ไลฟ์สไตล์

ซื้ออ่านให้สาแก่ใจในช่วงกักตัว รวมหนังสือ 30 เล่มจาก 10 สำนักพิมพ์

a day magazine
อัพเดต 01 เม.ย. 2563 เวลา 11.35 น. • เผยแพร่ 01 เม.ย. 2563 เวลา 10.56 น. • a team

ใครที่กักตัวอยู่บ้านจนเหี่ยวเฉาแล้วขอให้ยกมือขึ้น!

ตั้งแต่ประกาศมาตรการ social distancing มา เคยสังเกตตัวเองบ้างไหมว่าอยู่กับหน้าจอสมาร์ตโฟนมากขึ้น ยังไม่นับเวลาที่ใช้ไปกับการดูซีรีส์หนักมากทั้งจากจอทีวี แท็บเล็ต หรือโน้ตบุ๊ก แถมยังต้องทำงานกับจอคอมฯ เป็นเวลาหลายชั่วโมงอีก! เราจึงอยากชวนทุกคนมาพักสายตาจากหน้าจอแล้วไปใช้เวลานิ่งๆ สบายๆ เปิดเพลงโปรดพลางอ่านหนังสือกันบ้าง

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ไหนๆ ช่วงนี้ก็มี Online Book Fair จัดอยู่ ให้ทุกคนช้อปหนังสือได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ต้องไปแย่งชิงเบียดเสียดกับผู้คนมากมาย เราขอใช้โอกาสนี้ส่งเสียงทักทายไปยัง 10 สำนักพิมพ์ต่างสไตล์ เพื่อขอให้พวกเขาแนะนำหนังสือใหม่ 3 เล่มกับทุกคน ใน 30 เล่มนี้ถ้าคุณไม่กดสั่งซื้อมาอ่านสักเล่มก็ใจแข็งเกินไปแล้ว

สำนักพิมพ์ Fullstop Book

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

1. TAIPEI TAIWAN DIARY / ศศิ วีระเศรษฐกุล 

ชอบภาพวาดสีน้ำ ชอบชาไข่มุก ชอบเต้าหู้เหม็น ชอบก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ชอบภาพยนตร์เรื่อง Spirited Away ของสตูดิโอจิบลิ ชอบ Jimmy Liao ชอบไต้หวัน

เล่มนี้เลย…TAIPEI TAIWAN DIARY

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

หนังสือบันทึกการเดินทาง Sasi’s Sketch Book เล่มล่าสุดของศศิ วีระเศรษฐกุล สวยงามและสนุกมาก สีน้ำทั้งเล่ม กระดาษการ์ดหนาอย่างดี 160 หน้า ปกแข็งหุ้มแจ็กเก็ต ห้ามพลาดเด็ดขาด

2. MY INSPIRATION III / เดอะดวง

‘หนังสือเล่มนี้….ไม่มีคำพูด’

ให้ลืมหนังสือกว่า 30 เล่มของ ‘เดอะดวง’ ที่ผ่านมา เพราะ MY INSPIRATION III คือผลงานเล่มล่าสุดที่ทรงพลัง ชวนตื่นเต้นที่สุด ที่เดอะดวงเคยสร้างมา ดำดิ่งไปกับความฝันที่ชวนค้นหาความหมายและเรื่องราวไม่รู้จบ

เป็นหนังสือภาพล้วนๆ ไม่มีคำพูด ไม่มีคำบรรยาย มีบทบรรเลงเพลงให้ฟังประกอบจากมือกีตาร์ อ๊อฟ–เรืองวิทย์ ไสเหลื่อม วงไปส่งกู บขส.ดู๊ 

แต่ละภาพเติมต่อจินตนาการด้วยตนเองตลอดกระดาษ 160 หน้า นอกจากนี้เมื่อหยิบหนังสือเข้าไปในที่มืดตัวหนังสือที่ปกจะเรืองแสงขึ้นมาอีกด้วย

3. STATIONERY ที่รัก / ศศิ วีระเศรษฐกุล 

จักรวาลเครื่องเขียนอันไกลโพ้นเล่มที่ 1 ของศศิ วีระเศรษฐกุล เป็นบันทึกเรื่องเครื่องเขียนและร้านเครื่องเขียนที่รักของเขา ผ่านภาพวาดสีน้ำทั้งเล่ม 160 หน้า

เล่มนี้เน้นการตามล่าเฉพาะปากกาบางด้ามและดินสอบางแท่ง ซึ่งบางร้านต้องออกเดินทางไกลเพื่อตามหาให้พบ

เรื่องสนุก ภาพสนุกและสวยมาก ปกหุ้มด้วยแจ็กเก็ตผ้า เหมาะมากกับคนบ้า…บ้าเครื่องเขียน!

