ซูเปอร์โพล เผยประชาชน 84% ชี้วันที่ 24 ก.พ.เหมาะสำหรับการเลือกตั้ง

โพลระบุ ประชาชนไม่อยากลอยกระทงกับนักการเมืองคนไหนเลย 66% แถมมีความเห็นตรงกัน 84% ระบุ 24 ก.พ.เหมาะสมแล้วที่ไปเลือกตั้ง

นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) นำเสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง ลอยกระทง กับ ความอยากเลือกตั้ง จำนวนทั้งสิ้น 1,148 คน โดยดำเนินโครงการระหว่าง 15 - 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 ที่ผ่านมา 

เมื่อถามถึง รายชื่อนักการเมืองที่อยากลอยกระทงด้วยมากที่สุด แต่คำตอบกลับพบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 66.3 ไม่อยากลอยกระทงกับนักการเมืองคนใดเลย ในขณะที่ร้อยละ 33.7 อยากลอยกระทงกับนักการเมือง เช่น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส  นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ คุณหญิง   สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ นายชัชวาลย์ คงอุดม นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล เป็นต้น 

นอกจากนี้ ก่ำกึ่งกันหรือร้อยละ 50.2 มีความสุขเมื่อเห็นข่าวเคลื่อนไหวของนักการเมืองสู่การเลือกตั้ง แต่ร้อยละ 49.8 ไม่มีความสุข โดยส่วนใหญ่หรือร้อยละ 69.2 ระบุข้อเสนอต่อนักการเมืองทำชาวบ้านมีความสุขสู่การเลือกตั้งด้วยภาพความรักความสามัคคี ความน่ารัก ความสงบสุข ดูข่าวแล้วเลือกตั้งสบายใจ อยากเลือกตั้ง มากกว่า วุ่นวาย ทะเลาะโต้เถียงกัน รองลงมาคือ ร้อยละ 57.8 เสนอให้บอกประชาชนว่าจะช่วยแก้เดือดร้อนอย่างไร ชาวบ้านจะได้อะไร ร้อยละ 54.4  เสนอให้นักการเมืองมีสติ ระวังตกเป็นเหยื่อเกมรุนแรง ทำให้เห็นแต่ขัดแย้ง ทำคนเบื่อการเมือง ร้อยละ 53.1 เสนอให้เข้าถึงชุมชน ใกล้ชิดประชาชน และร้อยละ 23.7 ระบุอื่น ๆ เช่น ตรงไปตรงมา เด็ดขาด เอาความถูกต้อง เอาหลักการไว้ก่อน เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ที่น่าพิจารณาอย่างยิ่งคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 84.4 ระบุวันที่ 24 กุมภาพันธ์ เหมาะสมแล้วที่จะเป็นวันเลือกตั้ง ในขณะที่ มีเพียงร้อยละ 9.4 ระบุว่า เร็วเกินไป และร้อยละ 6.2 ระบุว่า ช้าเกินไป และเมื่อถามถึงแนวโน้มด้านการจับจ่ายใช้สอย หลังเลือกตั้ง พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 83.1 ไม่มีแผนที่จะซื้อของเข้าบ้าน เช่น ทีวี ตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ หลังช่วงเลือกตั้ง ในขณะที่ร้อยละ 16.9 มีแผนจะซื้อ และเมื่อถามถึงแนวโน้มแผนที่จะซื้อรถยนต์คันใหม่ พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 89.1 ไม่มีแผนที่จะซื้อ แต่ร้อยละ 10.9 มีแผนที่จะซื้อรถยนต์คันใหม่หลังช่วงเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม จำนวนมากหรือร้อยละ 47.4 คาดว่ารายได้หลังเลือกตั้งจะดีขึ้น ในขณะที่ร้อยละ 44.9 คาดว่าจะเหมือนเดิม และร้อยละ 7.7 คาดว่าจะแย่ลง