ไลฟ์สไตล์

สสธวท. ร่วมกับ ททท. ชวนร่วมเปิด “ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ ๗๒ พรรษา” ชูแลนด์มาร์กแห่งใหม่

Insight Daily
อัพเดต 16 ม.ค. เวลา 20.20 น. • เผยแพร่ 16 ม.ค. เวลา 12.33 น. • Insight Daily

สหพันธ์สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ (สสธวท) โดย คุณหญิงณัฐิกา วัธนเวคิน อังอุบลกุล ประธานสหพันธ์ฯ ผนึกกำลังภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน จัดสร้างซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ ๗๒ พรรษา เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ภายใต้แนวคิด “เบญจกตัญญุตา บารมีแห่งมังกรสยาม” ซึ่งทางคณะกรรมการผู้จัดทำโครงการฯ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเป็นประธานเปิดซุ้มประตู “วชิรสถิต ๗๒ พรรษา” บริเวณสะพานดำรงสถิต และ ซุ้มประตู “วชิรธำรง ๗๒ พรรษา” บริเวณห้าแยกหมอมี จึงใคร่ขอเรียนเชิญพี่น้องชาวไทยทั่วประเทศและชาวไทยเชื้อสายจีน ร่วมเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จฯ ในวันเสาร์ที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๖๘ เวลา ๑๗.๐๐ น. ณ ถนนเจริญกรุง กรุงเทพมหานคร

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

โดยสหพันธ์สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ (สสธวท) และภาคีเครือข่าย โดย คุณหญิงณัฐิกา วัธนเวคิน อังอุบลกุล ประธานสหพันธ์ฯ ร่วมกับ นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย, นายณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล ประธานหอการค้าไทย-จีน ในนามองค์กรชาวไทย เชื้อสายจีนในประเทศไทย, นายชิม ชินวิริยกุล นายกสมาคมแต้จิ๋วแห่งประเทศไทย ในนามองค์กรชาวไทย เชื้อสายจีนในประเทศไทย, ดร.กิตติ อิทธิภากร ประธานสหสมาคมตระกูลแซ่แห่งประเทศไทยในนามองค์กรชาวไทยเชื้อสายจีนในประเทศไทย จัดงานแถลงข่าว พิธีเปิดซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ ๗๒ พรรษา ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ณ ห้องประชุม อาคารสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

คุณหญิงณัฐิกา วัธนเวคิน อังอุบลกุล ประธานสหพันธ์ฯ กล่าวถึง ที่มาของการจัดสร้าง “ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ ๗๒ พรรษา” ซึ่งกำลังจะกลายเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่อันงดงามที่อยู่เคียงคู่บนแผ่นดินไทยไปชั่วลูกชั่วหลาน เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ เริ่มแรกตั้งใจทำงานกาล่าดินเนอร์เบญจกตัญญุตา แต่โดยส่วนตัวคิดว่าจัดงานแล้ว ควรต่อยอดอะไรได้บ้าง เลยคิดว่าน่าจะมีถาวรวัตถุสร้างเฉลิมพระเกียรติในวาระมหามงคลนี้ จึงได้ชวนคุณจรรย์สมรไปกราบนมัสการท่านเจ้าอาวาสวัดมังกรกมลาวาส พร้อมกับขอคำแนะนำจากท่าน ว่านอกเหนือจากการจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแล้ว น่าจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและท้องถิ่นด้วย บวกกับได้รับความเห็นพ้องของคณะสมาชิกสมาพันธ์และเครือข่าย จึงเป็นที่มาของจัดงานกาล่าดินเนอร์ “เบญจกตัญญุตา” ภายใต้โครงการ “สสธวท รวมใจเทิดเอกลักษณ์แห่งปัญจมังกร จารึกความกตัญญูต่อแผ่นดิน” เพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสดังกล่าว พร้อมระดุมทุนสำหรับเริ่มโครงการที่สอง คือการจัดสร้าง “ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ ๗๒ พรรษา” ๒ แลนด์มาร์คใหม่ บนถนนเจริญกรุง ภายใต้องค์ประกอบสำคัญ ๕ ประการ ๑.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระบรมราชสมภพในปีมังกร ๒.ปี ๒๕๖๗ ตรงกับปีนักษัตรมังกร ๓.มังกร หมายถึง พระเจ้าแผ่นดิน ๔.พระคณาจารย์จีน ธรรมวชิรานุวัตร (เย็นงี้) เจ้าอาวาส วัดมังกรกมลาวาส เป็นที่ปรึกษา และ ๕.ถนนเจริญกรุง เป็นถนนสายแรกของประเทศไทย ถือว่าเป็นถนนสายมังกร ฉะนั้นเราจึงได้ครบ ๕ มังกรที่จะถวายพระมหาจักรพรรดิ์ของเรา

