กีฬา

อินทรีเหล็กยิงพรุน-ดัตช์เจ๊าฉลุยทั้งคู่ โครแอต-ออสเตรียเก็บชัยซิวตั๋วไปยูโร 2020

Khaosod
อัพเดต 16 พ.ย. 2562 เวลา 22.19 น. • เผยแพร่ 16 พ.ย. 2562 เวลา 22.19 น.

เยอรมนีถล่มเบลารุสยับเยิน ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายยูโร 2020 พร้อมเนเธอร์แลนด์ที่บุกเจ๊าไอร์แลนด์เหนือ ด้านโครเอเชียและออสเตรียต่างเก็บชัยสำเร็จอส่งผลให้คว้าตั๋วเช่นกัน

เกาะติดข่าวกีฬา แค่กดติดตาม ไลน์@ข่าวสดกีฬา ที่นี่

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง
เพิ่มเพื่อน

การแข่งขันฟุตบอลยูโร 2020 รอบคัดเลือก เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน กลุ่มซี “อินทรีเหล็ก”เยอรมนี เปิดสนามโบรุสเซีย ปาร์ก รับการมาเยือนของเบลารุส

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

เกมนี้เจ้าถิ่นส่ง ติโม แวร์เนอร์, แซร์ช นาบรี, เลออน โกเรตซ์กา ลงตัวจริง ส่วนทีมเยือนนำโดย เดนิส ลัปเทฟ, อิกอร์ สตาเซวิช, สตานิสลาฟ ดรากุน

ครึ่งแรกต้องรอถึงนาที 41 กว่าจะมีประตูเกิดขึ้น แซร์ช นาบรี ลุยเข้าทางด้านขวาของกรอบเขตโทษ แล้วเปิดเรียดไปหน้าประตูให้ มัตธิอัส กินเตอร์ ตวัดลูกไขว้ผ่านเซฟนายทวารเข้าไป เยอรมนีนำ 1-0

ครึ่งหลังนาที 49 เยอรมนีได้เตะมุมฝั่งขวา โทนี โครส เปิดเรียดเข้าเขตโทษหลุดไปถึง เลออน โกเรตซ์กา ตวัดยิงเสียบตาข่าย สกอร์กลายเป็น 2-0

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

นาที 55 มัตธิอัส กินเตอร์ ได้บอลบริเวณมุมกรอบเขตโทษด้านขวา แล้วตวัดไปแถวหัวกะโหลกหน้าเขตโทษให้ โทนี โครส วิ่งมากดโดยไม่ต้องจับพุ่งเสียบตาข่าย เจ้าถิ่นนำไกล 3-0

นาที 75 เบลารุสน่าตีไข่แตก พาเวล เนไคชิก หลุดเข้าเขตโทษแล้วโดน โรบิน ค็อก ชนจากข้างหลังล้มลง อิกอร์ สตาเซวิช รับหน้าที่สังหารไปโดน มานูเอล นอยเออร์ พุ่งเซฟได้เยี่ยม

นาที 83 อิลคาย กุนโดกัน ได้บอลในกรอบเขตโทษแล้วจ่ายให้ โทนี โครส โชว์ดึงบอลหนีคู่แข่ง ต่อด้วยล็อกหลบกองหลังอีกราย แล้วตวัดยิงเข้าไปอย่างยอดเยี่ยม เป็นลูกปิดท้ายให้เยอรมนีชนะสวยงาม 4-0

อีกคู่ในกลุ่มเดียวกัน ไอร์แลนด์เหนือเปิดบ้านเสมอ “กังหันสีส้ม”เนเธอร์แลนด์ 0-0 โดยเกมนี้ สตีเวน เดวิส กองกลางไอร์แลนด์เหนือ ซัดจุดโทษพลาดนาที 32

เท่ากับว่าเยอรมนีแซงขึ้นมานำจ่าฝูง(7 นัด 18 แต้ม) ตามด้วยอันดับ 2 เนเธอร์แลนด์(7 นัด 16 แต้ม) โดยทั้งคู่คว้าตั๋วผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายแน่นอนแล้ว

