จากเหตุเรือหลวงสุโขทัยอับปางกลางทะเลล่าสุด กองทัพเรือ ชี้แจงอย่าหลงเชื่อข่าวลือ กรณีมีรายงานข่าวพบกำลังพล ทร. เสียชีวิต1นาย
จากกรณีที่ เรือหลวงสุโขทัย ประสบอุบัติเหตุเจอคลื่นลมแรงในทะเลอ่าวไทย และได้จมลงใต้ทะเลประจวบคีรีขันธ์ ในช่วงกลางดึกของวันที่ 18 ธ.ค.2565 ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้กองทัพเรือกำลังปูพรมค้นหา กำลังพลเรือหลวงสุโขทัยอีก 31 นายลอยคอกลางทะเลอ่าวไทย พลัดหลงจากกระแสคลื่นลมแรงในทะเลระหว่างการช่วยเหลือ
ซึ่งในส่วนของข่าวที่มีการรายงานว่า เมื่อเวลา 12.40 น. ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล หรือศรชล. ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมรับกำลังพล ของกองทัพเรือ ที่ได้รับการช่วยเหลือจาก เรือ PATTARAVARIN 88 จำนวน 10 คน พบเสียชีวิต 1 ราย อีก 9 ราย มีสภาพอิดโรย โดยเรือยังไม่สารมารถเข้าฝั่งได้เนื่องจากสภาพคลื่นลมแรงจัด และน้ำมันเชื้อเพลิงไม่เพียงพอ จึงจอดสมอบริเวณบังคลื่น เกาะเสม็ด จ.ชุมพร
ล่าสุดกองทัพเรือ ออกมาชี้แจงกรณีเรือหลวงสุโขทัย อย่าหลงเชื่อข่าวลือที่บอกว่าพบกำลังพล ทร. เสียชีวิต 1ราย กองทัพเรือ ตรวจสอบแล้วไม่ใช่กำลังพลจากเรือหลวงสุโขทัย แต่เป็นลูกเรือจากเรือสินค้าอนุภูมิ ซึ่งได้อับปางลงเมื่อวานเช่นกัน(18ธ.ค.65)
- ทร.เร่งช่วยเหลือ 33 กำลังพล ถูกคลื่นซัดกระกระจายไปกลางทะเล หลังเรืออับปาง
- เรือหลวงสุโขทัย อับปางกลางอ่าวไทย หลังเจอคลื่นลมแรง
- เปิดคลิปนาที เรือหลวงสุโขทัย เกิดเหตุเรือเอียง หลังเจอคลื่นลมแรง
โดยในวันที่ 19ธ.ค.65 ทาง พลเรือเอก ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยถึงความคืบหน้า ในการค้นหาและช่วยเหลือกำลังพลเรือหลวงสุโขทัย จากเหตุเรือจมจากคลื่นลมแรง ขณะทำการลาดตระเวน อยู่บริเวณแบริ่ง 090 ระยะ 20 ไมล์ จากท่าเรืออำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ในการนี้ กองทัพเรือได้ตั้ง ศูนย์ประสานงานช่วยเหลือกำลังพลเรือหลวงสุโขทัย ขึ้นมาทำหน้าที่ในการประสานการปฏิบัติ เพื่อดำเนินการในการให้ความช่วยเหลือกำลังพลและกู้เรือหลวงสุโขทัย พร้อมทั้งส่งเรือและอากาศยาน ประกอบด้วย เรือหลวงอ่างทอง เรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช เรือหลวงกระบุรี เฮลิคอปเตอร์แบบซีฮอว์ค เครื่องบินลาดตระเวนแบบดอร์เนีย รวมถึงชุดป้องกันความเสียหายและกู้ภัยเรือ เร่งให้การช่วยเหลือเป็นการด่วน นอกจากนี้ได้ประสานหน่วยภายนอกเข้าร่วมให้การช่วยเหลือ