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

นอกจากนี้คุณหญิงณัฐิกา วัธนเวคิน อังอุบลกุล เผยถึงเหตุผลว่าทำไมต้องมีซุ้มประตู ๒ แห่ง ตอนแรกเล็งพื้นที่ตรงบริเวณ ห้าแยกหมอมี เพราะคิดว่าเหมาะสมที่สุด แต่ได้รับคำแนะนำจากพระคณาจารย์จีน ธรรมวชิรานุวัตร (เย็นงี้) เจ้าอาวาสวัดมังกรกมลาวาสว่า มีหัวมังกรต้องมีท้ายมังกรจึงจะครบ โดยเฉพาะตรงที่บริเวณ ห้าแยกหมอมี ซึ่ง ๕ แยก ก็เหมือน ๕ เล็บมังกร และมังกร ๕ เล็บ มีความหมายว่า” จักรพรรดิ” การนี้ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานชื่อ สวนหัวมังกรอยู่ที่สะพานดำรงสถิต นามว่า “วชิรสถิต ๗๒ พรรษา” หมายถึง ซุ้มประตูนี้เป็นเอกลักษณ์แสดงถึง พระบาทสมเด็จพระเจ้าวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมายุยั่งยืน ๗๒ พรรษา ส่วนที่ห้าแยกหมอมีพระราชทานนามว่า “วชิรธำรง ๗๒ พรรษา” หมายถึง ซุ้มประตูนี้เป็นเอกลักษณ์จารึกการเทิดทูนของพสกนิกรขาวไทยในอภิมหามงคลสมัยเฉลิมพระชนมพรรษา ๗๒ พรรษา พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

“ความยิ่งใหญ่ของโครงการจัดสร้างซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ ๗๒ พรรษา สัญลักษณ์แห่งความกตัญญู และความจงรักภักดีของพสกนิกรชาวไทยทั่วประเทศ ซึ่งตั้งอยู่ในแหล่งความเจริญที่มีชาวไทยเชื้อสายจีนผู้มีความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ไทยมาอย่างยาวนานตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน สามารถจัดสร้างสำเร็จเรียบร้อยได้ระยะเวลาเพียง ๘ เดือน ด้วยพระบารมีและบุญญาธิการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทำให้การดำเนินงานทุกขั้นนตอนผ่านไปได้อย่างราบรื่น พร้อมด้วยความร่วมมือร่วมใจจากทุกภาคส่วนทั้งในประเทศและต่างประเทศ และอีกหนึ่งวาระสำคัญเนื่องจากความสัมพันธ์ไทย-จีนในปี ๒๕๖๘ จะครบ ๕๐ ปี รัฐบาล สาธารณรัฐประชาชนจีน ผ่านทางสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ได้แสดงออกถึงมิตรภาพความสัมพันธ์ทางการทูต ด้วยการได้มอบประติมากรรมมงคลจากหินฮั่นไป๋หวี่ (หินอ่อนหยกสีขาว) ซึ่งเป็นหินชนิดพิเศษของจีน ที่ใช้เฉพาะในพระบรมมหาราชวังจีนเท่านั้น รังสรรค์โดยศิลปินชาวจีน แกะสลักเป็นรูปช้าง สิงโต เป็นตัวแทนประเทศไทยและจีน และกลอง เพื่อประดิษฐานที่ฐานเสาซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติฯ ด้วย” คุณหญิงณัฐิกา กล่าว