 

สั่งซื้อหนังสือของสำนักพิมพ์ Fullstop Book ได้ที่ fullstopbook.com

สำนักพิมพ์ Salt

1. เลือดชั่ว: เรื่องลับและคำลวงเบื้องหลังบริษัทดาวรุ่งแห่งซิลิคอนแวลลีย์ / John Carreyrou

หนังสือตีแผ่เบื้องลึกเบื้องหลังเรื่องอื้อฉาวแห่งวงการสตาร์ทอัพ เมื่อ Theranos บริษัทสตาร์ทอัพด้านสุขภาพที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด ด้วยนวัตกรรมการใช้เลือดเพียงหยดเดียวในการตรวจวิเคราะห์ร่างกาย ในเวลาเพียงไม่กี่ปี Theranos มีเงินลงทุนเข้ามาเป็นจำนวนมาก แต่แล้วจังหวะก้าวของยูนิคอร์นก็มีอันต้องสะดุด เมื่อหนังสือพิมพ์ The Wall Street Journal เริ่มตีพิมพ์ซีรีส์บทความเชิงสืบสวนสอบสวนที่เปิดเผยความไม่ชอบมาพากลในการพัฒนาเทคโนโลยีของ Theranos ความจริงที่พรั่งพรูผ่านการเปิดโปงนี้นำไปสู่การฟ้องร้องบริษัทอย่างยกใหญ่ ทั้งข้อหาหลอกลวงนักลงทุนและเจ้าหน้าที่รัฐ

นี่คือผลงานที่นิตยสาร TIME จัดให้เป็นหนึ่งในหนังสือสารคดีที่สุดแห่งทศวรรษ 2020!

2. ใครคือเจ้าของบ้าน ฉันหรือแมว / Abigail Tucker

ว่ากันแบบขำๆ ว่าแมวกำลังจะ ‘ยึดครองโลก’ แต่ที่เห็นๆ กันอยู่คือแมวได้ ‘ยึดครองบ้าน’ ของเราไปแทบจะเบ็ดเสร็จเด็ดขาดแล้ว

แต่คุณรู้ไหมว่ากระบวนการยึดครองโลกของแมวบ้านนั้นไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้หรอก มันเกิดขึ้นตั้งแต่แรกสุด เมื่อแมวเริ่ม ‘เข้าหา’ มนุษย์เพื่อความสะดวกสบายของมัน เพื่อให้มนุษย์หาเลี้ยง และสุดท้ายมันก็กลายเป็นสัตว์เพียงชนิดเดียวที่หาทางบุกรุกเข้ามาหาเราจนกระทั่งถึงที่นอนอันสะดวกสบาย อ่อนนุ่ม อบอุ่น แถมยังใช้สอยมนุษย์เป็นทาส โดยที่มันไม่ยอมเป็น ‘สัตว์เลี้ยง’ เต็มที่เหมือนกับสุนัข

มันทำได้ยังไง กระบวนการนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ และทำไมมนุษย์ถึงไม่รู้ตัวเอาเสียเลย–หนังสือเล่มนี้มีคำตอบ

เมื่ออ่านหนังสือเล่มนี้จบ คุณจะรู้ว่าการคิดครองโลกของเจ้าเหมียวไม่ใช่แค่มุกตลก!

3. เราทำงานอย่าปล่อยให้งานทำเรา / Alan Lightman

คตินิยมเรื่อง ‘ทุกนาทีมีความหมาย’ กำลังผลักดันให้เราทำกิจกรรมต่างๆ ทั้งที่เป็นงานและไม่เป็นงาน ในโลกที่เป็นเช่นนั้นเป็นไปได้หรือไม่ที่เราจะนั่งนิ่งๆ สัก 3 นาทีโดยที่ไม่เชื่อมต่อกับสังคม แล้วปล่อยตัวเองให้จมดิ่งลงไปภายในจิตใจของตัวเอง ขณะที่โลกยกย่องการใช้เวลาทุกนาทีให้มีประโยชน์ และก่นประณามการปล่อยเวลาทิ้งไปว่าคือความเปล่าประโยชน์ เราต่างหลงลืมหรือกระทั่งไม่เคยรู้เลยว่า ผู้ประสบความสำเร็จหลายคนในประวัติศาสตร์ล้วนค้นพบสิ่งที่ทำให้ตนเองยืนอยู่ในหน้าประวัติศาสตร์ได้จากช่วงเวลาที่ปล่อยตัวเองไว้กับโลกภายในโดยไม่ต่อติดตัวเองเข้ากับกิจกรรมใดๆ ในโลกภายนอกเลย

