เซียร์ส เชนห้างสรรพสินค้าชื่อดังของสหรัฐ ที่ครั้งหนึ่งเคยครองตลาดค้าปลีกสหรัฐ แต่ธุรกิจเริ่มซบเซาอย่างต่อเนื่อง จากการเข้าสู่ยุคของอเมซอน ยื่นขอพิทักษ์ทรัพย์สิน ภายใต้กฎหมายล้มละลายมาตรา 11 ของสหรัฐ พร้อมประกาศปิดสาขาร่วม 150 แห่ง
เชนห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ ที่มีประวัติศาสตร์ย้อนกลับไปได้ถึงปี 2429 ถือเป็นผู้บุกเบิกห้างสรรพสินค้า ที่ขายทุกอย่างให้กับทุกคน และในช่วงกลางศตวรรษ 20 ได้สร้างอาณาจักรขนาดมหึมาขึ้นมา ด้วยการมีสาขาครอบคลุมทั่วทั้งภูมิภาคอเมริกาเหนือ
แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่าน เซียร์สปิดสาขาไปแล้วหลายร้อยแห่ง ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของอุตสาหกรรมค้าปลีก ผลจากการผงาดขึ้นมาของอเมซอน และผู้เล่นอีคอมเมิร์ซรายอื่นๆ
แถลงการณ์ของบริษัท ระบุว่า เซียร์ส และบริษัทในเครือจำนวนหนึ่ง ได้สมัครใจที่จะยื่นคำร้อง เพื่อบรรเทาสถานการณ์ของบริษัท ภายใต้กฎหมายล้มละลายมาตรา 11 ต่อศาลล้มละลายเขตใต้ของนิวยอร์ก
การยื่นล้มละลายดังกล่าวเกิดขึ้นจากการที่เซียร์สต้องแบกกรับภาระหนี้เป็นจำนวนมาก และมีรายงานว่า บริษัทไม่สามารถชำระหนี้จำนวน 134 ล้านดอลลาร์ ที่ครบกำหนดชำระคืนในวันนี้ (15 ต.ค.)
เอ็ดเวิร์ด เอส. แลมเพิร์ต ประธานกรรมการบริหารเซียร์ส โฮลดิ้งส์ ระบุว่า การยื่นล้มละลายข้างต้น จะทำให้บริษัทมีความ “ยืดหยุ่น ที่จะสร้างความแข็งแกร่งให้ดุลบัญชี” และจะช่วยเร่งการเปลี่ยนถ่ายกลยุทธ์ได้เร็วขึ้นด้วย
แถลงการณ์ของเซียร์ส บอกด้วยว่า บริษัทตั้งใจที่จะปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ เน้นการทำธุรกิจบนแพลตฟอร์มร้านค้าที่มีขนาดเล็กลง อันเป็นกลยุทธ์ที่เซียร์ส ระบุว่า จะช่วยรักษาตำแหน่งงานไว้ได้หลายหมื่นตำแหน่ง
นับถึงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เซียร์ส มีพนักงานทั้งหมด 89,000 คน ลดลงจากประมาณ 350,000 คนเมื่อราว 10 ปีที่แล้ว
บริษัทประกาศด้วยว่า จะปิดสาขาที่ไม่ทำกำไรจำนวน 142 สาขา ภายในสิ้นปีนี้ เพิ่มเติมจากเดิมที่ประกาศปิด 46 สาขา ภายในเดือนพฤศจิกายนนี้
การยื่นล้มละลายของเซียร์ส ตอกย้ำให้เห็นถึงสถานการณ์ยากลำบากของบรรดาผู้ค้าปลีก ในช่วงเวลาที่กลุ่มลูกค้าหันไปซื้อของออนไลน์มากขึ้น
ก่อนหน้านี้ ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ผู้ค้าปลีกของเล่นชื่อดัง “ทอยส์ อาร์ อัส” ได้ประกาศปิดสาขาทั้งหมดในสหรัฐ ส่วนผู้เล่นรายใหญ่รายอื่น อาทิ เมซีส์ และเจซี เพนนี ก็ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันที่ต้องปิดสาขาจำนวนหนึ่ง พร้อมปลดพนักงาน
S. เป็นประเทศหลักที่ digital disruption ชัดเจนสุด
ในประเทศไทยหลายคนยังไม่เข้าใจ
ยังบ่นว่าเศรษฐกิจไม่ดี โดยที่ไม่ได้ดูตัวเองเลยว่าทันโลกไหม
15 ต.ค. 2561 เวลา 12.24 น.
kaikohmak นาวิน ผู้บริหาร คอดผิดเมื่อ ยี่สิบปีก่อน ขาย ระบบสินเชื่อ ของร้าน ให้ กับ City Bank ทำให้ลูกค้าประจำ ยุด ใช้จ่ายที่ Sear เพราะ city bank ขึ้นราคาดอกเบี้ย กับลูกค้าเก่าของ Sear จากเดิมเคย เสีย 10-12% เป็น 18-22%ลูกค้า พากันปิดบัญชี กันหมด เลยไม่มีใครช๊อป ที่Sear เพื่อซื้อสินค้า ราคาสูง (big ticked item)ยกเว้น พวกที่มีcard ของคนอื่น
15 ต.ค. 2561 เวลา 13.46 น.
ดูทั้งหมด