โดยปัจจุบันมีกำลังพลที่ได้รับความช่วยเหลือและนำขึ้นฝั่ง ณ ท่าเรือบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เรียบร้อยแล้ว จำนวน 72 นาย โดยมีกำลังพลจำนวน 11 นาย ถูกส่งเข้ารับการรักษาตัว ณ โรงพยาบาลบางสะพาน และกำลังพลจำนวน 61 นาย อาศัยอยู่ที่ศูนย์พักพิงของ อบต.แม่รำพึง ส่วนกำลังพลอีก 2 นาย ขณะนี้ที่อยู่บนเรือน้ำมัน “STRAITS ENERGY” กำลังเดินทางไปยังท่าเรือมาบตาพุด จังหวัดระยอง
สำหรับการปฏิบัติในพื้นที่เกิดเหตุ ในขณะนี้ เรือหลวงอ่างทอง เรือหลวงกระบุรี รวมถึงอากาศยานของกองทัพเรือและกองทัพอากาศได้ร่วมกันปฏิบัติภารกิจในการลาดตระเวนค้นหาและช่วยเหลือกำลังพลที่เหลือ โดยในช่วงเช้า เรือหลวงกระบุรีสามารถเข้าไปช่วยเหลือกำลังพลเรือหลวงสุโขทัย เพิ่มอีกจำนวน 1 นาย ขณะสวมชูชีพลอยคออยู่กลางทะเล
ทั้งนี้ เรือและอากาศยาน ยังคงทำการค้นหาและช่วยเหลือกำลังพลที่เหลืออีก 31 นาย โดยได้กำหนดพื้นที่ค้นหา ขนาดพื้นที่ 20 X 15 ตารางไมล์ ซึ่งอยู่ทางใต้ห่างจากจุดที่เรือหลวงสุโขทัยจมลง ประมาณ 18 ไมล์ทะเล โดยคำนวนจากทิศทางของกระแสน้ำและกระแสลม รวมทั้งบริเวณที่ตรวจพบและช่วยเหลือกำลังพลเรือหลวงสุโขทัยล่าสุด นำมาพิจารณาพื้นที่ที่เป็นไปได้ว่ากำลังพลที่เหลือจะอยู่ตรงบริเวณดังกล่าว
โดยสรุป การดำเนินการในขณะนี้ ตรวจพบและให้การช่วยเหลือกำลังพลที่ประสบภัยได้แล้ว 75 นาย คงเหลือกำลังพลที่ยังต้องค้นหาและช่วยเหลืออีก 31 นาย ทั้งนี้ ญาติพี่น้องของกำลังพลประจำเรือ สามารถติดสอบถามได้ที่ ศูนย์ประสานงานช่วยเหลือกำลังพลเรือหลวงสุโขทัยหมายเลขโทรศัพท์ 038 182 435 และ 084 002 3554
- โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า
จากการที่มีการนำเสนอข่าวว่าพบกำลังพลเรือหลวงสุโขทัย 10 นาย เสียชีวิต 1 นาย และอยู่ในสภาพอิดโรย 9 นาย นั้น จากการตรวจสอบ ขอยืนยันว่า ไม่ใช่กำลังพลเรือหลวงสุโขทัย แต่เป็นลูกเรือจากเรือสินค้าอนุภูมิ ซึ่งได้อับปางลงเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม ที่ผ่านมา จากเหตุคลื่นลมแรงเช่นกัน
ล่าสุด มีรายงานว่า กรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ ได้ออกประกาศคำเตือนเพื่อการเดินเรือ ที่ 91/2022 และ ที่ 92/2022 แจ้งชาวเรือหลีกเลี่ยงพื้นที่ค้นหา ช่วยเหลือผู้ประสบภัยรอบบริเวณ เรือหลวงสุโขทัย อัปปาง ตำบลที่ 11 องศา 00 ลิปดาเหนือ ลอง 99 53 ลิปดาตะวันออก สำหรับรายละเอียดการปฏิบัติเพิ่มเติม สำนักงานโฆษกกองทัพเรือ จะแจ้งให้ทราบในโอกาสต่อไป
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Tnews