ยังมีหนังสืออีก 2 เล่มใน WORK SERIES คือ เราทำงานไปทำไม และ เราทำงานแล้วได้อะไร

 

สั่งซื้อหนังสือของสำนักพิมพ์ Salt ได้ที่ salt.co.th

สำนักพิมพ์ Hummingbooks Publishing

1. ดื่มให้แก่ดวงตาของเธอ / Keigo Higashino

2. ด้วยรักและความตาย / Kanae Minato
3. ปฏิบัติการสังหารแมรี่ ซู / Otsuichi และนามปากกาอื่นๆ

คอนเซปต์ร่วมของหนังสือทั้ง 3 เล่มนี้คือ เป็นรวมเรื่องสั้นของสุดยอดนักเขียนเรื่องสืบสวนชื่อดังชั้นแนวหน้าของญี่ปุ่น ได้แก่

– Keigo Higashinoเจ้าของผลงาน ปาฏิหาริย์ร้านชำของคุณนามิยะ

– Kanae Minatoเจ้าของผลงาน คำสารภาพ

– Otsuichi เจ้าของผลงาน โทรศัพท์สลับมิติ, ฤดูร้อน ดอกไม้ไฟ และร่างไร้วิญญาณของฉัน, GOTH

 

สั่งซื้อหนังสือของสำนักพิมพ์ Hummingbooks Publishing ได้ที่ facebook.com/hummingbookspublishing

สำนักพิมพ์ Salmon

1. THE EMOTIONAL MAN มนุษย์อารมณ์ / ณัฐวุฒิ เผ่าทวี

หนังสือเล่มนี้ตั้งคำถามกับเราว่า ‘มนุษย์ใช้เหตุผลในทุกการตัดสินใจจริงหรือ’ ก่อนที่ผู้เขียนซึ่งเป็นศาสตราจารย์ด้านพฤติกรรมศาสตร์จะพาไปสำรวจว่าเราเป็น ‘มนุษย์เหตุผล’ หรือ ‘มนุษย์อารมณ์’ ด้วยการรวบรวมงานวิจัยและแบบทดสอบต่างๆ มาให้เราได้ทดสอบอารมณ์และเหตุผลของตัวเอง อีกทั้งยังชี้ให้เห็นว่าการเป็นมนุษย์อารมณ์มีข้อดี-ข้อเสียยังไง และส่งผลต่อตัวเราเองทั้งในชีวิตประจำวันและอนาคตมากเพียงใด และหากเราเป็นมนุษย์อารมณ์กันทั้งหมด สังคมหรือประเทศชาติจะได้รับผลกระทบขนาดไหน

2. END OF THE ROAD ฉากสุดท้ายของชีวิต / โตมร ศุขปรีชา

รวมความเรียงที่จะชวนไปสำรวจชีวิตของเหล่าบุคคลผู้จากไป ทั้งนักร้อง-นักแสดงชื่อดัง นักประดิษฐ์ที่มีชื่อเสียง และอีกสารพัดบุคคลในหน้าประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็น Charlie Chaplin กับความตายที่ไม่ตลก, Steve Jobs กับความตายที่ทิ้งความเจ็บปวดไว้ให้ลูกสาว, Heath Ledger กับความทุ่มเทจนนาทีสุดท้าย ฯลฯ เรื่องราวที่อยู่ในหนังสือเล่มนี้ชวนให้เราเจริญมรณานุสติกลายๆ หรือชวนให้เรามองความตายด้วยสายตาที่อาจเข้าใจมันมากขึ้น

