“หนึ่งพันล้านบาท” คือตัวเลขที่ทางบริษัท เอฟโอเอ็มเอ็ม (เอเชีย) จำกัด ตั้งเอาไว้สำหรับการลงทุนในการตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบใช้แบตเตอรี่ 100% (BEV) ซึ่งได้มีการประกาศแผนการลงทุนดังกล่าวไปแล้วหลังจากที่ผ่านการอนุมัติการสนับสนุนการลงทุนจากบีโอไอ
ในแผนการดังกล่าว จะประกอบไปด้วยการตั้งโรงงานประกอบรถยนต์ ที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะ ซิตี้ จังหวัดชลบุรี โดยมีกำลังการผลิตสูงสุด 10,000 คันต่อปี มุ่งเน้นทำตลาดในประเทศไทยและส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศอีกด้วย โดยมีชื่อรุ่นว่า ฟอมม์ วัน (Fomm ONE EV)
หากมองแบบผิวเผิน ก็คงเหมือนบริษัทฯ ธรรมดาทั่วไปที่กำลังก่อร่างสร้างตัว แต่สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ นี่ไม่ใช่เรื่องปกติทั่วไป
ถ้าติดตามข่าวมาโดยตลอด ฟอมม์ มีข่าวในเรื่องของการทำตลาดมาตั้งแต่เมื่อ 3 ปีก่อน นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท โดยมีการประกาศว่า จะทำรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย จนกระทั่งในช่วงเวลานี้ แม้จะมีความชัดเจนมากขึ้นตามกำหนดเวลา แต่โดยข้อมูลแล้ว ไม่แตกต่างจากเมื่อครั้งเปิดตัวสักเท่าใดนัก
ประเด็นสำคัญ คือ การลงทุนมูลค่า 1,000 ล้านบาท เพียงพอสำหรับการตั้งโรงงานประกอบรถยนต์หรือไม่ เป็นข้อสังเกตุ ที่เมื่อดูจากข่าวเรื่องการลงทุนเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหลายนั้น แต่ละแบรนด์ต่างใช้งบลงทุนมูลค่ามหาศาลระดับหลายพันล้านบาทถึงหมื่นล้าน และเมื่อมองถึงภาพการขึ้นไลน์ประกอบรถยนต์แน่นอนว่า ใช้เงินลงทุนมหาศาล ดังนั้น เงินลงทุน 1,000 ล้านบาท จะเพียงพอต่อการผลิตได้จริงหรือไม่ คงจะต้องรอดูกัน
ทั้งนี้ บริษัท เอฟโอเอ็มเอ็ม มีทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท โดยเป็นการลงทุนจากทาง ฟอมม์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น 80% เทียบทุนกับมูลค่าการลงทุนแล้ว ในมุมของผู้บริโภคจะมั่นใจได้ขนาดไหน สำหรับบริษัท เกิดใหม่เช่นนี้ ยังคงไม่สามารถหาคำตอบได้เช่นเดียวกัน
ลองเปรียบเทียบง่ายๆ บริษัทฯ ที่ลงทุน ผลิตสินค้าบางอย่างขึ้น โดยตั้งเป้าขายไว้อย่างเลิศหรู แต่หากประสบปัญหาขายไม่ได้ตามเป้า หรือติดขัดด้านสภาพคล่อง ผู้บริโภคที่ซื้อสินค้าไปแล้วจะทำอย่างไร หากเป็นชิ้นเล็กๆ มูลค่าไม่มาก ผู้บริโภคคงไม่เดือดร้อนเท่าไหร่เพราะเสียหายเพียงเล็กน้อย แต่สำหรับรถยนต์ถือเป็นสินค้าที่มีราคาแพงและยิ่งเป็น รถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งใหม่มากในแง่ของเทคโนโลยี ย่อมเดือดร้อนมากแน่ๆ
ขณะที่เมื่อมองตัวรถยนต์ไฟฟ้า “ฟอมม์ วัน อีวี” จัดอยู่ในหมวดของยานยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก L7 ตามสเปค คือ มีขนาด 4 ที่นั่ง มิติตัวถัง ยาว 2,585 มม. กว้าง 1,295 มม. และสูง 1,560 มม. น้ำหนักตัวรถ 445 กก. (ไม่รวมแบตเตอรี่) ติดตั้งมอเตอร์แบบ In-Wheel ขนาด 5kW จำนวน 2 มอเตอร์ที่ล้อซ้ายและขวา แรงบิดสูงสุด 560 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ขนาด 2.96 kWh 4 ก้อนการชาร์จจาก 0-100% ใช้เวลา 6 ชั่วโมง ระยะทางวิ่งไกลสุด 160 กม. ความเร็วสูงสุด 80 กม./ชม.
