ไลฟ์สไตล์

กินเสริมมั่วซั่ว อันตรายถึงชีวิต 7 อันดับเรื่องจริง "อาหารเสริม" รู้ไว้ก่อนตัดสินใจทาน

UndubZapp
เผยแพร่ 20 ก.พ. 2563 เวลา 23.50 น. • อันดับแซ่บ
7 อันดับเรื่องจริงของ “อาหารเสริม” ที่สาวๆ ควรรู้ก่อนตัดสินใจเลือกทาน ถ้ากินอาหารเสริมมั่วๆ เสี่ยงอันตรายถึงชีวิต หรือ อาหารเสริมบางชนิดมีผลข้างเคียงต้องรู้

ในสมัยนี้ อาหารเสริมแทบจะกลายเป็นอาหารหลักของใครหลายๆคน ไหนจะกินเพื่อเสริมวิตามินและแร่ธาตุที่ขาดหาย ไหนจะกินเพื่อวัตถุประสงค์ด้านความงาม ซึ่งไม่ว่าจะรับประทานด้วยเหตุผลไหน UndubZapp ก็ต้องขอเตือนก่อนเลยว่า การทานอาหารเสริมโดยไม่ศึกษาข้อมูลผลกระทบก่อนนั้น อาจมีอันตรายถึงชีวิตได้เลยทีเดียว โดยเฉพาะ 7 อันดับเรื่องจริงจากอาหารเสริมที่เรานำมาฝากนี้ เรียกได้ว่าเป็น 7 เรื่องสำคัญที่ทุกคนต้องรู้ก่อนตัดสินใจทาน เพราะนอกจากจะช่วยให้รู้ผลกระทบจากการเสริมสารอาหารแต่ละชนิดแล้ว ยังช่วยให้สามารถปฏิบัติตัวได้อย่างถูกต้องเพื่อสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรงสมใจอีกด้วย

7. สุขภาพยังดี ไม่จำเป็นต้องกินอาหารเสริม

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

คนส่วนใหญ่มักเชื่อว่าตนเองได้รับวิตามินและสารอาหารไม่เพียงพอ แต่นักวิจัยกลับค้นพบว่า สถิติของผู้ที่รับประทานอาหารเสริมไม่ได้มีอัตราการป่วยหรือเสียชีวิตน้อยกว่าผู้ที่รับประทานอาหารตามปกติแต่อย่างใด โดยแพทย์แนะนำว่า สำหรับผู้ที่ไม่ได้มีภาวะขาดสารอาหาร หรือจำเป็นต้องทานเพื่อการรักษาโรค การรับประทานอาหารจากธรรมชาติที่ดีต่อสุขภาพนั้น นับว่าเพียงพอแล้วต่อการมีสุขภาพดี ถือเป็นเรื่องควรรู้เบื้องต้นก่อนตัดสินใจทานอาหารเสริมค่ะ

6. ฟิชออยล์ ไม่สู้ปลาจริงๆ

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

อย่างที่รู้กันดีว่า ฟิชออยล์หรือน้ำมันปลานั้น เป็นอาหารเสริมที่อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 ซึ่งถือเป็นไขมันดีที่ช่วยลดความเสี่ยงการเป็นโรคหัวใจได้ อย่างไรก็ตาม ยังมีหลักฐานยืนยันอย่างชัดเจนว่า การทานฟิชออยล์เป็นอาหารเสริมจะสามารถช่วยเรื่องโรคหัวใจได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยมีการทดลองให้ผู้ป่วยโรคนี้ทานฟิชออยล์ติดต่อกันเป็นเวลา 5 ปี ก็ไม่พบว่ามีอาการดีขึ้นแต่อย่างใด ขณะที่แพทย์แนะนำว่า การรับประทานปลาจากธรรมชาติยังได้รับการตอบสนองจากร่างกายที่ดีกว่าเสียอีก

5. กินวิตามิน D มากเกิน เสี่ยงเป็นโรคไต

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

อาจไม่ใช่วิตามินยอดฮิตนัก แต่สำหรับวิตามิน D ซึ่งอยู่ในอันดับ 5 นี้ มีส่วนสำคัญในการช่วยดูดซึมแคลเซียม จึงมักมีการรับประทานควบคู่กับแคลเซียมอยู่เสมอเพื่อป้องกันภาวะกระดูกพรุน แต่การรับประทานวิตามิน D ในปริมาณที่มากเกินไป ย่อมทำให้ร่างกายได้รับแคลเซียมมากเกินไปด้วย ซึ่งภาวะนี้อาจส่งผลให้เกิดผลึกหินปูนในไตและนำไปสู่โรคนิ่วในไตได้ค่ะ