3. NEIGHBOURDUDE COUNTRY ประเทศบ้านเพื่อน / นัท ศุภวาที

หนังสือบันทึกประสบการณ์ของนักเขียนรวยเพื่อนที่ออกเดินทางคราวนี้ไม่ได้เน้นไปเยี่ยมชมแลนด์มาร์ก ไม่ได้เน้นไปเที่ยวเทศกาลใดๆ เพราะสิ่งสำคัญที่ทำให้เขาเดินทางไกลคือเพื่อนที่กระจายตัวอยู่ในประเทศต่างๆ เป็นหนังสือที่เหมาะหยิบมาอ่านในช่วงเวลาที่เราห่างไกลจากเพื่อนเหมือนในตอนนี้ เผื่ออ่านจบแล้วเราจะอยากทักไปหาใครสักคนเพื่อไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบ แสดงความเป็นห่วงเป็นใย และพูดคุยกันอย่างสนุกสนานอีกครั้ง เหมือนในวันเก่าๆ ที่เรายังมีความสุขด้วยกัน

 

สั่งซื้อหนังสือของสำนักพิมพ์ Salmon ได้ที่ salmonbooks.net

สำนักพิมพ์ยิปซี

1. เซเปียนส์ : ประวัติย่อมนุษยชาติ / Yuval Noah Harari

หนังสือที่จะไขคำตอบที่สำคัญที่สุดของมนุษยชาติว่ามนุษย์เกิดขึ้นมาได้ยังไง อะไรที่ทำให้มนุษย์มีพลังพิเศษ​เหนือกว่าสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์​อื่นๆ และในวันที่มนุษย์​สามารถครอบครองโลกได้ สิ่งใดคือความท้าทายที่สุดที่มนุษย์​ต้องเผชิญ

2. ปืน เชื้อโรค เหล็กกล้า กับชะตากรรมของสังคมมนุษย์ / Jared Diamond

ปืน เชื้อโรค เหล็กกล้า คือเครื่องมือสำคัญที่พลิกโฉมประวัติศาสตร์ เป็นตัวแปรที่สร้างและทำลายอารยธรรมโบราณหลายยุคหลายสมัยอย่างแท้จริง นี่คือหนังสือที่นักวิชาการด้านมานุษยวิทยาทั่วโลกแนะนำให้อ่าน หนังสือที่ห้องสมุดทุกมหาวิทยาลัยต้องมี และเป็นหนังสือสำหรับคนที่กำลังสงสัยว่า อารยธรรมและสังคมมนุษย์​ผ่านความเปลี่ยนแปลงจนมาถึงจุดที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ได้ยังไง ไม่ควรพลาด

3. สมรภูมินรกแปซิฟิก : หมวกเหล็ก สงคราม ความหวัง / Robert Leckie

บันทึกระทึกขวัญที่เขียนโดยอดีตนาวิกโยธินหนุ่มชาวอเมริกัน บอกเล่าความหฤโหดของสมรภูมิแปซิฟิกในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้อย่างดุเดือดเลือดพล่านที่สุด สำบัดสำนวนแพรวพราวที่สุด สนุกและตื่นเต้นทุกบรรทัดราวกับกำลังดูหนังสงครามที่สร้างโดยฮอลลีวูด หนังสือเล่มนี้เป็นหนึ่งในหลายเล่มที่ถูกนำไปดัดแปลงเป็นซีรีส์ดังเรื่อง The Pacific

 

สั่งซื้อหนังสือของสำนักพิมพ์ยิปซี ได้ที่ gypzyworld.com

สำนักพิมพ์ P.S. Publishing

1. Passion Perfect เป็นหนึ่ง ดั่งใจ และมากกว่า / อุรุดา โควินท์

“ฉันไม่ได้นึกถึงคุณตลอดเวลา ฉันจึงแน่ใจว่ามันไม่ใช่ความรัก​ กระทั่งความชอบ และฉันไม่ใช้คำว่าคิดถึง เพราะมันลึกซึ้งไป”

เรื่องของผู้หญิงที่ทะเยอทะยานกับทุกสิ่งและไม่เลือกที่​ ผู้ต้องการนิยามความถูก-ผิดและท้าทายความเหมาะสม​ Passion Perfect เป็นหนึ่ง ดั่งใจ และมากกว่า หญิงสาว คาวปลา ความบ้าบิ่น จะพาคุณไปแตะสวรรค์​ และใช่ ลงนรกไปพร้อมๆ กัน

2. I​ Eat​ You​ Up​ Inside​ My​ Head​​ รับประทานสารตกค้างในกลีบดอกปอกเปิก / Mind​ Da​ Hed

“ผู้หญิงคนหนึ่งเดินออกมาจากเปลือกไม้ สักรูปสายรุ้งไว้ที่ใบหู เขาเสียบปลั๊กเข้ากับท้ายทอยของเธอและบอกว่าต้องการชุบชีวิตดอกไม้ เธอนั่งกอดเข่าสองข้าง จูบหัวไหล่ตัวเองไปเรื่อยๆ เขานั่งมอง มองเธอจูบสิ่งอื่นไปเรื่อยๆ เตาร้อนขึ้นเรื่อยๆ กลีบไลเซนทัสเปื่อยแน่นิ่งอยู่จนสีชมพูอ่อนไหว ไหม้อ่อน