ในแง่ของตัวรถคงต้องไปพิสูจน์กันก่อนจึงจะนำมาเสนอข้อมูลได้ แต่มีข้อสังเกตุ เมื่อครั้งแรกเห็นสเปคในเรื่องของระยะทางกับขนาดแบตเตอรี่ ดูไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะแบตเตอรี่มีขนาดรวมเพียง 12 kWh สามารถวิ่งได้ถึง 160 กม. นั้นถือว่า ดีที่สุดในเวลานี้ (อัตรส่วน 1 kWh ต่อระยะทางราว 13 กม. ขณะที่แบรนด์อื่นๆ 1 kWhต่อ 4-5 กม.)
“รถจริงจะผลิตในช่วงเดือนมกราคม และเริ่มส่งมอบให้กับลูกค้าได้ราวเดือนกุมภาพันธ์ หรือมีนาคม ส่วนในระหว่างนี้ เป็นการทดลองประกอบอยู่ โดยในช่วงแรก คาดว่าจะผลิตได้เดือนละประมาณ 300 คัน” คำตอบของ นายธนานันต์ กาญจนคูหา ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอฟโอเอ็มเอ็ม (เอเชีย) จำกัด ต่อคำถามของสื่อมวลชนเกี่ยวกับกำหนดการส่งมอบให้กับลูกค้า
ฟอมม์ วัน อีวี เปิดตัวอย่างเป็นทางการ พร้อมรับจองจากลูกค้า เป็นที่เรียบร้อยแล้วภายในงาน มอเตอร์โชว์ เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา กำหนดราคาจำหน่ายมาตรฐานที่ 664,000 บาท แต่สำหรับผู้ที่จองก่อนภายในงานดังกล่าว จะได้ราคาพิเศษที่ 599,000 บาท และมียอดจองทั้งสิ้น 355 คันแล้ว โดยขายผ่านทาง บริษัท พีอีเอ เอ็นคอม จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของการไฟฟ้าภูมิภาค
เมื่อถามถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ผู้บริหารบอกว่า เป็นกลุ่มองค์กรต่างๆ ซึ่งเน้นใช้งานภายในองค์กรเช่น การไฟฟ้าทั้ง 3 แห่ง เป็นต้น โดย กฟภ. มีแคมเปญพิเศษสำหรับพนักงาน ให้ผ่อนได้เป็นระยะเวลา 120 เดือน ขณะที่ลูกค้าทั่วไป ยังไม่มีแคมเปญใดๆ อาจจะต้องรอช่วงที่มีการจัดงานแสดงรถยนต์เช่น มอเตอร์ เอ็กซ์โป ช่วงปลายปีนี้อีกครั้ง
สำหรับในส่วนของโชว์รูมและศูนย์บริการ กลายเป็นสิ่งที่น่าแปลกใจที่สุด เมื่อผู้บริหารตอบว่า จะให้ลูกค้าไปใช้บริการผ่านศูนย์บริการของ เอซีที และบี-ควิก
“เราจะไม่มีโชว์รูม ส่วนศูนย์บริการตอนนี้เราอยู่ระหว่างการเจรจากับทาง เอซีที และบี-ควิก ในการร่วมมือกัน เพื่อให้บริการหลังการขายกับลูกค้าของฟอมม์ เนื่องจาก ฟอมม์ เป็นรถไฟฟ้าที่ไม่ต้องดูแลอะไร มีเพียง ล้อยาง,ใบปัดน้ำฝนและของเหลวเท่านั้น ที่ต้องเปลี่ยน ส่วนการรับประกันคุณภาพ ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา” นายธนานันต์ กล่าว