ส่วนอันดับ 3 ไอร์แลนด์เหนือ(7 นัด 13 แต้ม) กับอันดับ 4 เบลารุส(8 นัด 4 แต้ม) ตกรอบคัดเลือกปกติ แต่ยังได้โอกาสไปเพลย์ออฟต่อ ด้านอันดับ 5 เอสโตเนีย(7 นัด 1 แต้ม) ตกรอบ

ส่วนกลุ่มอี “ตาหมากรุก”โครเอเชีย รองแชมป์โลก 2018 เปิดบ้านชนะสโลวะเกีย 3-1 เจ้าถิ่นได้จาก นิโคลา วลาซิช นาที 56, บรูโน เพตโควิช นาที 60, อิวาน เปริซิช นาที 74 ส่วนทีมเยือนได้จาก โรเบิร์ต โบเซนิก นาที 32

อีกคู่ในกลุ่มนี้ อาเซอร์ไบจาน แพ้ เวลส์ 0-2

ทำให้โครเอเชียเข้ารอบสุดท้ายในฐานะแชมป์กลุ่ม(8 นัด 17 แต้ม) ปล่อยให้อันดับ 2 ฮังการี(7 นัด 12 แต้ม) อันดับ 3 เวลส์(7 นัด 11 แต้ม) อันดับ 4 สโลวะเกีย(7 นัด 10 แต้ม) ไปชิงตั๋วกันเองนัดสุดท้าย ด้านอันดับ 5 อาเซอร์ไบจาน(7 นัด 1 แต้ม) ตกรอบไปแล้ว

กลุ่มจี ออสเตรียเฉือนชนะนอร์ทมาซิโดเนีย 2-1 เจ้าถิ่นได้จาก ดาวิด อลาบา นาที 8, คอนราด ไลเมอร์ นาที 48 ส่วนทีมเยือนได้จาก วลัตโก สโตยานอฟสกี นาที 90

ผลคู่อื่น สโลวีเนีย ชนะ ลัตเวีย 1-0, อิสราเอล แพ้ โปแลนด์ 1-2

ทำให้ผ่าน 9 นัด โปแลนด์คว้าแชมป์กลุ่ม(22 แต้ม) ตามด้วยอันดับ 2 ออสเตรีย(19 แต้ม) ทั้งคู่ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้าย

ส่วนอันดับ 3 สโลวีเนีย(14 แต้ม) อันดับ 4 นอร์ทมาซิโดเนีย(11 แต้ม) อันดับ 5 อิสราเอล(11 แต้ม) และอันดับ 6 ลัตเวีย(0 แต้ม) โดยนอร์ทมาซิโดเนียและอิสราเอลได้เพลย์ออฟต่อ ที่เหลือตกรอบ

กลุ่มไอ “หมีขาว”รัสเซีย พ่ายคารังต่อ “ปีศาจแดง”เบลเยียม” 1-4 ทีมเยือนได้จาก ธอร์กาน อาซาร์ นาที 19, เอเดน อาซาร์ นาที 33 และ 40, โรเมลู ลูกากู นาที 72 ส่วนเจ้าถิ่นได้จาก จอร์จี ชิคิยา นาที 79

ผลคู่อื่น ไซปรัส แพ้ สกอตแลนด์ 1-2, ซานมาริโน แพ้ คาซัคสถาน 1-3

ผ่านไป 9 นัด เบลเยียมคว้าแชมป์กลุ่มไปครอง(27 แต้ม) ตามด้วยรองแชมป์กลุ่มรัสเซีย(21 แต้ม) ทั้งคู่เข้ารอบสุดท้ายนานแล้ว

ด้านอันดับ 3 สกอตแลนด์(12 แต้ม) อันดับ 4 ไซปรัส(10 แต้ม) อันดับ 5 คาซัคสถาน(10 แต้ม) และอันดับ 6 ซานมาริโน(0 แต้ม) โดยสกอตแลนด์ได้ไปเพลย์ออฟต่อ ที่เหลือตกรอบ

ดูข่าวต้นฉบับ