“เธอได้แต่ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ปลายไฟลุกตรงปลายนิ้ว แต่ชินเสียแล้วเพราะแต่ไรมาก็เป็นได้แค่ผู้เฝ้ามองเหตุการณ์ มีเอี่ยวในนั้นนิดหน่อยแต่เป็นฟอร์กราวนด์เบลอๆ ตรงขอบภาพ เธอจึงอบอุ่นที่สุดตรงเส้นศูนย์ที่รู้ว่าการเฝ้ามองนั้นสำคัญแต่เจ็บปวด”

3. Sister to Sister คุยเรื่องจุ๋มจิ๋มของน้องสาว / พญ. ขวัญชนก หอมแสงประดิษฐ

รวมบทความและข้อสงสัยของสาวๆ เกี่ยวกับเรื่องจิ๋มๆ และสุขภาพทางเพศอื่นๆ โดยหมอน้ำอ้อย–ขวัญชนก หอมแสงประดิษฐ จากเพจน้องสาว เพจที่มีคนตามกว่า 200,000 คน ด้วยภาษาน่ารักๆ ชวนยุกยิกๆ เพื่อทำความเข้าใจเรื่องสุขภาพเพศหญิงและปูพื้นฐานไปสู่เส้นทางพาน้องสาวไปฟินแลนด์ แดนฟิน! ฟิน! ฟิน!  

เหมาะสำหรับผู้อ่านที่มีจิ๋มทุกคน และผู้อ่านที่ไม่มีจิ๋มแต่อยากเข้าใจจิ๋ม

 

สั่งซื้อหนังสือของสำนักพิมพ์ P.S. Publishing ได้ที่ facebook.com/P.S.Publish

สำนักพิมพ์ bookscape

1. โลกซึมเศร้า: คลายปมโรคแห่งยุคสมัย และทางเลือกใหม่ในการเยียวยา / Johann Hari

ทุกวันนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก ‘โรคซึมเศร้า’ ซึ่งเป็นภาวะที่กำลังกัดกินจิตใจผู้คนในยุคนี้ และดูเหมือนจะแผ่ขยายออกไปไม่หยุดหย่อน แต่เราเข้าใจโรคแห่งยุคสมัยนี้ดีแค่ไหน นี่อาจไม่ใช่แค่โรคที่ใช้เพียงยารักษา แต่เป็นเรื่องของ ‘โลก’ ที่ต้องร่วมมือกันเยียวยาใช่หรือไม่

หนังสือเล่มนี้จะเปลี่ยนมุมมองเดิมๆ ที่หลายคนมีต่อโรคซึมเศร้า พร้อมพาไปสำรวจสาเหตุเบื้องหลังของโรคซึมเศร้าที่เกี่ยวพันกับวิถีชีวิตและสังคม และค้นหาวิธีกอบกู้ตัวตนและความสัมพันธ์ที่หล่นหาย เพื่อกลับมา ‘เชื่อมต่อ’ กับโลกและสิ่งสำคัญในชีวิตอีกครั้ง นี่คือหนังสือที่ทำให้เราเข้าใจโรคซึมเศร้าในมุมใหม่ทั้งในฐานะปัจเจกบุคคลและสังคม เพื่อก้าวออกจาก ‘โลกซึมเศร้า’ ไปด้วยกัน

2. เส้นทางสายไหมใหม่: จากประวัติศาสตร์โลกสองสหัสวรรษ สู่ภูมิรัฐศาสตร์โลกร่วมสมัย / Peter Frankopan

Peter Frankopan ศาสตราจารย์ด้านประวัติศาสตร์โลกแห่งมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด ปูพื้นความรุ่งโรจน์กว่า 2,000 ปีของเส้นทางแห่งอารยธรรมสายสำคัญอย่างเส้นทางสายไหม แล้วพาเราโลดแล่นไปกับสถานการณ์รอบโลก ในห้วงยามที่มหาอำนาจตะวันตกคลายอิทธิพล และพลังขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงของโลกศตวรรษที่ 21 ย้ายมาทางทิศตะวันออก 