ประเด็นนี้ ได้มีข้อท้วงติงไปยังทีมผู้บริหารว่า ควรจะต้องมีอย่างน้อยหนึ่งแห่ง ในลักษณะของศูนย์บริการ หรือเทคนิคคอลเซนเตอร์ เพื่อให้ข้อมูล, คำปรึกษาและนำรถเข้าไปตรวจสอบกรณีรถฟอมม์ เกิดปัญหาขึ้น นอกเหนือจากการบำรุงดูแลตามปกติ โดยผู้บริหารรับปากว่าจะรับไปพิจารณา
สิ่งที่กล่าวมาทั้งหมด ด้วยความห่วงใย ทั้งตัวผู้ประกอบการและผู้บริโภค อยากให้เตรียมความพร้อมให้สมบูรณ์ที่สุด แม้จะไม่ถึงกับครบ 100% แต่อย่างน้อยถ้ารถเกิดปัญหาขึ้น ควรมีที่พึ่งให้กับลูกค้าในการนำรถเข้าไปตรวจสอบและแก้ไขได้อย่างถูกต้อง
ถึงบรรทัดนี้ ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมยานยนต์ต่างยอมรับว่า รถยนต์ไฟฟ้า กำลังมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ส่วนจะมาแล้วแจ้งเกิดได้สำเร็จเมื่อไหร่ ยังเป็นคำถามที่ไม่มีใคร
PUnakhonbelieve ชอบๆ น้ำมันบ้านเรามันโกง หันมาใช้รถไฟฟ้าดีสุด ขอให้ทำพ่วงขายด้วย เวลาขนของจะได้สะดวก หรือทำรถมีกะบะท้ายจะดีมาก
17 ต.ค. 2561 เวลา 06.49 น.
NoppoL ดูรายการดูให้รู้
คนญี่ปุ่นที่ทำรถไฟฟ้าลงทุนร่วมกับสถาบันนึงของไทย
ทำรถไซซ์นี้
บอกว่าราคาจะประมาณสามแสนบาท
แต่นี่ราคาหกแสนกว่า
17 ต.ค. 2561 เวลา 08.15 น.
Nont/ เหมือนรถเด็กเล่นเลยนะ
17 ต.ค. 2561 เวลา 05.33 น.
จรศ รอดูราคารถไฟฟ้าจากจีน
17 ต.ค. 2561 เวลา 13.22 น.
🥇🥈🥉อสังหา!! พารวย....
ก้าวแรก‼️ สู่เศรษฐีอสังหา
กับสัมมนา Fast track to millionaire"ทางด่วนพิเศษเป็นเศรษฐีอสังหาฯ กับกลยุทธและสุดยอดเทคนิคทำกำไรเมืองท่องเที่ยว".
ลงทะเบียน Agent + ลูกค้าร่วมงานสัมนาวันเสาร์ที่ 20 ตุลาคม 2561 Deadline ลงทะเบียน 19/10/61 ก่อน12.00 น.ณ โรงแรมนารายณ์ สีลม
ลงทะเบียนจองที่นั่งได้ตามลิงค์ข้างล่างนี้ได้เลยนะคะ
https://goo.gl/forms/IlaaXvVobC8Oqu3W2 หรือ สอบถามรายละเอียด 098 2917452 IDLind deemark16 คุณจ๋า
17 ต.ค. 2561 เวลา 13.02 น.
ดูทั้งหมด