"สมชาย - พรเพ็ญ" 2 นักสิทธิมนุษยชน ร่วมคัดค้านยุบพรรคอนาคตใหม่ ชี้ยุบพรรคการเมืองของประชาชน ประชาธิปไตยไปไม่รอด ลั่นอาจทำให้เผด็จการเวียนกลับมาอีก
เมื่อวันที่ 20 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวหลัง นายชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดทำแคมเปญ #คัดค้านการยุบอนาคตใหม่ ผ่านเว็บไซต์ Change.org พร้อมระบุว่า "ประเทศไทยต้องไปข้างหน้า การเมืองต้องเปิดพื้นที่ให้ทุกฝ่าย ร่วมลงชื่อคัดค้านการยุบพรรคอนาคตใหม่" โดยเปิดให้ประชาชนทั่วไปได้ร่วมลงชื่อทาง https://bit.ly/3bFiK1R ยังคงมีผู้คนจำนวนมากทยอยลงชื่ออย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดยอดเฉียด 40,000 คน แล้วนั้น
นายสมชาย หอมลออ นักกฎหมายด้านสิทธิมนุษยชน ซึ่งเป็น 1 ในผู้ร่วมลงชื่อคัดค้านยุบพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า โดยจุดยืนของหลักสิทธิมนุษยชนแล้ว ประชาชนมีเสรีภาพในการสมาคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการจัดตั้งพรรคการเมือง สหภาพแรงงาน หรือกลุ่มองค์กรต่างๆ ซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานในระบอบประชาธิปไตย ดังนั้น ถ้าจะยุบพรรคการเมืองไม่ว่าพรรคไหน โดยจุดยืนแล้วตนไม่เห็นด้วย เพราะเป็นการไปทำลายเสรีภาพในการสมาคมของประชาชน ซึ่งเป็นเสรีภาพที่สำคัญมาก ตนเองไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ แต่เห็นว่า จากการที่มีพรรคอนาคตใหม่ขึ้นมาก็เกิดปรากฏการณ์ที่มีคนหลายล้านคน ให้การสนับสนุน และมีสมาชิกสภารู้แทนราษฏรจำนวนมาก ก็ถือว่าเป็นปรากฏการณ์ใหม่ของการพัฒนาการทางการเมืองของประเทศไทย ที่มีพรรคการเมืองที่ไม่ใช้เงิน ไม่ได้ใช้อำนาจ ในการให้ได้มาซึ่งเสียงจากประชาชน แต่ได้รับการสนับสนุนจำนวนมาก เราต้องเคารพเจตนารมณ์อันนี้
"กฏหมายเกี่ยวกับการยุบพรรคการเมืองควรที่จะยกเลิกไป เพราะนักการเมืองฝ่ายที่มีอำนาจอยู่ อาจนำไปใช้เป็นเครื่องมือกลั่นแกล้งนักการเมืองฝ่ายตรงข้ามได้ ทั้งนี้ การลงชื่อในแคมเปญนี้ก็เป็นการแสดงออกทางจุดยืนอย่างหนึ่ง ในการไม่เห็นด้วยกับการยุบพรรคการเมือง หรือการยุบพรรคอนาคตใหม่หากเกิดขึ้นจริง หรือแม้แต่หากมีการยุบพรรคที่เป็นฝ่ายรัฐบาลในปัจจุบัน ผมก็ไม่เห็นด้วยเช่นเดียวกัน เพราะผมเห็นว่าพรรคการเมืองควรจะมีโอกาสในการพัฒนาไปตามวิถีทางที่ชอบธรรม ในระบอบประชาธิปไตยหากไม่มีพรรคการเมืองที่มาจากประชาชนแล้ว ประชาธิปไตยก็จะไปไม่รอด และในที่สุดอาจมีระบอบเผด็จการเกิดขึ้นมาและวนเวียนต่อไป"นายสมชาย กล่า่ว
ด้าน น.ส.พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ นักสิทธิมนุษยชน ผอ.มูลนิธิผสานวัฒนธรรม เห็นว่าขั้นตอน กระบวนการพิจารณาคดีที่ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญน่าจะยังมีคำถามว่า เป็นอำนาจหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญ ในการพิจารณาเกี่ยวกับเรื่องการยุบพรรคการเมืองหรือไม่ ทั้งนี้ บทบาทพรรคการเมืองมีส่วนสำคัญมากในขั้นตอนการเปลี่ยนผ่านจากรัฐบาลเผด็จการสู่รัฐบาลประชาธิปไตย เราในฐานะประชาชนคนไทยอยากเปิดโอกาสให้ภาคการเมืองได้ทำงาน การจะยุบพรรค การทำให้ ส.ส. ซึ่งเป็นตัวแทนประชาชนหมดสิทธิทางการเมือง เป็นทุนทางสังคมของพวกเราที่อยากปกป้อง
"วันนี้ เราอยู่ในภาวะสังคมที่มีการศึกษามากขึ้น คนรุ่นใหม่ได้รับการเรียนรู้หลายเรื่องที่อาจแตกต่าง กว้างขวางกว่าคนรุ่นก่อน เพราะประเทศเราต้องเคลื่อนด้วยคนรุ่นใหม่ เรื่องกฎหมาย เรื่องกระบวนการสิ่งที่ทำให้ไม่เกิดความเป็นธรรมในสังคมนั้น เป็นหน้าที่เราทุกคนที่จะสื่อสารว่าเราไม่ได้รับความเป็นธรรมตรงไหน และกลไกนี้ถ้ามีอยู่จริง หรือไม่ ต้องแก้ไขโดยระบบรัฐสภา ทำให้กลไกแบบนี้ ไม่ชอบธรรมและไม่สามารถทำได้อีก" น.ส.พรเพ็ญ กล่าว
BURIN ไม่มีกฎหมายแล้วประเทศจะอยู่ได้อย่างไร ใครทำผิดก็ว่ากันตามกฎหมาย มึงจำใส่กะบาลไว้
20 ก.พ. 2563 เวลา 11.37 น.
Tayakorn W. อนาคตเยาวชนไทย ไม่เคารพกฏหมาย โกหกเป็นนิสัย ให้ร้ายผู้อื่น เนรคุณ
20 ก.พ. 2563 เวลา 11.33 น.
เฒ่า (ชาญ) วิกธิน มึงไปคัดค้านให้ไอ้พวกโจร 3จชต.เลิกก่อเหตุฆ่าชาวบ้านดีกว่ามั้ง
20 ก.พ. 2563 เวลา 11.23 น.
ดวงกมล ทำไมกูต้องเขื่อมึง
20 ก.พ. 2563 เวลา 11.14 น.
ชีวิตดั่งสายน้ำ.... พวกสวะ
20 ก.พ. 2563 เวลา 11.12 น.
ดูทั้งหมด