เมื่อวานนี้ (16 พฤศจิกายน 2562) นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคเพื่อไทย และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้แสดงความเห็นต่อนโยบายชิมช้อปใช้ที่ออกมาอย่างต่อเนื่องท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจของไทยที่ตกต่ำว่า
1) โครงการ “ชิมช้อปใช้” เป็นการใช้เงินที่รวมในรายจ่ายงบประมาณรัฐบาล 3.2 ล้านๆบาท อยู่แล้ว โดยรัฐบาลจะเก็บภาษี (ดูดเงินออกจากระบบเศรษฐกิจ) จำนวน 2.73 ล้านๆบาท และไปกู้มาสมทบการขาดดุล 4.69 แสนล้านบาท ซึ่งจะทำให้ระบบเศรษฐกิจเจริญเติบโต 2.8% เงินที่ใช้ในโครงการ ชิมช้อปใช้ (3 เฟส) ประมาณ 22,000 ล้านบาท จึงไปลดโครงการการลงทุนอื่นๆ ของรัฐบาล ซึ่งอาจมีประโยชน์มากกว่าการใช้จ่ายในโครงการนี้ แล้วหมดไป
2) เป็นความเข้าใจผิดของรัฐบาล ที่คิดว่าเงินชิมช้อปใช้ จะกระตุ้นเศรษฐกิจได้ เพราะการคิดเรื่องกระตุ้นระบบเศรษฐกิจ เราต้องคิดถึงขนาดรายจ่ายรัฐบาลทั้งหมด หักด้วยเงินภาษีที่รัฐบาลเอาออกจากระบบเศรษฐกิจ ซึ่งเงินกระตุ้นก็คือ 4.69 แสนล้านบาท ว่าจะมีผลต่อระบบเศรษฐกิจปัจจุบันซึ่งมีขนาด 17.8 ล้านๆบาท เท่าไร และหากนับเฉพาะเงินโครงการ ชิมช้อปใช้ จะคิดเป็นเพียง 0.12% ของ GDP เท่านั้น ซึ่งเปรียบเสมือนหยิบเม็ดทรายขว้างลงไปในทะเล แล้วหวังว่าน้ำทะเลจะกระเพื่อม
3) เป้าหมายที่แท้จริงของรัฐบาลในโครงการ ชิมช้อปใช้ ทั้ง 3 เฟส ดูเหมือนเป็นการแจกเงินเพื่อหาเสียงล่วงหน้า เพื่อให้คน 15 ล้านคน รู้สึกดี ได้เงินฟรีๆ จากรัฐบาล (แต่ความจริงเป็นเงินที่รัฐบาลไปกู้มา เพราะงบประมาณขาดดุลฯ ต้องเก็บภาษีจากประชาชนคืนในอนาคต) รู้สึกเป็นหนี้บุญคุณรัฐบาล แต่จะทำให้นิสัยแย่ลง อาจทำงานน้อยลง รอเงินแจกจากรัฐบาลมากขึ้นเรื่อยๆ หากทำเช่นนี้ไปนานๆ วันหนึ่งประเทศไทยอาจเหมือน เวเนซุเอลา ที่เคยร่ำรวยส่งออกน้ำมันเป็นอันดับ 2 ของโลก ปัจจุบันล่มจมไม่มีจะกิน…แม้ องค์กร IMF ก็ได้แสดงความไม่เห็นด้วย กับโครงการชิมช้อปใช้ ของรัฐบาลไทย
4) รัฐบาลควรส่งเสริมให้ประชาชนทำงานมากๆ (มีวันหยุดไม่มากเกินไป เพราะเรายังยากจน) คนไทยจึงจะมีผลผลิตมากๆ มีรายได้มากขึ้น โดยใช้จ่ายบริโภคน้อยลง แต่ออมเงินมากขึ้น เพื่อนำไปฝากไปลงทุน ประเทศไทยจึงจะเจริญเติบโตในอัตราสูงขึ้น ประชาชนไทยจึงจะมีอนาคต มีฐานะความเป็นอยู่ดีขึ้น การส่งเสริมให้ประชาชนเป็นหนี้เพิ่มขึ้น เพื่อนำไปใช้จ่ายแล้วหมดไป จึงเป็นเรื่องที่ผิด ไม่ถูกต้อง รัฐบาลไม่ควรทำ ครัวเรือนไทยโดยรวมเป็นหนี้กว่า 13 ล้านๆบาท คิดเป็น 78.7% ของ GDP ซึ่งสูงมาก นับเป็นที่ 2 ในเอเชีย การเพิ่มหนี้ครัวเรือนขึ้นอีก จะทำให้ประเทศไม่เจริญเติบโต และอาจล้มละลายได้ในอนาคต
Pia ตอนเป็นรัฐบาลพรรคมึงโกงไปกี่แสนล้านมึงไม่ห่วงเศรษฐกิจตกต่ำ. นั่งรุดสากกะเบือเล่นได้นะ
17 พ.ย. 2562 เวลา 01.23 น.
preeda phoopao มึงคงคิหละสิ โครงการง่ายทำไมเจาะฐานคะแนนเสียงพวกมึงได้ ถ้าปล่อยไว้พวกมึงตายหมด
17 พ.ย. 2562 เวลา 01.43 น.
1 LEVEL 🎱 🐒 ชิม,shop,ใช้ นั้น ต้องปรับเปลี่ยนไปเพื่อให้เกิดการหมุนเวียนแบบฟันเฟือง (ฝันเฟื่องนั้นเป็นไปไม่ได้ ) แจกเงินสำหรับบุคคลที่ยังไม่ได้สิทธิ์ แล้วให้ใช้สิทธิ์ของตนเอง 30% (เงินตนเอง แต่ไม่เกิน 900 บาท)ในสินค้าชนิดเดียวกัน (ยกเว้นสินค้าในห้างฯทุกชนิด (แต่อนุโลมให้ไม่เกิน 300 บาท ) ระยะเวลา 1 เดือน ป.ล.คนว่างงานนั้นลดลงไม่น้อยกว่า 60% หมุนเวียนไปทุก 10 จังหวัด แต่ไม่เกิน 10 เดือน is เดือนเมษา & เดือน ธันวาคม only🚶♂️🚶♀️🚶♂️🚶♀️🚶♂️🕺🚶♂️🚶♀️🚶♀️👨👩👧👧🤳👨👩👧👧👨👩👦👦
17 พ.ย. 2562 เวลา 01.42 น.
Tu เห็นด้วยเรื่องให้ ปชช ขยันทำมาหากิน ประหยัด และเก็บออม เดี๋ยวนี้มีแต่รัฐบาลที่ต้องการให้ใช้เงินมากๆ บอกว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ คนไหนที่รู้ตัวว่าตัวเองยังมีหนี้อยู่ เลยไม่รู้จักการใช้เงิน ออมเงินเลย แล้วอนาคตล่ะ ถามว่าที่รัฐบาลให้เงิน 1000 บาท แล้วคุณใช้จริงๆ เท่านั้นเหรอ ประหยัดๆกันบ้าง สำหรับคนที่ยังต้องผ่อนบ้าน ผ่อนรถ
17 พ.ย. 2562 เวลา 01.59 น.
Thawatchai3 เอาจริงๆเห็นตั้งแต่ตาตู่มา การก่อสร้างเต็มไปหมด เยอะมากกว่ารัฐบาลเพื่อไทย
17 พ.ย. 2562 เวลา 01.03 น.
ดูทั้งหมด