิ การมีลูกเมื่อพร้อม, ให้ความรู้พ่อแม่ในเรื่องการเลี้ยงดูลูกอย่างมีคุณภาพ, โรงเรียนมีระบบดูแลเด็กที่ดี, พ่อแม่ต้องปรับตัวไปกับยุคดิจิตอล แต่สุดท้ายไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรก็ตาม พื้นฐานของความไว้ใจกันในครอบครัว ความรัก ความผูกพัน การที่รู้ว่าเมื่อไรที่เรามีปัญหา ครอบครัวยังคงเป็นเบื้องหลังที่สำคัญ

การแก้ปัญหาในหนึ่งจุด จุดอื่นมันก็จะเปลี่ยน ในวงจรชีวิตคนเราถ้าไม่มีใครแก้ไขอะไรเลย สังคมมันก็เป็นแบบเดิมๆ ดังนั้น ถ้าเราปรับในครอบครัวที่เป็นส่วนที่เราจัดการได้ ต่างคนต่างจัดการของตัวเอง ทุกอย่างมันก็สามารถจะมีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นได้”

สำหรับรายการ “รอลูกเลิกเรียน” (After school) รายการทีวีออนไลน์ ปัจจุบันออกอากาศถึงตอนที่ 9 : ลูกใช้เงินฟุ่มเฟือย เมื่อลูกเห็นเพื่อนโพสต์ของที่ซื้อมาใหม่ ก็อยากได้ ขอให้พ่อแม่พาไปห้างฯ ทุกอาทิตย์ พ่อแม่รู้สึกว่าลูกอยากได้ของต่างๆ มากขึ้น ทำให้กังวลว่าถ้าไม่มีเงินให้ลูกในอนาคต ลูกอาจจะคิดหาเงินในทางที่ผิด ซึ่งจิตแพทย์ จะให้คำแนะนำอย่างไร ซึ่งเมื่อชมรายการจบแล้วผู้ปกครองสามารถเข้าร่วมโครงการฯ กับ สสส. โดยเข้าไปทำแบบทดสอบได้ที่ quiz.afterschoolonline.tv หรือสอบถามรายละเอียดที่ Inbox ของ Facebook : Toolmorrow ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 2
  • Teerawat
    คิดว่านี่เป็นการมองโลกในแง่ร้ายนะ .... ลองคิดดู ... เด็กๆติดโทรศัพท์ ตามที่ผู้ใหญ่ชอบพูดชอบบ่น ... เด็กเค้าก็อ่าน ได้เล่น ได้ฝึกภาษา ฝึกทักษะ นิ้วมือ ประสาท ความคิด การวางแผน ซึ่งมีทั้งหมดในขณะที่เล่นโทรศัพท์ มันก็ไม่แตกต่างอะไรกับคนชอบอ่านหนังสือ พกหนังสือตลอดเวลาว่างก็ยกมาอ่านเป็นหนอนหนังสือ ....มันอยู่ที่มุมมองมากกว่า คนที่จิตใจคับแคบก็คิดแต่ว่า ถ้าเป็นเด็กแล้วเล่นโทรศัพท์ จะตีตราว่าไม่ดี และหาเหตุผลมาสนับสนุนความคิดแคบๆตนเอง
    29 ก.ค. 2562 เวลา 01.18 น.
  • 🎉🎉🎉🎉🎉🎉🎉🎉🎉🎉 🎉🎉🎉รับด่วน🎉🎉🎉 อยู่กรุงเทพ ปริมณฑลรับเป็นพิเศษ ขอคนที่รับผิดชอบงานจริงๆ (เพราะไม่มีเจ้านาย) งานตอบแชทลูกค้า Facebook / Line ทำงานในอ๊อฟฟิต หรือ รับมาทำที่บ้านได้ #เป็นบริษัทจากอเมริกา *งานถูกต้องตามกฏหมาย* 👤คุณสมบัติผู้สมัคร👤 1. รับอายุ 18 ปีขึ้นไป (ไม่จำกัดเพศ) 2. ไม่จำกัดวุฒิการศึกษา 3. รับผิดชอบงาน/ ตั้งใจจริงๆ **Part time *Full time #รายได้ 18,000-30,000/เดือน หรือมากกว่านี้ ขึ้นอยู่กับความขยัน สนใจงานแอด Line ID : @gmt9811n (ใส่@ด้วย) 🎉🎉🎉🎉🎉🎉🎉🎉🎉🎉
    28 ก.ค. 2562 เวลา 23.49 น.
ดูทั้งหมด