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับเกียรติให้ ททท. มีส่วนสำคัญมาเข้าร่วมโครงการอันเป็นมงคลยิ่งในครั้งนี้ ขณะเดียวกันยัง เสนอให้ ททท. รับบทบาทในการเผยแพร่และเชิญชวนให้ประชาชนชาวไทยและนานาประเทศได้เห็นถึงความงดงามและความสำคัญของ “ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ ๗๒ พรรษา ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความกตัญญูกตเวที และความจงรักภักดีของชาวไทย นอกจากนี้ ททท. ยังเห็นความสำคัญ ที่จะต้องสร้างเสริมให้ “ซุ้มประตูวชิรสถิต ๗๒ พรรษา” และ “วชิรธำรง ๗๒ พรรษา” ทั้งสองแห่งนี้ เป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่บนถนนเจริญกรุง เป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวทุกภูมิภาคทั่วโลก อีกทั้งยังเชื่อว่าแลนด์มาร์กทั้งสองแห่งนี้จะมีเรื่องราวเป็นที่น่าดึงดูดนักท่องเที่ยวให้สนใจเลือกประเทศไทยเป็นหนึ่งในสถานที่ต้องมาเที่ยวให้ได้ครั้งหนึ่งในชีวิต

“จริงๆ แล้ว ถนนเจริญกรุงเคยมีบทบาทสำคัญทางด้านการค้าระหว่างประเทศในรัชสมัยเมือ เมื่อหนึ่งร้อยกว่าปีก่อน การมีซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติทั้งสองแห่งนี้บนถนนเจริญกรุงจะเป็นการกฟื้นฟูความสำคัญ และบทบาทของถนนเจริญกรุงให้กลับมาเป็นที่รุ่งโรจน์เฟื่องฟูอีกครั้ง และจะสอดคล้องความสำคัญและยิ่งใหญ่ของถนนเยาวราชที่มีความสำคัญและต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน” ผู้ว่า ททท. กล่าวเสริม

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานหอการค้าไทย และ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า หอการค้าไทยรู้สึกเป็นเกียรติและภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่มีโอกาสร่วมดำเนินงานจัดสร้างซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ ๗๒ พรรษา ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ จำนวน ๒ ซุ้มประตู อันเป็นมิ่งมงคลถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทุกคนปลื้มปีติและซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ หอการค้าไทยก่อตั้งขึ้นมา ๙๒ ปี สมัยก่อนชาวจีนอพยพเข้ามาในประเทศไทย ก่อร่างสร้างตัว ประกอบธุรกิจการค้าทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดทั่วทุกภูมิภาคของไทย ทำให้คนไทยที่ทำภาคเกษตร รู้จักการทำมาค้าขาย นำมาสู่การจัดตั้งหอการค้าในแต่ละจังหวัด ก่อนจะรวมกันเป็นหอการค้าไทย ถือเป็นองค์กรภาคเอกชนและภาคธุรกิจของคนไทยที่มีเครือข่ายอยู่ทั่วประเทศ โดยดำเนินงานเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมมาอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนปฏิบัติตามพระราชประสงค์เพื่อประโยชน์แก่ส่วนรวม และสนองงานตามแนวพระราชดำริในหลวง

“หอการค้าไทยปัจจุบันมีสมาชิกมากถึง ๑๕๖,๐๐๐ ราย ประกอบด้วยหอการค้าไทยทุกจังหวัด สมาคมการค้า ๑๗๔ แห่ง และหอการค้าต่างประเทศอีก ๔๐ ประเทศ พร้อมด้วยเครือข่ายภาคธุรกิจทั่วประเทศ รวมทั้งมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย รู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการจัดสร้างซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ ๗๒ พรรษา เพื่อเป็นการถวายพระเกียรติยศ แสดงออกถึงความจงภักดีต่อพระมหากษัตริย์ ผู้เป็นศูนย์รวมใจของชาวไทยทั้งชาติ และเป็นสัญลักษณ์แห่งความมั่นคง ร่มเย็น ภายใต้ร่มพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” นายสนั่น กล่าว

นายณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล ประธานหอการค้าไทย-จีน ในนามองค์กรชาวไทย เชื้อสายจีนในประเทศไทยกล่าวว่า หอการค้าไทย-จีน ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. ๒๔๕๓ จากสมาชิกหลักสิบเป็นหลักล้าน ล้วนได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระมหากษัตริย์ไทยทุกยุคทุกสมัย โดยบทบาทของหอการค้าไทย-จีน มุ่งตอบสนองความต้องการของชาวจีนที่อพยพเข้ามาในประเทศไทย ควบคู่การดำเนินกิจกรรมและโครงการต่างๆ ให้กับประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านการศึกษา การแลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรม จนกระทั่งการบริจาคช่วยเหลือเมื่อเกิดภัยธรรมชาติและภัยพิบัติในประเทศไทย กาลเวลาผ่านมาจวบจนถึงปัจจุบันกว่า ๑๑๕ ปี นายณรงค์ศักดิ์กล่าว

นายชิม ชินวิริยกุล นายกสมาคมแต้จิ๋วแห่งประเทศไทย ในนามองค์กรชาวไทยเชื้อสายจีนในประเทศไทย กล่าวว่าหอการค้าไทย-จีน มั่นคงภายใต้ร่มพระบารมี เป็นศูนย์รวมของนักธุรกิจไทยเชื้อสายจีน ชาวจีนโพ้นทะเล และนักธุรกิจชาวจีนที่มาทำการค้าการลงทุนในไทย ที่อพยพถิ่นฐานเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร มีคุณภาพชีวิตที่ดี และมีบทบาทในฐานะสะพานเชื่อมความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดระหว่างประเทศไทยและจีนในทุกมิติ โดยเฉพาะการค้าการลงทุน

ดร.กิตติ อิทธิภากร ประธานสหสมาคมตระกูลแซ่แห่งประเทศไทยในนามองค์กรชาวไทยเชื้อสายจีนในประเทศไทย กล่าวเสริมว่า “หอการค้าไทย-จีน น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ของพระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ ตลอดจนเคารพเทิดทูนพระบรมวงศานุวงศ์เป็นอย่างยิ่ง เนื่องในโอกาสมหามงคล ๗๒ พรรษา ชาวไทยเชื้อสายจีนทั่วประเทศต่างมีความปลื้มปีติ ทั้งพ่อค้าไทยจีนที่มาตั้งแต่รุ่นแรกๆ จนถึงนักธุรกิจรุ่นใหม่ ผนึกกำลังร่วมสนับสนุนการจัดสร้างซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งจะเป็นสัญลักษณ์แห่งความกตัญญูต่อแผ่นดิน ปรากฏชั่วลูกชั่วหลาน เหนือสิ่งอื่นใดเป็นสัญลักษณ์อันยิ่งใหญ่แสดงความจงรักภักดีต่อในหลวง ศูนย์รวมใจพสกนิกรทุกเชื้อชาติในประเทศไทย” ดร.กิตติกล่าวถึงความยิ่งใหญ่ซุ้มประตูมังกร สัญลักษณ์ที่นำมาซึ่งความสุขและความสงบร่มเย็นของปวงประชา

สำหรับพิธีเปิดซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ ๗๒ พรรษา ทางคณะกรรมการผู้จัดทำโครงการฯ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเป็นประธานเปิดซุ้มประตู “วชิรสถิต ๗๒ พรรษา” บริเวณสะพานดำรงสถิต และซุ้มประตู “วชิรธำรง ๗๒ พรรษา” บริเวณห้าแยกหมอมี จึงใคร่ขอเรียนเชิญพี่น้องชาวไทยทั่วประเทศและชาวไทยเชื้อสายจีน ร่วมเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จฯ ในวันเสาร์ที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๖๘ เวลา ๑๗.๐๐ น. ณ ถนนเจริญกรุง กรุงเทพมหานคร

