ไลฟ์สไตล์

บทบาทสตรี และ New Normal ฉบับ จอมพล ป. พิบูลสงคราม

Sarakadee Lite
อัพเดต 14 ก.ค. 2563 เวลา 14.52 น. • เผยแพร่ 14 ก.ค. 2563 เวลา 09.04 น.

เมื่อเอ่ยถึง จอมพล ป. พิบูลสงคราม ภาพหนึ่งที่นึกถึงคืองานด้านสร้างชาติ สร้างวัฒนธรรมใหม่แบบ New Normal การเปลี่ยนประเทศสู่สมัยใหม่ให้ทัดเทียมอารยะ พร้อมเร่งสร้าง “สำนึกความเป็นไทย” อย่างเร่งด่วนชนิดที่มีนโยบายหักดิบห้ามทำในสิ่งที่เป็นวิถีที่คนทั้งประเทศนิยมปฏิบัติมาแต่ดั้งเดิม ดังตอนหนึ่งในงานปราศรัยฉลอง วันชาติ เมื่อ 24 มิถุนายน 2483 ความว่า 

“การสร้างชาติก็คือการสร้างตัวของคนทุกคนในบรรดาประชากรของชาติให้ดี ถ้าเราทุกคนมีร่างกายแข็งแรง มีวัฒนธรรมดี มีศีลธรรมงาม และมีอารยธรรมดี-ดีอย่างไทยซึ่งไม่มีใครจะดีกว่าอยู่แล้ว ประกอบอาชีพให้รุ่มรวยดังนี้ ชาติไทยก็จะดีตามไปด้วยโดยมิต้องสงสัยเลย…”

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง
นโยบายมาลานำไทยสู่มหาอำนาจ

จากนโยบายสร้างชาติของ จอมพล ป. พิบูลสงคราม นี้เองที่ทำให้เกิดคำเรียกคนไทย พร้อมเปลี่ยนชื่อประเทศจาก สยาม เป็น ไทย เปลี่ยนชื่อภาษาอังกฤษจาก Siam เป็น Thailand อย่างที่ใช้ในปัจจุบัน

นอกจากนี้ในรัฐนิยมฉบับที่ 4 และ 6 ยังกำหนดให้มีการยืนตรงเคารพธงชาติ เปลี่ยนเนื้อเพลงชาติจาก “ประเทศสยามนามประเทืองว่าเมืองทอง…” เป็น “ประเทศไทยรวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย”

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง
ป้ายโฆษณาในวัฒนธรรมใหม่

ส่วนในรัฐนิยมฉบับที่ 10 ยังได้กำหนดให้คนไทยแต่งกายแบบไทยอารยะ นั่นก็คือคนไทยไม่ควรนุ่งโสร่ง ไม่เปลือยกายท่อนบน ไม่ใส่หมวกแขก โพกหัว ทูนของบนศีรษะ ผู้ชายควรแต่งตัวตามแบบสากล หรือสวมกางเกงตามแบบไทยขาสั้น สวมเสื้อกลัดกระดุมให้เรียบร้อย 

ส่วนผู้หญิงก็ควรไว้ผมยาวสวมเสื้อชั้นนอกให้สะอาดเรียบร้อย นุ่งผ้าถุงยาว และถ้าจะให้ครบเช็ตแต่งกายแบบไทยอารยะต้องใส่หมวกตามนโยบาย “มาลานำไทยไปสู่มหาอำนาจ” พร้อมกันนั้นก็ออกกฏ “ห้ามกินหมาก” ซึ่งในตอนนั้นการกินหมากถูกรัฐบาลมองว่าคือประเพณีที่เสื่อมเกียรติอย่างร้ายแรง ใครที่บ้วนน้ำหมากเลอะเทอะถือเป็นผู้ไม่มีวัฒนธรรม และยังมีการให้กระทรวงมหาดไทยในยุคนั้นห้ามประชาชนที่กินหมากติดต่อราชการเลยทีเดียว

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง
นักเรียนนายร้อยหญิงรุ่นแรก

นอกจากเรื่องการแต่งกาย การกินอยู่ ทรงผมแล้ว วัฒนธรรมและค่านิยมใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นก็คือเรื่อง บทบาทสตรี ถึงขั้นมีการออกคำสั่งให้สามียกย่องภรรยาตลอดเวลา ถ้าข้าราชการทะเลาะกับภรรยาถือเป็นการผิดวินัย และในปี พ.ศ. 2485 เรื่องสิทธิสตรีก็ก้าวกระโดดไปในขั้นเปิดรับ “นักเรียนนายร้อยหญิง” รุ่นแรก เพื่อส่งเสริมบทบาทสตรีในการป้องกันประเทศ เหตุที่จอมพลมีนโยบายส่งเสริมบทบาทสตรีเพราะคำกล่าวที่ว่า

“หยิงเปนส่วนหนึ่งของชาติ ก็ควนจะได้สร้างตนและช่วยชาติด้วยในตัว…ไครจะดูว่าชาตินั้นชาตินี้เจรินเพียงไดไนเมื่อผ่านไปชั่วแล่นแล้วก็มักจะตัดสินความเจรินของชาตินั้นตามความเจรินของฝ่ายหญิง”

การแต่งกายของสตรีแบบ New Normal สมัย จอมพล ป.

และสตรีในยุคสมัย จอมพล ป. ก็กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของงานฉลองรัฐธรรมนูญ โดยใน พ.ศ.2477 เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ได้มีการจัดประกวดนางงามในชื่อ นางสาวสยาม ขึ้นในงานเฉลิมฉลองรัฐธรรมนูญครั้งที่ 2 เปลี่ยนเป็น นางสาวไทย ในปี 2482 หลังจากการ เปลี่ยนชื่อประเทศจาก สยาม เป็น ไทย

ต้นเรื่อง : นิตยสาร สารคดี ฉบับ มิถุนายน 2557

The post บทบาทสตรี และ New Normal ฉบับ จอมพล ป. พิบูลสงคราม appeared first on SARAKADEE LITE.

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 6
  • pongpipat
    ไทยปัจจุยัน อยู่ในยุค ประชาชน ไร้ที่พึ่ง หวังพึ่งใครไม้ได้เลย ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรัฐบาล หรือฝ่ายค้าน หมดหวังกับกิงทัพ เลิกหวังกับตำรวจ ไม่เชื่อถือ องคาพยพในกระบวนการยุติธรรม ไม่ว่าจะเป็น อัยการ หรือ ศาล จบแล้ว อีกไม่นาน ผู้คนจะไม่กลัว และจะเปลี่ยนประเทศนี้เป็นระบบ สหพันธรัฐ ประเทศไทย
    14 ก.ค. 2563 เวลา 16.36 น.
  • Arpon
    ชอบเรื่องการแต่งกายของผู้หญิงค่ะ ชอบตรงที่ใส่หมวก แต่งตัวน่ารักเรียบร้อยสมเป็นกุลสตรีไทย ไม่เหมือนสมัยนี้
    14 ก.ค. 2563 เวลา 15.56 น.
  • P’Guy🎧
    อดีตที่ไม่มีวันหวนคืน
    14 ก.ค. 2563 เวลา 15.45 น.
  • GAD
    ถ้าเป็นสมัยนี้สิ่งที่คิดเปลี่ยนนี้เรียกว่าชังชาติ
    14 ก.ค. 2563 เวลา 15.35 น.
  • Mr.Aum
    จอมพล ป ยังมี ประโยชน์ กว่าจอมพล สลิด สะอีก
    14 ก.ค. 2563 เวลา 15.13 น.
ดูทั้งหมด