ตร.เชิญตัว สาวเย้ย 5พันแค่เศษเงิน รับ ดีใจที่ได้เงิน ที่โพสต์ไปเพราะคนรุมถาม

ตร.เชิญตัว สาวเย้ย 5พันแค่เศษเงิน รับ ดีใจที่ได้เงิน ที่โพสต์ไปเพราะคนรุมถาม วานนี้ ตร. สภ.ป่าตอง จ.ภูเก็ต เชิญตัว นายกชพร มาสอบถามข้อเท็จจริง

จากกรณีหญิงสาวรายหนึ่ง โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก หลังเงินเยียวยา เราไม่ทิ้งกัน 5,000 บาท เข้าบัญชีเป็นวันแรก จนกลายเป็นดราม่าเนื่องจากข้อความดังกล่าวที่มีการโพสต์นั้น ระบุ ทำนองว่า "5 พันเข้าบัญชีแล้วค่ะ ก็แค่เศษเงินหลังตู้เย็น" จนทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ถึงการกำหนดเงื่อนไขการได้รับเงินดังกล่าวของรัฐบาล

• สาวโพสต์รับเงินเยียวยา 5 พันแค่เศษเงิน ลั่นรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ก่อนปิดเฟซบุ๊กหนี
• เดือดสาวรับเงินเยียวยา 5 พันโพสต์ แค่เศษเงินหลังตู้เย็น เจอขุดกินหรูอยู่แพง!
• แฉสาวโพสต์ 5 พัน แค่เศษเงิน ขายผ้าอยู่ป่าตอง คลังเผยอาจถูกยึดเงินคืน

ล่าสุดวันที่ 9 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวานนี้ ตำรวจ สภ.ป่าตอง จ.ภูเก็ต เชิญตัวหญิงสาวคนดังกล่าวมาพบเจ้าหน้าที่ ทราบชื่อคือ  นายกชพร (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี สาวประเภทสองเบื้องต้นทราบว่า เปิดร้านขายเสื้อผ้าอยู่ใน ต.ป่าตอง อ.กะทู้ และลงทะเบียนตามโครงการเราไม่ทิ้งกันจริง เนื่องจากนายกชพรไม่มีบัตรประกันสังคม และธุรกิจได้รับผลกระทบ รายได้ลด

เกาะติดข่าวโควิด กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account

ส่วนข้อความที่โพสต์ไปนั้น นายกชพร ระบุว่า รู้สึกดีใจที่ได้รับเงินดังกล่าว แต่ก็เสียความรู้สึกที่เพื่อนๆและคนรู้จักอีกหลายคนไม่ได้รับเงินและตนเองก็ถูกกดดันจากเพื่อนๆว่า ลงทะเบียนอย่างไรจึงได้รับเงิน จึงโพสต์ข้อความไปแบบไม่คิดและเข้านอน มารู้อีกทีว่ามีการวิจารณ์จนเกิดกระแสดราม่า จึงรีบลบโพสต์ ยืนยันไม่มีเจตนาทำให้รัฐบาลเสียหาย

นายกชพร เผยอีกว่า ตนยืนยันถึงแม้ว่าตัวเองเป็นเจ้าของธุรกิจแต่ก็ได้รับผลกระทบ จากการหยุดกิจการเพราะมีค่าใช้จ่ายต่างๆเช่น ค่าเช่าร้านเดือนละ 20,000 บาท(ไม่รวมค่าน้ำค่าไฟ) ค่าเช่าบ้านเดือนละ 7000 บาท ค่างวดรถ 12500 บาท ค่าอุปโภคของน้องๆและเด็กอ่อนอีก 1 คน วันละ 1500 บาท และค่ามัดจำเปิดร้านเสริมสวยใหม่อีก 26,000 บาท โดยว่างเงินมัดจำไปแล้ว 5000 บาท และตนเองไม่มีประกันสังคม เนื่องจากเป็นเจ้าของกิจการ

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้บันทึกถ้อยคำไว้เป็นหลักฐาน โดยยังไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหา เพราะอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเข้าข่ายความผิดใด รวมถึงประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง(ก.คลัง)ว่าจะมีการดำเนินคดีหรือไม่