พร้อมเชิญชวนประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า ได้มีส่วนร่วมจารึกประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ครั้งสำคัญ ด้วยการลงนามผ่านช่องทาง www.thaichamber.org/donation รวมพลังชูแลนด์มาร์ก “ซุ้มประตูมังกร” ถนนสายใยแห่งวิถีชีวิตและวัฒนธรรมไทย-จีนอันล้ำค่า หนึ่งในซอฟต์เพาเวอร์ของไทยให้ดังไกลไปทั่วโลก เป็นแหล่งท่องเที่ยวมงคล เปิดศักราชใหม่ เสริมพลัง รับความเฮง ในเทศกาลตรุษจีนปีมะเส็ง ๒๕๖๘

นอกจากนี้ยังเชิญชวนร่วมสั่งจองของที่ระลึกรับความมงคล "ซุ้มประตูมังกร" ซึ่งเหมาะสำหรับเป็นของขวัญให้คนพิเศษหรือเก็บไว้เป็นของที่ระลึก ประกอบไปด้วย ๑. ซุ้มประตู (ลงยา) มูลค่าเข็มละ ๑๐,๐๐๐ บาท (ได้รับหลังเสร็จงานพิธีเปิดซุ้ม) ๒. ชุดแก้งสูง เมลามีน 2 ชิ้น ๒ สี มูลค่าชุดละ ๕๐๐ บาท ๓. ชุดแสตมป์ รูปซุ้มประตูวชิรธำรง และซุ้มวชิรสถิต ในชุดมี ๘ ดวง มูลค่าชุดละ ๕๐๐ บาท สามารถสั่งจองได้ที่เบอร์ 081-626-2560

• ซุ้มประตูปัญจมังกรเฉลิมพระเกียรติ : ถาวรวัตถุจากดวงใจพสกนิกรทั่วประเทศ

โครงการจัดสร้างซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ ๗๒ พรรษาได้รับพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานชื่อซุ้มประตูทั้งสองซุ้ม เพื่อความเป็นสิริมงคลคือซุ้มที่ ๑ “วชิรสถิต ๗๒ พรรษา” หมายถึง พระบาทสมแด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา ๗๒ พรรษาซุ้มที่ ๒ “วชิรธำรง ๗๒ พรรษา” หมายถึง เอกลักษณ์แห่งการจารึกความเทิดทูนของมวลพสกนิกรทั่วประเทศ ต่อพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในอภิมหามงคลในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา ๗๒ พรรษา ด้วยพระบารมีปกเกล้าการสร้างซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ ๗๒ พรรษา จึงได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ นำโดย กรุงเทพมหานคร กระทรวงมหาดไทย กรมศิลปากร การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ตลอดจนองค์กรภาครัฐและภาคเอกชนทุกภาคส่วน และประชาชนทั่วประเทศ

  • ปัญจมังกร : สัญลักษณ์แห่งมังกรทั้งห้า การสร้างซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ ๗๒ พรรษา เกิดจากแนวคิด ปรากฏการณ์แห่งมังกรทั้ง ๕
  • พระมหากษัตริย์ทรงได้รับการสดุดี เป็น มังกรแห่งมวลมนุษย์
  • เป็นนักษัตรประจำปีพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
  • ปีพุทธศักราช ๒๕๖๗ เป็นนักษัตรปีมังกรตามสุริยคติ
  • วัดเล่งเน่ยยี่ หรือ มังกรกมลาวาส เป็นหนึ่งในศูนย์รวมใจพุทธศาสนิกชน
  • ถนนเจริญกรุง ได้ชื่อว่า “ถนนสายมังกร”

• สถาปัตยกรรม : ประยุกต์ศิลปะไทยกับจีน

เป็นศิลปะแบบจีนภาคเหนือ ลักษณะเป็นซุ้มคร่อมถนนเจริญกรุง มีฐานเสาคู่เดียวบนทางเท้าทั้งสองฝั่ง กึ่งกลางหลังคาชั้นบน ประดิษฐานตราสัญลักษณ์ท่ามกลางมังกรคู่หัวหน้าเข้าหาตราสัญลักษณ์ หลังคาและมังกรคู่เป็นสีเหลืองอันเป็นสัญลักษณ์แห่งพระมหากษัตริย์ เสาและส่วนประดับเป็นสีต่าง ๆ ที่ใช้สำหรับพระราชวังของจีน โครงสร้างภายในเป็นคอนกรีตเสริมใยแก้ว ฐานซุ้มเป็นฐานปัทม์ เอกลักษณ์ดอกไม้ไทย ออกแบบโดยกรมศิลปากร

เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติในวาระมหามงคลที่ยิ่งใหญ่นี้ รัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยได้ส่งมอบประติมากรรมมงคลประดับฐานของซุ้มประตูทั้งสองแห่งเพื่อเป็นการเชื่อมสัมพันธไมตรีที่ยั่งยืนมาตลอด ๕๐ ปี ประติมากรรม หินอ่อนหยกขาว ฮั่นไป๋ยู่ แกะสลักเป็นรูปช้าง สิงโต อย่างละสองคู่ และกลองสี่คู่ ซึ่งแกะสลักโดยประติมากรหินอ่อนเลื่องชื่อของจีนมาประดิษฐาน ณ ซุ้มเฉลิมพระเกียรติ เพื่อร่วมเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

• แนวความคิดในการออกแบบซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ ๗๒ พรรษา

ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ ๗๒ พรรษา ออกแบบเป็นซุ้มประตูแบบจีน สถาปัตยกรรมของซุ้มเป็นศิลปะแบบจีนภาคเหนือ มีลักษณะเป็นซุ้มคร่อมบนถนนเจริญกรุง มีฐานเสาอยู่บนทางเท้าทั้งสองฝั่ง เป็นซุ้มเสาคู่เดียว มีหลังคาด้านบนสามหลังคา ลดระดับสองชั้น ซ้ายขวา กึ่งกลางของหลังคาชั้นบนประดิษฐาน ตราสัญลักษณ์ งานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ประดิษฐานกลางมังกรคู่ หันหน้าเข้าหา ตราสัญลักษณ์ฯ ตัวมังกรคู่เป็นปูนปั้นระบายสี หมายถึงพสกนิกรไทย-จีน และชาวไทยเชื้อสายจีน ร่วมใจแสดงความจงรักภักดี เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ขององค์พระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ ที่ทรงพระมหากรุณาธิคุณปกเกล้าปกกระหม่อม ชาวไทย-จีน และชาวไทยเชื้อสายจีน ให้อยูร่มเย็นเป็นสุขภายใต้พระบรมโพธิสมภาร

การตกแต่งซุ้มประตู เลือกใช้หลังคาสีเหลือง ฐานานุศักดิ์ ขององค์จักรพรรดิ เสาสีแดง และประดับด้วยลวดลายมังกรห้าเล็บ หมายถึงพระมหากษัตริย์ สีแดงธาตุไฟ, สีเหลืองธาตุดิน, สีดำ สีนน้ำเงิน ธาตุน้ำ, สีเขียวธาตุไม้, สีขาวธาตุทอง สมัยราชวงศ์หมิงและชิง ซึ่งเป็นรูปแบบที่ใช้กับ พระราชวังจีน และอาคารทางราชการของจีน มีการประดับด้วยสัตว์สิริมงคลต่างๆ ประกอบด้วย เซียนขี่สัตว์ มังกร หงส์ สิงโต ม้าทะเล ม้าสวรรค์พยัคฆมัจฉา เป็นต้น

โครงสร้างภายใน เป็นโคงสร้างเหล็กรูปพรรณ เชื่อมต่อกันตามรูปทรงที่กำหนด ส่วนภายนอกใช้วัสดุ GRC คอนกรีตเสริมใยแก้ว (GRC ย่อมาจาก Glass Fiber Reinforced Concrete หรือก็คือการเสริมความแข็งแรงของคอนกรีตด้วยใยแก้ว) ทั้งหมด เพื่อช่วยลดน้ำหนักของซุ้มประตู การประดับตกแต่ง ซุ้มประตู ใช้วิธีเขียนลวดลาย ลงบนผิวคอนกรีตเสริมใยแก้ว จากนั้นเคลือยด้วยน้ำยาเคลือบ เพื่อให้เกิดความคงทนถาวร ส่วนฐานซุ้ม เป็นฐานปัทม์แบบศิลปะไทย ออกแบบโดยกรมศิลปากร ด้านบนประดับด้วย ประติมากรรมกลองหิน แกะสลักหินอ่อนขาว จากประเทศจีน ด้านหน้าและหลังของซุ้ม มีการประดับด้วยประติมากรรมช้าง และสิงโตแกะสลัก ด้วยหินอ่อนขาวจากประเทศจีน สนับสนุนโดย สาธารณรัฐประชาชนจีนร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ขั้นตอนการก่อสร้างใช้วิธีเตรียมวัสดุก่อสร้างทั้งหมดจากโรงงาน แล้วขนส่งมาประกอบ ยังสถานที่ก่อสร้าง และตกแต่งศิลปกรรมต่างๆ เพิ่มเติมจนแล้วเสร็จ

