ส.ธนาคารไทย นัดถกสรรพากร อีกรอบ 25 เม.ย.เคาะแนวปฏิบัติแบงก์ส่งข้อมูลผู้ที่ต้องเสียภาษีรับดอกเบี้ยฝากออมทรัพย์เกิน 20,000 บ. เบื้องต้นผู้ฝากที่ไม่ยินยอมให้มาเซ็นแจ้งแบงก์
ส.ธนาคารไทย – สรรพากร นัดถกเพิ่มอีกรอบ 25 เม.ย. พร้อมขอธปท.เข้าประชุม ร่วมสรุปแนวปฏิบัติการส่งข้อมูลของผู้ต้องเสียภาษีรับดอกเบี้ยฝากออมทรัพย์เกิน 20,000 บาท เผยมีผู้ที่เข้าข่ายเสียภาษี 3 ล้านคน ด้านธปท.เผยรับทราบปัญหา ชี้แบงก์ต้องใช้เวลาปรับระบบไอที พร้อมติดตามผลกระทบ
นางสาว ชุลีพร น่วมทนง รองเลขาธิการสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยภายหลังการประชุมหารือร่วมกับกรมสรรพากร ว่า ได้มีการปรับแก้หลักเกณฑ์ประกาศใหม่ โดยกำหนดให้ “คนที่ไม่ประสงค์” ให้ธนาคารพาณิชย์(แบงก์) ส่งข้อมูลดอกเบี้ยให้กับกรมสรรพากร จะต้องไปเเจ้งความจำนงและต้องเซ็นเอกสารลงนามกับธนาคารพาณิชย์ แทนการให้ลูกค้าของธนาคารเซ็นลงนามทุกคน ซึ่งการปรับหลักเกณฑ์ดังกล่าวจะช่วยให้การทำงานของธนาคารพาณิชย์คล่องตัวง่ายขึ้น อีกทั้งยังมีผลกระทบกับลูกค้าน้อยลงด้วย เพราะมีลูกค้าเงินฝากประมาณเพียง 3 ล้านคน ที่ต้องเสียภาษีดังกล่าวอัตราร้อยละ 15 ซึ่งถือเป็นสัดส่วนน้อยราว 1%ของลูกค้าเงินฝากทั้งหมด 30 ล้านคน 80บัญชี
‘’สรรพากรได้ยอมถอยออกจากเดิม จากต้องให้เซ็นลงนามทั้งหมด เป็นให้เฉพาะคนที่ไม่ต้องการให้ส่งข้อมูลให้กรมสรรพากรมาเซ็นเท่านั้น เพราะไม่เช่นนั้นจะถือว่ายินยอมให้ส่งข้อมูลให้กรมสรรพากร ซึ่งจะส่งกระทบกับคนจำนวนน้อย ซึ่งส่วนใหญ่ลูกกลุ่มนี้ก็ได้มีการเสียภาษีให้กรมสรรพากรอยู่แล้ว” นางสาวชุลีพร กล่าว
อย่างไรก็ตามในวันที่ 25 เม.ย.นี้ ทางด้านคณะทำงานของสมาคมธนาคารไทยจะมีการหารือร่วมกับสรรพากรอีกครั้ง เกี่ยวกับรายละเอียดแนวทางการปฏิบัติที่ชัดเจน เพื่อทางธนาคารจะได้ชี้แจงลูกค้าต่อไป ซึ่งในการหารือวันที่ 25 เม.ย. นี้ หากมีตัวแทนของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เข้าร่วมด้วย เชื่อว่าจะสามารถหาข้อสรุปและแนวทางได้แน่นอน เนื่องจากสถาบันการเงินอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ธปท. โดยตรง ดังนั้นหากประกาศมีการแก้ไขอย่างไร จะต้องให้ธปท.เป็นผู้ตัดสินใจก่อนที่สถาบันการเงินจะสามารถดำเนินการได้
นางสาวชุลีพร กล่าวอีกว่า หลังจากที่ได้ข้อสรุปรายละเอียดของประกาศอย่างเป็นทางการ สมาคมจะกลับมาหารือร่วมกันอีกครั้ง เพื่อกำหนดแนวทางปฏิบัติของสมาคม ซึ่งขณะนี้ได้ให้ฝ่ายกฏหมายศึกษาและปรับปรุงเนื้อหาให้สอดคล้องกับประกาศของกรมสรรพากรที่ได้แก้ไข พร้อมแจ้งแนวทางการทำงานไปยังธนาคารพาณิชย์เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจกับลูกค้าต่อไป รวมถึงจัดทำอินโฟกราฟฟิค รายละเอียดต่างๆ เพื่อประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจให้ลูกค้าได้ดีขึ้น
ด้านนางจันทวรรณ สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายยุทธศาสตร์และความสัมพันธ์องค์กร ธปท. เปิดเผยว่า ธปท. รับทราบ เรื่องที่มีการหารือระหว่างกรมสรรพากรกับสถาบันการเงินในเรื่องกระบวนการนำส่งข้อมูลดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ของลูกค้าให้กับกรมสรรพากร ซึ่งมีประเด็นเรื่องของระบบงาน เช่น ระบบ IT ของสถาบันการเงินที่อาจต้องใช้เวลาในการปรับเปลี่ยนเพื่อให้สามารถนำส่งข้อมูลดังกล่าวได้อย่างครบถ้วน
อย่างไรก็ตาม ธปท. เห็นว่าควรมีการพิจารณาผลกระทบต่างๆ ให้รอบด้านเป็นสำคัญ
NOP ไหนบอกส่งเสริม***การออมไง***อุตส่าห์เก็บเงินไว้ใช้ตอนแก่******** มันยังตามมาเก็บภาษี************ ทำงานมาทั้งชีวิต อาศัยเงินดอกเบี้ยอันน้อยนิด กินอยู่อย่างประหยัด
23 เม.ย. 2562 เวลา 15.09 น.
เรามิใช่เรา ดอกเบี้ยเกิดจากเงินเก็บออม อย่าขูดรีดภาษีเพื่อนมนุษย์ซ้ำซ้อนเกินเหตุ
23 เม.ย. 2562 เวลา 15.17 น.
เรามิใช่เรา มิควรขูดรีดภาษีเพื่อนมนุษย์ ละเว้นภาษีจากดอกเบี้ยเงินเก็บออม เห็นใจเพื่อนมนุษย์ ให้มีเงินเก็บออมยังชีพบ้าง
แต่ควรเก็บเพิ่มภาษีโรงงานอุตสาหกรรมเล็กกลางใหญ่ นิคมอุตสาหกรรมทั้งหลาย สร้างมลพิษทางอากาศ แผ่นดิน แม่นำ้ลำคลอง เก็บภาษีบาปเจ้าของกิจการและผู้ใช้บริการแหล่งอบายมุข ผับ บาร์ สร้างบาปทุกข์ทุกแห่ง อาบอบนวดเจ้าของกิจการและผู้ใช้บริการ ห้างร้านนำเข้าจำหน่ายสุราและผู้ซื้อ
23 เม.ย. 2562 เวลา 15.13 น.
ป๊อก ทำไมกลายเป็นเปิดบัญชีแบงค์ แล้วถูกบังคับให้ส่งข้อมูลให้สรรพากรได้ แล้วความเป็นส่วนตัวของคนไทยอยู่ที่ไหน
23 เม.ย. 2562 เวลา 14.13 น.
สม..ยากเลือกกันมาดีนัก..ไอ้พวกคนดี
23 เม.ย. 2562 เวลา 14.49 น.
ดูทั้งหมด