มูลนิธิทันตนวัตกรรม ในพระบรมราชูปถัมภ์ หน่วยทันตกรรมพระราชทาน ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้หารือกับสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล เกี่ยวกับปัญหาทุพโภชนาการในผู้ป่วยโรคมะเร็งช่องปาก เนื่องจากแผลจากอาการของโรคและผลข้างเคียงจากการบำบัดรักษา ทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถบดเคี้ยวอาหารได้ตามปกติ จนเกิดปัญหาการขาดโปรตีนและพลังงาน และสิ้นสุดที่การให้อาหารบดผ่านสายยาง ซึ่งพบว่าผู้ป่วยมักมีอายุที่สั้นลง จึงมีความเห็นร่วมกันว่าควรมีการพัฒนาอาหารสำหรับผู้ป่วยกลุ่มนี้ ทั้งนี้มูลนิธิทันตนวัตกรรม ในพระบรมราชูปถัมภ์ฯ ได้ให้การสนับสนุนงบประมาณการวิจัยให้กับสถาบันโภชนาการ
อาหารที่สถาบันฯพัฒนาขึ้นเป็นรูปแบบเจลคล้ายวุ้นแต่มีความนุ่มและเนียนกว่า เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถเคี้ยวและกลืนได้โดยไม่สำลักหรือติดคอ โดยคุณลักษณะของเจลต้นแบบนี้ต้องผ่านการเห็นชอบจากแพทย์ ทันตแพทย์และพยาบาล ที่มีประสบการณ์การดูแลผู้ป่วยมะเร็งช่องปาก หลังจากนั้นจึงได้นำไปทดสอบความพึงพอใจในผู้ป่วยมะเร็งที่โรงพยาบาลมหาวชิราลงกรณ ธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี เมื่อได้คุณลักษณะของเจลที่ผู้ป่วยพึงพอใจแล้ว สถาบันฯจึงได้พัฒนาเจลให้มีคุณค่าทางโภชนาการที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วย ซึ่งมีพลังงาน ๑ กิโลแคลอรี ต่อ อาหาร ๑ กรัม และสัดส่วนของพลังงาน ได้แก่ ร้อยละ ๒๕ - ๓๐ มาจากไขมัน ร้อยละ ๒๐ มาจากโปรตีน และร้อยละ ๕๐ – ๕๕ มาจากคาร์โบไฮเดรท โดยโปรตีนเป็นโปรตีนคุณภาพดี และไขมันเป็นชนิดที่มีสัดส่วนกรดไขมันที่เหมาะสม นอกจากนี้อายุของเจลต้องไม่ต่ำกว่า ๑ ปี ที่อุณหภูมิห้อง สถาบันฯจึงเสนอให้พัฒนาให้ผลิตภัณฑ์แปรรูปด้วยกระบวนการอุลตร้าฮีททรีตเมนท์ (ultra heat treatment, UHT) หรือยูเอชที และบรรจุในกล่องปลอดเชื้อ ขนาด ๒๕๐ มิลลิลิตร
การพัฒนาสูตรเน้นการใช้วัตถุดิบที่มีจำหน่ายทั่วไปสำหรับอุตสาหกรรมอาหารภายในประเทศ ได้แก่ สารก่อเจล ซึ่งใช้วุ้น เจลาติน และสารคงตัวประเภทกัม แหล่งโปรตีนได้แก่นมที่ผ่านการย่อยน้ำตาลแลคโตส แหล่งไขมันได้แก่น้ำมันรำข้าว แหล่งคาร์โบไฮเดรท ได้แก่ มัลโตเด็กตริน (maltodextrin) น้ำตาลนมที่ถูกย่อยแล้ว น้ำตาลที่เติมเพื่อปรับรสชาติ รวมถึงน้ำตาลในผลไม้ที่เป็นส่วนผสม ในเบื้องต้นสูตรเจลอาหารได้พัฒนาขึ้นเป็น ๒ สูตร ได้แก่ เจลอาหารรสชานม และรสมะม่วง ทั้งนี้สถาบันฯ และมูลนิธิทันตนวัตกรรม ในพระบรมราชูปถัมภ์ฯ ได้รับความร่วมมือจากโรงพยาบาลมหาวชิราลงกรณ ธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ในการทดสอบการยอมรับเจลอาหารทั้งสองรสชาติ และการศึกษาผลต่อภาวะโภชนาการในผู้ป่วยโรคมะเร็งช่องปาก ซึ่งพบว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่ยอมรับได้ สามารถลดการความจำเป็นในการให้อาหารทางสายยาง และช่วยให้ผู้ป่วยมีภาวะโภชนาการที่ดีขึ้น
หากต้องการเจลลี่โภชนาพระราชทานต้องทำอย่างไร?
เจลลี่โภชนาพระราชทาน เป็นอาหารพระราชทาน ห้ามจำหน่าย จึงยังไม่สามารถหาซื้อได้ ณ ปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม มูลนิธิได้จัดทำโครงการอาหารพระราชทานสำหรับผู้ป่วยมะเร็งช่องปาก ซึ่งจะแจกจ่ายให้แก่ผู้ป่วยมะเร็งช่องปาก หรือ อื่นๆ ที่มีปัญหาการเคี้ยว การกลืน
หมายเหตุ
เนื่องจากผลิตภัณฑ์อยู่ระหว่างการทดสอบบรรจุภัณฑ์ใหม่และทดสอบกระบวนการผลิต เพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ปลอดภัยมีคุณภาพเป็นไปตามมาตรฐาน มูลนิธิทันตนวัตกรรมฯ จึงกำลังเร่งดำเนินการ เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่สมบูรณ์โดยเร็วที่สุด ขออภัยในความไม่สะดวก
ท่านสามารถติดต่อสอบถามได้ที่
โทร 02 318 2351-5 ต่อ 1416 , 1111 , 1414 หรือทางเฟสบุ๊ก https://goo.gl/AX9QCF
อ่านรายละเอียดเจลลี่พระราชทานทั้งหมด ที่นี่ https://www.mahidol.ac.th/th/research_innovati
mook เคยมีโอกาสได้ดูสกู๊ปสัมภาษณ์ผู้ป่วยและต้องการอาหารชนิดนี้ รู้สึกได้ถึงสายพระเนตรที่กว้างไกลและใส่ใจราษฎรอยู่เสมอ
10 ต.ค. 2560 เวลา 05.36 น.
baicha น่าจะมีการจดสิทธิบัตรแล้วนะ
กลัวต่างชาติอ้างว่าเป็นของเขา
10 ต.ค. 2560 เวลา 22.00 น.
Natwit มีประโยชน์ต่อคนที่ลำบากจากการรับประทานจริงๆครับ รู้สึกดีที่คนไทยยังรักกัน
10 ต.ค. 2560 เวลา 10.30 น.
Apisit Patcharaprase ขอบใจพ่อหลวงที่ห่วงประชาชนแม้เป็นกลุ่มเล็กๆ
17 ต.ค. 2560 เวลา 02.11 น.
. ถ้าอร่อยก็น่ากินนะ ทำเป็นเจลแบบปีโป้
14 ต.ค. 2560 เวลา 12.16 น.
ดูทั้งหมด