4. ยาและอาหารเสริมบางชนิดทำปฏิกิริยาต่อกัน

หากสาวๆ คนไหนที่เลือกรับประทานวิตามิน คู่กับอาหารเสริมพร้อมกันหลายชนิด หรือทานพร้อมกับยาบางประเภท ต้องไม่ลืมศึกษาผลกระทบจากการทำปฏิกิริยาต่อกันของสารเหล่านี้ด้วย เช่น การรับประทานยาละลายลิ่มเลือด ร่วมกับการทานน้ำมันปลาอาจทำให้เกิดภาวะเลือดไหลไม่หยุดได้ หรือสำหรับสาวๆ ที่ต้องการบำรุงผิวนั้น ไม่ควรรับประทานทั้งวิตามินอีและน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสพร้อมกัน เพราะอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อหัวใจได้ เนื่องจากเป็นการทานอาหารเสริมแบบซ้ำซ้อนนั่นเอง

3. กินแคลเซียมเกินขนาด ส่งผลต่อโรคหลอดเลือดหัวใจ

เรียกได้ว่าเป็นอันตรายติดอันดับ Top 3 เพราะแม้ว่าแคลเซียมจะมีส่วนช่วยในการบำรุงกระดูกและฟัน แต่การได้รับแคลเซียมมากเกินไป นอกจากจะทำให้เกิดอันตรายต่อไตแล้ว ยังอาจส่งผลต่อโรคหัวใจอีกด้วย โดยการได้รับแคลเซียมเกินกว่า 2,500 มิลลิกรัมต่อวันโดยไม่ได้รับประทานร่วมกับวิตามินดีนั้น อาจทำให้เกิดภาวะแคลเซียมเกาะผนังหลอดเลือด และมีแนวโน้มที่จะเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจได้ นอกจากนี้ ต้องไม่ลืมนับปริมาณแคลเซียมที่ได้จากอาหารอย่างนม หรือชีสอีกด้วย เพราะอาจทำให้ได้แคลเซียมเกินโดยไม่รู้ตัวค่ะ

2. อาหารเสริมฮอร์โมนเสี่ยงต่อมะเร็ง

ฮอร์โมนเสริมถือเป็นอันตรายที่ต้องระวังเป็นอันดับ 2 เพราะแม้ว่าการรับประทานผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง อย่างนมถั่วเหลืองหรือเต้าหู้นั้น ถือเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพซึ่งอุดมไปด้วยโปรตีนและแร่ธาตุหลายชนิด แต่สำหรับการรับประทานอาหารเสริมที่สกัดจากถั่วเหลือง อาจทำให้ร่างกายได้รับฮอร์โมนเอสโตรเจนในปริมาณที่มากเกินไป ซึ่งอาจนำไปสู่การเกิดโรคมะเร็งเต้านมได้ โดยเฉพาะสาวๆ คนไหนที่มีประวัติคนในครอบครัวเคยเป็นมะเร็งเต้านมด้วยแล้ว ยิ่งควรระมัดระวังการรับประทานผลิตภัณฑ์และอาหารเสริมจากถั่วเหลืองอย่างยิ่งเลยค่ะ

1. ผลข้างเคียงที่มีต่อตับ

เรียกได้ว่าเป็นข้อควรระวังอันดับหนึ่งที่หลายคนอาจรู้แล้ว แต่กลับไม่ให้ความสำคัญ เพราะตับเป็นอวัยวะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในร่างกาย แถมยังมีหน้าที่สำคัญมากมาย โดยเฉพาะหน้าที่หลักอย่างการกำจัดและทำลายสิ่งแปลกปลอมที่หลุดเข้ามาในกระแสเลือด ดังนั้น การกินยา วิตามินหรืออาหารเสริมมากเกินไป จึงเป็นอีกสาเหตุสำคัญที่อาจส่งผลร้ายต่อตับได้ โดยเฉพาะผู้ที่ทานติดต่อกันนานๆ จนเกิดสารส่วนเกินค้างอยู่ภายในตับและอาจทำลายเนื้อตับจนเกินอันตราย ดังนั้น การจะรับประทานอาหารเสริมนั้น จึงควรเลือกเฉพาะชนิดที่มีความจำเป็นจริงๆ โดยรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะและไม่ทานต่อเนื่องนานเกินไป นอกจากนี้ ยังควรเน้นการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์จากธรรมชาติ ซึ่งจะให้ผลดีต่อร่างกายอย่างยั่งยืนมากกว่าค่ะ

