จากกระแสข่าวโลกออนไลน์กล่าวถึงสรรพคุณ “ใบอังกาบหนู’ ว่าสามารถรักษาโรคมะเร็งได้ ล่าสุดที่วัดโบสถ์ จ.สุโขทัย มีญาติผู้ป่วยไปขอสมุนไพรดังกล่าวกับทางวัดจำนวนมาก จนเกิดคำถามว่า ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม เพจเฟซบุ๊ก “สมุนไพรอภัยภูเบศร” ได้โพสต์ข้อมูลเกี่ยวกับใบอังกาบหนู ดังนี้
ว่ากันด้วยเรื่อง “อังกาบหนู” มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Barleria prionitis L. จัดอยู่ในวงศ์เหงือกปลาหมอ (ACANTHACEAE) มีชื่อท้องถิ่นอื่นๆ ว่า เขี้ยวแก้ง เขี้ยวเนื้อ อังกาบ มันไก่
อังกาบหนูเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณทางยามากมาย หมอยาพื้นบ้านมีการใช้ในการแก้อักเสบ แก้ปวด รักษาฟันและเหงือก แก้เปื่อยทุกชนิด แก้ไข้แก้หวัด
**นิยมใช้เข้าตำรับแก้ฝีภายในและภายนอก (ฝีในทางพื้นบ้านอาจสัมพันธ์กับมะเร็ง) เหมือนทองพันชั่ง บางคนเรียกท้องพันชั่งตัวผู้ เนื่องจากเป็นสมุนไพรในกลุ่มเดียวกัน
สารสกัดจากรากอังกาบหนูมีฤทธิ์ในการคุมกำเนิด โดยมีการทดลองในหนูเพศผู้ ติดต่อกันนาน 60 วัน พบว่าสามารถคุมกำเนิดได้ 100% เนื่องจากสารสกัดจากอังกาบหนูมีฤทธิ์ในการรบกวนการสร้างสเปิร์ม ลดจำนวนสเปิร์ม และทำให้การเคลื่อนไหวของสเปิร์มลดลง มีผลต่อการสร้างสเปิร์ม ทำให้โครงสร้างและหน้าที่ของสเปิร์มผิดปกติไป
สรรพคุณของอังกาบหนูตามตำรายาไทย ประกอบด้วย
– ราก ใช้แก้ไข้
– เปลือก ใช้ขับเสมหะ ขับเหงื่อ
– ใบ ใช้แก้ปวดฟัน แก้หูอักเสบ แก้กลากเกลื้อน ป้องกันส้นเท้าแตก
– ต้น ใช้รักษาไขข้ออักเสบ รักษากลากเกลื้อน ช่วยขับปัสสาวะ แก้อาการบวมน้ำ แก้ไข้
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีข้อมูลงานวิจัย และการศึกษาฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาที่เกี่ยวข้องกับการรักษา หรือการต้านมะเร็ง
https://www.facebook.com/abhaiherb/photos/a.136960229702392/1906526239412440/?type=3&theater
แปลกดีปท.ไทย สมุนไพรไทยสรรพคุณเพียบแต่ไร้การวิจัย ไว้รอต่างชาติเอาไปทำมาขายหรือ? ยานี่มันโครตอิทธิพลเลยนะ อนาคตคนไทยคงสูญพันธุ์ เพราะกินแต่ยาเคมี
18 ส.ค. 2561 เวลา 00.14 น.
แก่นอกกรอบ ตามตำรา แพทย์แผนโบราณ ของหมอชีวกโกมารภัทจ์ บอกเอาไว้ว่า ต้นไม้ทุกต้น พืชทุกถชนิด ต้้นหญ้าทุกต้น เป็นยาทั้งนั้น แล้วแต่จะเอามาใช้ รักษาโรคอะไรเท่านั้น
17 ส.ค. 2561 เวลา 23.29 น.
NZ Peter ยาที่หมอวิจัยกันแล้วน่ะหรือ จะบอกให้ว่าให้สังเกตคนในครอบครัวที่กินยาลดความดันโลหิตมานานหลายปีนะครับ จะมีอาการของเก๊าต์ไปจนถึงรูมาตอยด์ครับ ขอบคุณยาที่ทางการแพทย์วิจัยแล้วเป็นอย่างยิ่ง
17 ส.ค. 2561 เวลา 23.39 น.
ประเทศไทยเรามีแต่ของดีๆน่ะแต่ทำไมไม่มีใครให้ความสนใจไปสนใจแต่ของคนอื่นเค้าแปลกจริงๆพอเค้ามาเอาของเราไปใช้ก็ออกกฏหมายว่าเป็นของผิดกฏหมายไปแล้วไปเอาของเขามาใช้เพื่อ.....
18 ส.ค. 2561 เวลา 00.23 น.
นี่แหละประเทศไทยโอ๊ไม่ใช่ต้องบอกว่าของดีมีไว้ให้คนอื่นเอาไปจดลิขสิทธิ์ถึงจะรู้ตัวแล้วมาร้องบอกว่าของเราหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างมีไว้ทำไมเสียดายเงินภาษีที่ข้างคนพวกนี้จังเลย
18 ส.ค. 2561 เวลา 01.48 น.
ดูทั้งหมด