ทั่วไป

เจอแล้ว 2 พ่อลูก ทิ้งจดหมายลา ล่าสุดไม่ได้กระโดดสะพานอย่างที่หลายคนคิด

ThaiNews - ไทยนิวส์ออนไลน์
อัพเดต 14 ธ.ค. 2565 เวลา 06.01 น. • เผยแพร่ 14 ธ.ค. 2565 เวลา 05.11 น.

โล่งอก เจอตัวแล้ว 2 พ่อลูก ทิ้งจดหมายลาหลังเห็นเมียอยู่กับชายอื่น ล่าสุดไม่ได้กระโดดสะพานอย่างที่หลายคนคิด

คืบหน้าล่าสุดจากกรณีข่าวพ่อรายหนึ่งที่ตัดสินใจเขียนจดหมายลา คาดคิดสั้นจบชีวิตลูก หลังจากที่เพจ Udonthani Update ได้โพสต์ข้อความระบุถึงเหตุการณ์ที่ว่า เหตุด่วน พบจดหมายพร้อมรองเท้าเด็กและผู้ใหญ่ มีชาวบ้านพบเห็นพ่ออุ้มลูกเดินลงไปในหนองประจักษ์ เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างเมธา พร้อมชุดประดาน้ำลงพื้นที่ตรวจสอบนอกจากนี้ยังพบจดหมายฉบับหนึ่งมีข้อความเขียนว่า

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง
เจอแล้ว 2 พ่อลูก ทิ้งจดหมายลา ล่าสุดไม่ได้กระโดดสะพานอย่างที่หลายคนคิด

“ถึงน้องนิด..แม่ของน้องบอส…นิดทำแบบนี้ เพื่ออะไรทิ้งพี่กับลูกไป บอกไปทำงาน แต่ทำไมเห็นไปกับผู้ชายพี่ไม่เข้าใจ โอ.เค.ในเมื่อภาพมันฟ้องแล้ว พี่กับลูกก็จะตัดภาระให้นิดด้วย นิดจะได้สบายใจ” พี่กับลูก คาดว่าจะเดินลงน้ำหนองประจักษ์ บริเวณริมฝั่งหนองประจักษ์ด้านหลังพิพิธภัณฑ์เมืองอุดรธานี

“ถึงน้องนิด..แม่ของน้องบอส…นิดทำแบบนี้ เพื่ออะไรทิ้งพี่กับลูกไป บอกไปทำงาน แต่ทำไมเห็นไปกับผู้ชายพี่ไม่เข้าใจ โอ.เค.ในเมื่อภาพมันฟ้องแล้ว พี่กับลูกก็จะตัดภาระให้นิดด้วย นิดจะได้สบายใจ” พี่กับลูก คาดว่าจะเดินลงน้ำหนองประจักษ์ บริเวณริมฝั่งหนองประจักษ์ด้านหลังพิพิธภัณฑ์เมืองอุดรธานี

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง
เจอแล้ว 2 พ่อลูก ทิ้งจดหมายลา ล่าสุดไม่ได้กระโดดสะพานอย่างที่หลายคนคิด

ชาวบ้านผู้เห็นเหตุการณ์เผยว่าเห็นผู้ชายเดินลงไปในน้ำ ทราบแต่เพียงว่า เมื่อประมาณห้าโมงเย็นวานนี้เห็นผู้ชายผิวขาวอายุประมาณ 40-50 ปี อุ้มลูกน้อยลงหนองประจักษ์ โดยทิ้งรองเท้าและจดหมายลาไว้ริมฝั่งโดยเช้าวันนี้คาดว่าเจ้าหน้าที่กู้ภัยจะวางแผนการค้นหาอีกครั้ง ขณะที่ยังไม่มีญาติมาติดต่อว่าคนที่หายลงไปในหนองประจักษ์ว่าเป็นใครกันแน่

เจอแล้ว 2 พ่อลูก ทิ้งจดหมายลา ล่าสุดไม่ได้กระโดดสะพานอย่างที่หลายคนคิด
โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ล่าสุดมีรายงานว่าพบตัวแล้วชายที่อุ้มลูกกระโดดน้ำลงไปในหนองประจักษ์ อุดรธานี แล้ว พบไปเปิดโรงแรมนอนกับลูก ไม่ได้รับอันตรายอะไร เรียกได้ว่าหลายคนโล่งใจขึ้นมากที่ไม่เกิดเหตุร้ายขึ้น

ขอบคุณเพจUdonthani Update

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมที่ Tnews

ดูข่าวต้นฉบับ