หลากเรื่องราวพลิกชะตากรรมโลกในวันนี้และอนาคตล้วนเกิดขึ้นซ้ำรอยเดิมบนดินแดนแห่งเส้นทางสายไหม–ปักกิ่ง มอสโก เตหะราน ริยาด เดลี อิสลามาบัด คาบูล อังการา ดามัสกัส และเยรูซาเลม การฟื้นคืนชีพครั้งใหม่ของเส้นเลือดหลักสายนี้จะเรียกว่าเป็น ‘เส้นทางสายไหมใหม่’ ก็คงไม่ผิดแต่อย่างใด 

3. The Bullet Journal Method: วิถีบันทึกแบบบูโจ / Ryder Carroll

หนังสือเล่มดังที่แนะนำเครื่องมือสำคัญซึ่งเหมาะกับยุคสมัยที่ข้อมูลท่วมท้นและจังหวะชีวิตเร่งรีบอย่างทุกวันนี้ ว่าด้วยระบบการจดบันทึกที่เรียกว่า bullet journal หรือ ‘บูโจ’ ซึ่งกลายเป็นขบวนการระดับโลกที่ทำให้คนจำนวนมากกลับมาควบคุมชีวิตตัวเองและโฟกัสกับสิ่งสำคัญที่แท้จริงได้อีกครั้ง

หนังสือเล่มนี้ไม่เพียงสอนวิธีปฏิบัติ แต่ยังเผยให้เห็นปรัชญาจากหลากวัฒนธรรมที่เป็นเบื้องหลังของบูโจด้วย นี่จึงเป็นหนังสือที่เหมาะกับใครก็ตามที่อยากจัดระเบียบชีวิต นักสร้างสรรค์ที่ต้องการกรอบชัดเจน หรือคนที่กำลังค้นหาเป้าหมายท่ามกลางกระแสดิจิทัลอันท่วมท้นในยุคปัจจุบัน

 

สั่งซื้อหนังสือของสำนักพิมพ์ bookscapeได้ที่ bookscape.co

สำนักพิมพ์ Library House

1. เจ้าชายผู้มีความสุข และเรื่องสั้นคัดสรรอื่นๆ / Oscar Wilde

เรื่องสั้นคัดสรรในชุด Selected Short Stories ลำดับที่ 6 ปิดท้ายซีรีส์ด้วยเรื่องสั้นอ่านสนุก 5 เรื่องของ Oscar Wilde นักเขียนชาวไอริชที่หลายคนคุ้ยเคยกับผลงานที่มีลีลาการเขียนเต็มไปสำนวนอารมณ์บาดลึกหม่นเศร้า แต่เรื่องสั้นเล่มนี้จะพาให้คุณรู้จักไวลด์อีกมุมหนึ่ง ไวลด์ที่เต็มไปด้วยอารมณ์ขัน ทำให้คุณมีช่วงเวลาแห่งการอ่านแสนเพลิดเพลิน

2. เลดี้ซูซาน / Jane Austen

ใครๆ ก็ได้อ่านนวนิยายที่อยู่เหนือกาลเวลา ได้ดูภาพยนตร์ที่สร้างจากผลงานของ Jane Austen มาแล้ว แต่เราอยากให้ลองทำความรู้จักเลดี้ซูซานเล่มนี้ดูบ้าง นิยายขนาดสั้นที่เกือบถูกลืม (กว่าจะได้พิมพ์ก็ใช้เวลาเกินครึ่งศตวรรษ) เขียนเล่าในรูปแบบจดหมายจากหลายมุมมอง วรรณกรรมคลาสสิกจากศตวรรษที่ 18-19 อ่านง่าย เป็นหนึ่งในหนังสือชุด The 19th C. Story  

3. ห้องของโจวันนี / James Baldwin

วรรณกรรมเกย์จากยุค 50-60s แสนบาดลึกละเมียดละไม แต่ละหน้า แต่ละบท อวลไปด้วยความหลงใหล ความคลั่งไคล้ ความหวัง และความแตกร้าว James Baldwin นักเขียนอเมริกันผิวสี เขียนเรื่องนี้จากเสี้ยวหนึ่งของชีวิตจริง ถ้าใครต้องการดื่มด่ำและดำดิ่งไปกับสายน้ำแห่งความรักที่ไม่มีวันย้อนกลับมา ขอแนะนำว่าเล่มนี้เหมาะกับความต้องการของคุณ

 