*กดติดตาม ADD Line @UndubZapp *

แซ่บกันต่อ

>> ตำนานหมอยาเมืองไทย!! 5 ร้านขายยาชื่อดัง ราคาถูกขายส่ง คนเยอะถึงขั้นรอต่อคิวซื้อยา

>> หาซื้อได้ตามท้องตลาด!! 6 อันดับสมุนไพรเครื่องเทศต้านมะเร็ง

---

อัปเรื่องแซ่บ ฟีดเรื่องมันส์ เม้าท์ทันเพื่อน
Facebook: @UndubZapp
Instagram: @UndubZapp

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 4
  • จิรศักดิ์🧑‍🔧🇹🇭
    แพทย์เวชศาสตร์ชะลอวัย จะเป็นผู้ออกแบบและจัดเตรียมวิตามินและอาหารเสริมเฉพาะบุคคล ซึ่งมีความสัมพันธ์กับผลเลือดและสมรรถภาพของร่างกาย
    22 ก.พ. 2563 เวลา 10.12 น.
  • มาฆะ😇🙏🍻🎉✨
    การกินนมถั่วเลืองที่ถูกต้องควรเช็คดูโดยการวางทิ้งไว้ในแก้ว ก้นๆแก้วค้าง 2 วัน ถ้าพบว่าเจ้าไหนแข็งตัวแสดงว่าใส่สารทำให้ข้นเพื่อให้นำ้เต้าหู้น่ากิน และประหยัดเนื้อถั่ว นอกจากนี้ยังต้องดูด้วยว่ามันบูดรึเปล่าถ้าวางไว้แล้วมีกลิ่นบูดเน่าในหนึ่งวัน แสดงว่าใช้ได้ไม่มียากันบูด
    22 ก.พ. 2563 เวลา 08.18 น.
  • มาฆะ😇🙏🍻🎉✨
    ถ้าจะกินแคลเซียมควรดูด้วยว่าแคลเซียมนั้นเป็นชนิดไหน ถ้าเป็นแคลเซียมคาร์บอเนตต้องมีองค์ประกอบของแร่ธาตุอื่นอีกหลายชนิดรวมทั้งวิตามิน ดี รวมอยู่ด้วย ลองถามหมอดูเอาเองอีกทั้งดูดซึมได้แค่ครึ่งเดียวเองนะจ๊ะหล่อน แต่ถ้าเป็นแคลเซียมจากพืชผักผลไม้เช่น คะน้า งาดำ ดูดซึม 90% ไม่ต้องใช้แร่ธาตุอื่นอื่นเป็นส่วนประกอบเลยดีกว่า แคลเซียมคาร์บอเนตเยอะนะจ้ะหล่อน
    22 ก.พ. 2563 เวลา 08.11 น.
  • Pooh Kasem
    ให้สุขภาพดี ก็ออกกำลังกาย ดื่มน้ำ ทานอาหารที่ดี พักผ่อน ทำจิตใจแจ่มใส คิดแต่เรื่องร้ายก็เหมือนเอาถุงเท้าเน่ามาดม คิดให้ป่วยทำไม . ป่วยก็ทานยา ดื่มน้ำ พักผ่อน . เลยไม่ป่วยเข้า รพ.มาเกิน 15 ปีแล้ว ที่เข้าครั้งนั้นก็ลองใช้สิทธิประกันสุขภาพดู รู้ว่าป่วยแล้วจ่ายแพง เลยไม่ป่วยดีกว่า @^_^@ ไม่ได้ฉีดวัคซีนกันไวรัสตับอักเสบ แต่พอไปตรวจสุขภาพก็พบว่ามีภูมิต้านทานไปซะแล้ว . ออกกำลังกาย ที่เป็นภูมิแพ้ ก็หายดีขึ้น เคลื่อนไหวคล่องตัว ใครป่วยง่าย ก็ลองมาออกกำลังกายเพิ่มเติมดูละกัน
    21 ก.พ. 2563 เวลา 17.25 น.
ดูทั้งหมด