"ไพบูลย์" เปรยรับชะตาหากต้องพ้นส.ส.

ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูป (ปชช.) ไพบูลย์ นิติตะวัน เดินทางมายังสำนักงาน กกต. พร้อมเปิดเผยว่า ได้มาเซ็นเอกสารในการแจ้งยุบพรรคเพิ่มเติม เนื่องจากไม่ได้เซ็นชื่อในสำเนาบัตรประชาชนพร้อมมั่นใจว่า

การยื่นครั้งนี้น่าจะสามารถดำเนินการเลิกพรรคประชาชนปฏิรูปได้ เพราะเข้าเงื่อนไขตามกฎหมาย ทันทีที่ กกต.ประกาศยุบพรรคในราชกิจจานุเบกษาจะเดินทางไปสมัครสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ทันที โดยยอมรับว่าไม่สามารถนำคะแนนของพรรคประชาชนปฏิรูปโอนไปให้พรรคพลังประชารัฐได้ และหากภายใน 1 ปี มีการเลือกตั้งใหม่ มีการคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อใหม่ คะแนนของพรรคที่มีอยู่กว่า 45,000 คะแนนไม่อยู่ในเกณฑ์ที่จะได้ส.ส.ก็ยินดีที่จะพ้นจากตำแหน่ง" นายไพบูลย์ กล่าว

นายไพบูลย์ กล่าวอีกว่า บัญชีรายชื่อของพรรคพลังประชารัฐไม่มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งการที่ตนไปสมัครสมาชิกพรรคพลังประชารัฐทำให้จำนวนส.ส.ของพรรคเพิ่มเท่านั้น แต่ไม่ได้ไปอยู่ในบัญชีของพรรคพลังประชารัฐ การที่ย้ายพรรคในครั้งนี้เพราะการยุบเลิกพรรคแต่ไม่ได้เพราะหนีความเสี่ยงที่จะหลุดจาก ส.ส.เพราะคะแนนของพรรคยังอยู่ในเซฟโซน

เลขาธิการ กกต. พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา ในฐานะนายทะเบียน เปิดเผยว่าในวันอังคารที่ 27 สิงหาคมนี้ จะนำเรื่องการเสนอขอยุบเลิกพรรคประชาชนปฏิรูปของนายไพบูลย์ นิติตะวัน เข้าเสนอต่อที่ประชุมกกต. เพื่อให้พิจารณาตามมาตรา 91 ซึ่งเป็นเรื่องพรรคการเมืองสิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมือง ซึ่งมีทั้งหมด 7 กรณี เบื้องต้นนายไพบูลย์ได้จัดส่งเอกสารครบแล้วและพร้อมที่จะนำเข้าพิจารณาที่คาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน เนื่องจากเป็นการพิจารณาตามข้อกฎหมาย ซึ่งขึ้นอยู่กับดุลพินิจของกกต. อย่างไรก็ตามในส่วนของการยื่นขอยุบพรรคก็มีพรรคการเมืองอื่นยื่นเรื่องมาเช่นกัน ซึ่งเป็นพรรคที่ไม่มีส.ส. โดยการพิจารณาเป็นไปตามข้อกฎหมาย

ที่ทำเนียบรัฐบาล รองนายกรัฐมนตรี วิษณุ เครืองาม กล่าวถึงความชัดเจนของการนับคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ภายหลังนายไพบูลย์ ยื่นเลิกกิจการพรรคประชาชนปฏิรูป และประกาศจะไปเป็นส.ส.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่าให้ถามคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ดีกว่า เขาจะเป็นคนชี้ในเรื่องนี้ว่าจะต้องเอาคะแนนมาเฉลี่ยแบบไหน ส่วนตัวไม่ขอตอบ ส่วนต้องมีหลักการอย่างไรในเรื่องนี้นั้น เขาเตรียมแก้ปัญหาไว้แล้ว ในรัฐธรรมนูญให้ กกต.เป็นฝ่ายคำนวณและเป็นคนตอบ