สั่งซื้อหนังสือของสำนักพิมพ์ Library House ได้ที่ libraryhousebangkok.com

สำนักพิมพ์ openbooks

1. ดิน • วิญญาณ • สังคม ตรีเอกภาพใหม่ในยุคเปลี่ยนผ่านกาลสมัย / Satish Kumar

openbooks ปักหมุดเปิดรับความเปลี่ยนแปลงแห่งยุคสมัยด้วยแนวคิดอันเป็นรากฐานสำคัญของอารยธรรมมนุษย์ จากผู้นำทางความคิดระดับโลก นักเดินเท้า 8,000 ไมล์ เพื่อหยุดยั้งหายนภัยจากอาวุธนิวเคลียร์ จากศิษย์สายคานธีในอินเดีย​ สู่การสร้างสรรค์นิตยสาร Resurgence จากศิษย์ของ Vinoba Bhave สู่การก่อตั้งวิทยาลัยชูมาเคอร์ในอังกฤษ

Satish Kumar ปัญญาชนสายนิเวศวิทยาเชิงลึกคนสำคัญของโลก ส่งสาส์นถึงผู้อ่านชาวไทยที่กำลังตกอยู่ในวงล้อมของไวรัส ความขัดแย้งทางการเมือง พิษเศรษฐกิจ ว่าเราควรวางใจ วางความคิดไว้ที่ใด จึงจะใช้ชีวิตเปี่ยมปัญญาและความหมาย และรักษาความสุขของเราไว้ได้ ในช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านยุคสมัยเช่นนี้

2. SELF-SEARCHING คุณค่า ตัวตน คน ละคร / อรชุมา ยุทธวงศ์

ผลงานบันทึกชีวิตของครูแอ๋ว–อรชุมา ยุทธวงศ์ ผู้ซึ่งได้รับการกล่าวขานว่าเป็นแอ็กติ้งโค้ชหมายเลขหนึ่งของเมืองไทย 

หนังสือเล่มนี้ถ่ายทอดเทคนิคและเคล็ดวิชาว่าเราจะนำศาสตร์แห่งการละคร อันเป็นศาสตร์ขั้นสูงที่ได้รับยกย่องมาตั้งแต่สมัยกรีกโบราณ มาใช้ในการพัฒนาหน้าที่การงานและชีวิตให้ดีขึ้นได้ยังไง

หนังสือเล่มนี้เขียนขึ้นอย่างง่ายๆ เพื่อให้อ่านง่ายๆ แต่การจะทำได้ตามที่หนังสือเขียนนั้นไม่ง่ายเลย หนังสือเล่มนี้เหมือนกุญแจดอกเล็กที่ใช้ไขเข้าสู่จักรวาลภายในของตัวเรา เป็นกุญแจที่ไขเข้าไปค้นหาปริศนาแห่งตัวตนตามหลากเทคนิคของคนละคร หลายคนเคยใช้ได้ผลบนเวทีใหญ่ ภาพยนตร์ ละครยอดฮิต ใช้พิชิตปัญหาและข้อขัดแย้งในการทำงานร่วมกันในองค์กรใหญ่

3. Lunch with the FT / Lionel Barber

หนึ่งในวิถีการสร้างปัญญาคือการสนทนากับหลากหลายผู้รู้ ยิ่งวงสนทนากว้างขวางเพียงใด ปัญญาอันเกิดใหม่ย่อมกว้างใหญ่ไปตามนั้น แต่ในชีวิตจริงใช่ว่าทุกคนจะมีโอกาสและเงื่อนไขที่จะทำเช่นนั้นได้ ยากนักที่คนธรรมดาสามัญจะมีโอกาสร่วมโต๊ะอาหาร กระทั่งจิบชา สนทนากับผู้ยิ่งใหญ่ระดับโลก

openbooks เข้าใจอุปสรรคข้อนั้น จึงคัดสรรหนังสือดีที่จะช่วยให้ผู้อ่านมีโอกาสได้ร่วมโต๊ะสนทนากับปัญญาชน นักคิด นักเขียน นักออกแบบ นักร้อง นักแสดง จิตรกร สถาปนิก นักธุรกิจ กระทั่งนักการเมืองระดับผู้นำประเทศ ทั้งในอดีตและปัจจุบัน