• ฉลองความสัมพันธ์ไทย-จีน ครบรอบ ๕๐ ปี ๒๕๖๘

สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ขอมีส่วนร่วมในกิจการงานอันยิ่งใหญ่นี้ มอบชุดประติมากรรมหินอ่อนแกะสลักให้กับซุ้มประตูทั้ง ๒ แห่งนี้ ด้วยประติมากรรมรูปช้างและสิงโตอย่างละสองคู่ และรูปกลองสี่คู่ ซึ่งแกะสลักจากหินอ่อนหยกสีขาว (หินฮั่นไป๋ยู่) ชั้นเลิศด้วยฝีมือช่างที่ยอดเยี่ยมของอำเภอฉวีหยาง มณฑลเหอเป่ย ซึ่งถูกขนานนามว่าเป็นแหล่งกำเนิดประติมากรรมแกะสลักของประเทศจีน โดยได้ใช้เวลาสี่เดือนในการแกะสลัก

ทั้งนี้ ประติมากรรมรูปช้างได้แกะสลักตามรูปแบบช้างพาหนะที่พระมหากษัตริย์ไทยทรงประทับในสมัยโบราณ ซึ่งเป็นช้างทรงเครื่อง ตัวหนังสือที่แกะสลักบนผ้าคลุมหลังช้างทั้งสี่ตัวนั้น เป็นคำว่า จี๋ (สิริ) เสียง (มงคล) หรู (สม) ยี่ (ความปรารถนา) ตามลำดับ ส่วนประติมากรรมรูปสิงโตนั้น แกะสลักตามรูปแบบสิงโตที่จัดวางอยู่ทั้งสองฝั่งหน้าประตูพระที่นั่งไท่เหอ ซึ่งเป็นอาคารที่มียศศักดิ์สูงที่สุดในพระราชวังต้องห้ามของกรุงปักกิ่ง สิงโตแต่ละคูมีทั้งเพศผู้และเพศเมีย ซึ่งป็นสัญลักษณ์ของอำนาจบารมีที่น่าเกรงขามและบุญวาสนาที่สืบทอดกันอย่างไม่ขาดสาย ส่วนประติมากรรมรูปกลองนั้น ได้แกะสลักลวดลายเมฆมงคล ซึ่งตามความเชื่อและประเพณีของชาวจีนหมายถึงความปรองดองสมานฉันท์ ความสมบูรณ์พูนสุข ความเจริญมั่นคงของบ้านเมืองและความสงบสุขของประชาชน

• ถนนเจริญกรุง ถนนสายแรกของประเทศไทย สู่ถนนสายมังกรอย่างสมบูรณ์แบบ

ถนนเจริญกรุงเคยมีบทบาทสำคัญทางด้านการค้าระหว่างประเทศในรัชสมัยเมื่อหนึ่งร้อยกว่าปีก่อน การมีซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติทั้งสองแห่งนี้บนถนนเจริญกรุง จะเป็นการฟื้นฟูความสำคัญ และบทบาทของถนนเจริญกรุงให้กลับมาเป็นที่รุ่งโรจน์เฟื่องฟูอีกครั้ง และจะสอดคล้องความสำคัญและยิ่งใหญ่ของถนนเยาวราชที่มีความสำคัญและต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน

—————
▶︎ อัปเดตข่าวสาร และบทความต่างๆ
คลิกดูต่อที่ insight-daily.com ได้เลย!

ดูข่าวต้นฉบับ