Lunch with the FT คือหนังสือเล่มที่ว่านั้น เพียงแต่ท่านมิต้องเดินทาง มิต้องจ่ายค่าอาหาร จ่ายเพียงค่าหนังสือธรรมดา ก็คล้ายมีโอกาสได้ไปร่วมโต๊ะสนทนากับ 52 บุคคลชั้นนำของโลก เหมือนหนึ่งสัปดาห์ได้สนทนากับอาจารย์หนึ่งคน นี่จึงเป็นหนทางของการสร้างปัญญาอันเรียบง่ายผ่านโต๊ะอาหาร

 

สั่งซื้อหนังสือของสำนักพิมพ์ openbooks ได้ที่ shop.onopen.com

สำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน

1. จวบจันทร์แจ่มฟ้านภาผ่อง / ธนาวิ โชติประดิษฐ

หนังสือเล่มที่ 4 ในชุดกษัตริย์ศึกษา รัฐประหารปี 2549 แตกต่างจากรัฐประหารทุกครั้งก่อนหน้า…ความขัดแย้งครั้งนี้ไม่จำกัดพื้นที่แต่เพียงการเมืองของชนชั้นนำในรัฐสภาเท่านั้น แต่ยังขยายออกมาถึงการเมืองบนท้องถนนและลามไปสู่ทุกวงการไม่เว้นแม้แต่ในแวดวงศิลปะ ที่ซึ่งความขัดแย้งค่อยๆ ปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน แม้ว่า ‘ศิลปะเฉลิมพระเกียรติ’ จะเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมกระแสหลักในสังคมไทย ทั้งยังแสดงออกได้อย่างเต็มที่จนล้นเกิน แต่การตั้งคำถามไปจนถึงการท้าทายความคิดเดิมก็เป็นไปอย่างแหลมคมยิ่งแม้ไม่อาจพูดได้อย่างตรงไปตรงมาก็ตาม

2. รัฐสมบูรณาญาสิทธิราชย์ (วารสารฟ้าเดียวกัน ปีที่ 18 ฉบับที่ 1)

ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ก่อนปี 2475 มีอำนาจรวมศูนย์อยู่ที่พระมหากษัตริย์ เมื่อเกิดทวิวิกฤตคือวิกฤตความชอบธรรมและวิกฤตประสิทธิภาพขึ้นพร้อมกันแล้วไม่สามารถปรับตัวได้ จึงเกิดการเปลี่ยนแปลงใหญ่ ตรงกันข้ามกับระบอบประชาธิปไตยที่ออกแบบมาให้มีทางออกเพื่อไม่ให้ระบอบถึงทางตัน

คำถามคือตอนนี้สังคมไทยซึ่งกำลังเผชิญกับทวิวิกฤตอยู่ภายใต้ระบอบใดกันแน่ แล้วหากรัฐบาลในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (ตามคำของประยุทธ์ จันทร์โอชา เอง) ไม่สามารถตอบสนองต่อข้อเรียกร้องของประชาชนได้ จะเกิดอะไรขึ้น

3. ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ วิวัฒนาการรัฐไทย / กุลลดา เกษบุญชู มี้ด

หนังสือเล่มนี้พยายามแสดงให้เห็นว่า ในกระบวนการสร้างรัฐสมบูรณาญาสิทธิราชย์นั้นได้มีการหว่านเพาะเมล็ดพันธุ์ที่จะทำลายระบอบในตัวมันเองลง โดยเฉพาะการสร้างระบบราชการสมัยใหม่อันเป็นกลไกที่ทรงประสิทธิภาพในการทำงานของรัฐสมบูรณาญาสิทธิราชย์ หากแต่กลับกลายเป็นกลไกที่กลืนกินตัวเอง สิ่งนี้สะท้อนจากความไม่พอใจภายในระบบราชการที่ก่อตัวและปะทุขึ้นจนนำมาสู่กบฏ ร.ศ. 130

นอกจากนี้ยังชี้ให้เห็นรูปแบบของสมบูรณาญาสิทธิราชย์ในสังคมสมัยใหม่ที่วิวัฒน์ไปอย่างเป็นพลวัต และถึงแม้ว่างานศึกษานี้จะจบลงที่เหตุการณ์กบฏ ร.ศ. 130 อันเป็นความพยายามครั้งแรกของการท้าทายระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ แต่เราสามารถอาศัยงานชิ้นนี้เป็นฐานคิดในการวิเคราะห์ความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองสมัยต่อมา และการกลับมามีอำนาจของขบวนการอนุรักษนิยมในปัจจุบันได้

 

สั่งซื้อหนังสือของสำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน ได้ที่ sameskybooks.net

ดูข่าวต้นฉบับ